อบจ.อุดรธานี ร่วมต้อนรับนายเฉิน หู รองประธานบริหารกลุ่ม Guizhou Huayu สาธารณรัฐประชานจีนพร้อมรับฟังการหารือความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ฯ
วันที่ 10 เม.ย. 2568 เวลา 15.00 น.นายศราวุธ เพชรพนมพร นายก อบจ.อุดรธานี มอบหมายให้ จ.ส.อ.สามิตร ศรีสองเมือง หัวหน้าสำนักปลัด อบจ.อุดรธานี เข้าร่วมต้อนรับนายเฉิน หู รองประธานบริหารกลุ่ม Guizhou Huayu สาธารณรัฐประชานจีน นายไพศาล พงศ์มากสุข เลขาธิการ การลงทุนของมณฑลกุ้ยโจว ประขำประเทศไทย และหัวหน้าคณะผู้แทนธุรกิจมณฑลกุ้ยโจว (สาธารณรัฐประชานจีน) พร้อมรับฟังการหารือความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างมณฑลกุ้ยโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน และ จ.อุดรธานี ประเทศไทย ณ ห้องประชุมคำชะโนด อาคาร 2 ชั้น 2 ศาลากลาง จ.อุดรธานี โดยมี นายราชัน ซุ้นหั้ว ผวจ.อุดรธานี เป็นประธานกล่าวต้อนรับ/ประธานการประชุม นายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิน รอง ผวจ.อุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟัง
นายเฉิน หู รองประธานบริหารกลุ่ม Guizhou Huayu สาธารณรัฐประชานจีน กล่าวว่า “ภายใต้การนำอันชาฉลาดของพระบรบรมวงศานุวงศ์โทยและรัฐบาลไทยในอดีตจนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทุกด้าน การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมมีความก้าวหน้าและใด้รับคำชื่นชมอย่างมาก ภายใต้บริบทของความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และโครงการสายแถบและเส้นทาง(Belt and Road Initiative) ประเทศไทยและประเทศจีนได้ร่วมมือกันสร้างทางรถไฟสายกลางของโครงการรถไฟแพนเอเชีย (รถไฟความเร็วสูงจีน-ไทย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "แถลงการณ์ร่วมระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วยการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ที่มุ่งเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อส่งเสริมการสร้างชุมชนจีน - ไทยที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนด้วยอนาคตร่วมกัน" ได้ผลักดันความร่วมมือระหว่างสองประเทศไปสู่จุดสูงสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนโดยภาคธุรกิจของจีนตอบสนองต่อแนวนโยบายของรัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างแข็งขัน พวกเขาให้ความสำคัญกับความแตกต่างของระดับการพัฒนาระหว่างสองประเทศ ใช้การปรึกษาหารือเป็นพื้นฐานและร่วมกันสร้างผลประโยชน์ร่วมกันเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและส่งเสริมการค้าระหว่างกัน และมณฑลกุ้ยโจวเป็นตัวอย่างสำคัญของการเปิดกว้างภายในประเทศจีน ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐบาลจีน โดยคณะกรรมการพรรคประจำมณฑลกุ้ยโจวและรัฐบาลประชาชนมณฑลกุ้ยโจวได้ระดมประชาชนจากทุกทุกลุ่มชาติพันธุ์ทั่วทั้งมณฑลให้ทำงานอย่างไม่ลดละ ด้วยความทุ่มเทอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ทุกอำเภอมีถนเชื่อมต่อกันและทุกหมู่บ้านสามารถเข้าถึงถนนได้ มีทำเรือโลจิสจิสติกส์นานาชาติเมืองกุ้ยหยาง ซึ่งเป็นท่าเรือโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ได้สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว เศรษฐกิจของมณฑลมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และภายใต้แนวทางของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มณฑลกุ้ยโจวประสบความสำเร็จในการขจัดความยากจนอย่างสิ้นเชิง ซึ่งถือเป็นความสำเร็จทางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่น ในการนี้ หัวหน้าคณะผู้แทนธุรกิจมณฑลกุ้ยโจว (ประเทศจีน) รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้นำคณะผู้แทนมาเยือน จ.อุดรธานีอีกครั้ง เราได้พิจารณาข้อได้เปรียบที่โดดเด่นของ จ.อุดรธานีอย่างถี่ถ้วน ซึ่งได้แก่ การเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญ ศูนย์กลางกระจายผักหลักของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย การมีนิคมอุตสาหกรรมที่มีการวางแผนอย่างดี และการมีทรัพยากรโพแทชอุดมสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีความตั้งใจที่จะสำรวจแนวทางความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างภาคธุรกิจของมณฑลกุ้ยโจวและ จ.อุดรธานี เราได้ทุ่มเทให้กับการศึกษาวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับความร่วมมือดังกล่าว เมื่อพิจารณาถึงบทบาทสำคัญของ จ.อุดรธานีใน "แผนฟื้นฟูภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย" รวมถึงข้อได้เปรียบด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของจังหวัด ทางคณะผู้แทนธุรกิจมณฑฑลกุ้ยโจว (ประเทศจีน) ต้องการรายงานต่อ ผวจ.อุดรธานี ถึงศักยภาพของความร่วมมือในโครงการที่เกี่ยวข้อง โดยขอความกรุณาจาก ผวจ.อุดอุดรธานีในการรับฟังข้อเสนอ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับคำแนะนำจากท่าน โดยเป้าหมายของเราคือการมีส่วนส่วนร่วมอย่างมีนัยสำคัญต่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน และ จ.อุดรธานี ประเทศไทย”
โครงการที่เสนอได้แก่
1. ศูนย์ฉายรังสีร่วม ซีโนไทย (บริษัท อุตรธานีฉายรังสี จำกัด ในประเทศไทย)
2. ท่าเรือโลจิสติกส์ระหว่างประเทศจีน - อาเขียน ณ อุตรธานี ประเทศไทย
3. การพัฒนาเหมืองแรโปแตส ไทย - จีน
4. บริษัท ไทย - จีน Compound Fertilizer Manufacturing Co.l.td.
5. ศูนย์กลางการค้าเครื่องจักรกลเกษตรและอุปกรณ์การเกษตร ไทย - จีน
6.การก่อสร้างฐานอุตสาทกรรมมคมีโพแทแทเซียมในทวีปเชีย (ประเทศ)
อบจ.ทันสมัย ใส่ใจทุกมิติ พัฒนาอย่างยั่งยืน
//////////////////////////////////////////////////////////////////////