พ่อ น้องแพน เผย ไม่เคยฟ้องยึดเงินบริจาค 4.8 ล้านบาท ไม่เคยทอดทิ้งลูก  

             พ่อ น้องแพน เผย ไม่เคยฟ้องยึดเงินบริจาค 4.8 ล้านบาท ไม่เคยทอดทิ้งลูก
            วันที่ 14 พฤษภาคม นายเพิน วงค์กระโซ่ พ่อของน้องแพน ผู้ป่วยป่วยเป็นมะเร็งปากเสียชีวิต โดยมีทรัพย์มรดกที่ยังคงเหลือจากการได้รับบริจาคเป็นเงินประมาณ 4.8 ล้านบาท และกลายเป็นประเด็นปัญหาความขัดแย้งระหว่างฝ่ายยาย กับ พ่อของน้องแพน ในเรื่องการแบ่งปันเงินจำนวนดังกล่าว เปิดเผยกับ ผู้สื่อข่าวว่า ตามที่มีข่าวปรากฏอยูในสื่อต่างๆ ว่า พ่อฟ้องศาล ขอยึดเงินบริจาค 4.8 ล้าน หลังลูกเป็นมะเร็งเสียชีวิต นั้น ไม่เป็นความจริง โดยตนไม่เคยยื่นฟ้องขอยึดเงินบริจาคและไม่เคยยื่นฟ้องคดีใดๆ ต่อศาลเกี่ยวกับเงินบริจาคเลย  "ผมรู้สึกเสียใจที่มีข่าวซึ่งไม่เป็นเรื่องจริงถูกนำเสนอเผยแพร่ออกไปจนทำให้ประชาชนและสังคมเกิดความเข้าใจผิดในข้อเท็จจริง และรู้สึกไม่ดีเกิดดราม่าเคียดแค้นว่าพ่อน้องแพนจะยึดเงินบริจาคทั้งหมด อยากวิงวอนให้สื่อและสังคมเปิดใจรับฟังอย่างปราศจากอคติ ให้เวลาทั้งสองฝ่ายได้มีโอกาสชี้แจงพูดคุยอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ไม่ฟันธงล่วงหน้า ไม่เหยียด ไม่ดร่ามา อยากให้มีคนกลางเข้ามาช่วยให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาใช้ชีวิตอย่างครอบครัวเดียวกั มีความรักใคร่ผูกพันกันเหมือนเดิม อยากวิงวอนขอร้องว่าไม่ควรสร้างกระแสทำให้คนที่เคยอยู่ร่วมกันเกิดความเข้าใจผิดต่อกัน ต้องแตกแยก รังเกียจกัน ไม่มองหน้ากัน จ้องแต่จะหาเรื่องแจ้งความดำเนินคดีกัน ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคม" นายเพลินกล่าว

          นายเพิน กล่าวว่า อยากฝากไปถึงยายแจ๋วและน้าเตี้ยว่าทางพ่อไม่เคยคิดอะไรที่เป็นทางไม่ดีหรือมีอคติด้วยเลย มีอะไรที่ไม่เข้าใจอยากให้คุยกันโดยตรงเหมือนกับที่เป็นครอบครัวเดียวกันเคยอยู่ร่วมกันเช่นเดิม ไม่อยากให้ฟังความจากคนอื่นที่ไม่เป็นเรื่องจริงแล้วเอามาใส่ร้ายปักปรำให้เกิดความเข้าใจผิดกันโกรธกัน บางครั้งถ้าผมพูดอะไรผิดไปก็ต้องขอโทษด้วย แต่ในใจผมไม่ได้คิดอะไร แต่เนื่องจากคำพูดที่ว่าพ่อไม่เคยมาดูแลอะไรน้องแพนเลย มันเหมือนกับเป็นคำกล่าวหาที่ทำให้ผมทั้งน้อยใจและโกรธ ซึ่งความจริงยายแจ๋วและน้าเตี้ยก็รู้ดีอยู่แล้วว่าผมก็เลี้ยงดูแลน้องแทนอยู่เช่นกัน เพียงแต่ผมต้องทำงานหาเงินเพราะเรามีฐานะยากจนก็เป็นเรื่องปกติที่จะไม่ได้มีเวลามาดูน้องแพนได้มากนัก อีกทั้งน้องแพนก็เป็นผู้หญิง อายุก็มากแล้วไม่ใช่เด็กหญิงการที่ยายแจ๋วและน้าเตี้ยเป็นผู้ดูแลจึงเป็นเรื่องที่จะสะดวกมากที่สุด แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกก็ยังมีเช่นเดิมเหมือนครอบครัวปกติทั่วไป
ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​