ศรีสะเกษ นายก อบต.เวียงเหนือปืนลั่นโป้งถูกหน้าอกสาวหัวหน้าสำนักปลัดดับอนาถ นายอำเภอกันทรลักษ์ประกาศพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายตามพยานหลักฐาน  

 

 

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อบต.เวียงเหนือ ต.เวียงเหนือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ  นายสุกิจ   เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ พร้อมด้วย  พ.ต.อ.นรินทร์  บุพตา  ผกก.สภ.กันทรลักษ์  พ.ต.ท.ประมุขก์   ห่ามกระโทก  สว.(สอบสวน) สภ.กันทรลักษ์และเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.กันทรลักษ์                             ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งมีการใช้อาวุธปืนยิงกันเสียชีวิต เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 ส.ค. 64  ที่ผ่านมา โดยคณะของนายอำเภอกันทรลักษ์ ได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติงานของ                     กองช่าง อบต.เวียงเหนือ โดยมีเจ้าหน้าที่ของ อบต.เวียงเหนือ ให้การต้อนรับและนำตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ  พบว่า บริเวณที่เกิดเหตุมีการล้างคราบเลือดและเก็บข้าวของส่วนหนึ่งไว้เป็นระเบียบแล้ว  และพบขวดเบียร์และขวดเปล่าของน้ำอัดลมหลายขวดวางอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุด้วย  ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด  เพื่อประกอบหลักฐานในการดำเนินคดีนี้

โดยเหตุสะเทือนขวัญนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 24ส.ค.64  พ.ต.ท.ประมุขก์  ห่ามกระโทก สว.(สอบสวน) สภ.กันทรลักษ์  จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลกันทรลักษ์ว่า มีเหตุผู้ถูกอาวุธปืนยิง มาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา   ดังนั้น จึงได้เดินทางไปตรวจสอบทราบชื่อผู้เสียชีวิตภายหลังว่าคือ นางลักขณา  โททอง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 8 ตำบลหนองงูเหลือม อำเภอเบญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ อาชีพรับราชการ ตำแหน่ง หัวหน้าสำนักปลัด อบต.เวียงเหนือ  มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกด้านขวาเป็นเหตุให้เสียชีวิต  ทราบชื่อผู้ก่อเหตุภายหลังว่าคือ  นายประกอบ  อินอร่าม ตำแหน่ง นายก อบต.เวียงเหนือ  อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้เสียชีวิต

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า  ก่อนเกิดเหตุ นายประกอบ ร่วมกับ นางลักขณาและเพื่อนร่วมงานจำนวนหนึ่งได้นั่งดื่มเบียร์กันในห้องปฏิบัติงานของกองช่างหลังจากเลิกงานหมดเวลาราชการแล้ว  ต่อมา นายประกอบได้นำอาวุธปืนของตนเองมาตรวจสอบและทดลองเล็งไปยังที่ต่าง ๆ และได้ลั่นไกปืนซึ่ง                     นายประกอบ   อินอร่าม เข้าใจว่าคำว่าอาวุธปืนของตนเองไม่ได้บรรจุกระสุนไว้ จึงมั่นใจและคิดว่าไม่มีกระสุนจึงเหนี่ยวไกปืนเล่น และปรากฏว่า กระสุนปืนได้ลั่นไปถูกนางลักขณา โททอง เข้าที่บริเวณหน้าอกซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ห่างกันประมาณ 1 เมตร ซึ่งภายหลังที่ปืนได้ลั่นไปถูก นางลักขณา ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์แล้ว   นายประกอบกับพวก ได้รีบนำร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บส่งไปที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์เพื่อให้แพทย์รักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วน  แต่ว่าแพทย์พยาบาลไม่สามารถที่จะยื้อชีวิตของ                             นางลักขณาไว้ได้ จึงทำให้นางลักขณาเสียชีวิตในที่สุด และต่อมา นายประกอบ  อินอร่าม นายก อบต.เวียงเหนือ ได้เข้ามอบตัวกับ พ.ต.ทประมุขก์ ห่ามกระโทก สว.(สอบสวน)  โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปดำเนินคดีตามกฎหมาย  ซึ่ง นายก อบต.เวียงเหนือ  ได้ใช้ตำแหน่ง ประกันตนเองออกไปเพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป

นายสุกิจ   เหลืองสกุลไทย  นายอำเภอกันทรลักษ์  กล่าวว่า   เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่น่าเศร้าสลดใจ เป็นอย่างมาก  เพราะว่าทั้งผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตอยู่ในที่ทำงานเดียวกันและเป็นผู้ที่ใกล้ชิดคุ้นเคยกันในฐานะผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา   จึงได้นั่งร่วมกันพบปะพูดคุยกันหลังจากเลิกงานแล้ว ซึ่งตนได้ร่วมกับ พ.ต.อ.นรินทร์  บุพตา  ผกก.สภ.กันทรลักษ์ และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุและได้ให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกคนของ อบต.เวียงเหนือ  ซึ่งตนพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริงที่ปรากฏอย่างเต็มที่ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับ นางลักขณา  โททอง อายุ 42 ปี ตำแหน่ง หัวหน้าสำนักปลัด                            อบต.เวียงเหนือ  เป็นผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการดีเด่นมาโดยตลอด  สามีประกอบอาชีพรับราชการ ตำแหน่ง หัวหน้าสำนักปลัด อบต.แห่งหนึ่งที่ อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ  มีลูกชายด้วยกัน 1 คน กำลังเรียนหนังสือระดับประถมศึกษาที่ ร.ร.แห่งหนึ่งที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งการที่นางลักขณา เสียชีวิตอย่างไม่คาดฝันนี้ สร้างความโศกเศร้าเสียใจแก่ครอบครัว ญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมงานทุกคนเป็นอย่างยิ่ง โดยศพของนางลักขณา ได้ถูกนำส่งไปที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรศพตามกฎหมาย จากนั้นได้มอบศพให้กับญาติเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป//////

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ   หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ