บึงกาฬ กรณีสาวพังข้าวของฝ่ายชายเหตุค่าดองไม่ลงตัวขึ้นโรงพักชดใช้ค่าเสียหายแล้ว
บึงกาฬ... กรณีสาวพังข้าวของฝ่ายชายเหตุค่าดองไม่ลงตัวขึ้นโรงพักชดใช้ค่าเสียหายแล้ว
กรณีโชเชี่ยลนำเสนอข่าว ว่าที่เจ้าสาวไม่พอใจเจ้าบ่าวตกลงค่าดองไว้ที่ 150,000 บาท แต่ยอมจ่ายแค่ 50,000 บาท ในวันนัดหมายมาวางเงินสินสอด พร้อมจะขอเอาเจ้าสาวไปอยู่บ้านด้วย แต่พ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ยอม จึงเกิดปัญหารักร้างก่อนแต่ง ฝ่ายหญิงจึงตามไปเอาผ้าห่มคืน ถูกฝ่ายชายต่อว่า”หน้าเงินเหมือนพ่อแม่” เกิดการทะเลาะตบตีกันขึ้นมา รุกลามไปทำลายข้าวของภายในบ้านเสียหาย ฝ่ายชายเข้าแจ้งความเอาผิด สุดท้ายจบด้วยการไม่ไปต่อต้องพอแค่นี้
วันนี้ 7 ธ.ค.ที่ สภ.พรเจริญ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ พ.ต.ต.สุพจน์ โพธิ์สุวรรณ สว.(สอบสวน) ได้เรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายมาเจรจาตกลงชดใช้ค่าเสียหายกัน โดยฝ่ายว่าที่เจ้าบ่าวผู้เสียหายประกอบด้วย นายวสันต์ หรือตอง หอมหวน อายุ 23 ปีเจ้าบ่าวและนางบุญมี หอมหวล อายุ 73 ปีผู้เป็นย่าและเจ้าของบ้าน อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 3 ต.ป่าแฝก อ.พรเจริญ ส่วนฝ่ายว่าที่เจ้าสาว คือนางสาววนิดา หรือก้อย วรรณจันทร์ อายุ 22 ปี ผู้ก่อเหตุเดินทางมาพร้อมกับพ่อ-แม่ คือนายทะนงเดช-นางลำดวน วรรณจันทร์และอาสาว นางพิสมัย สุพร โดยฝ่ายผู้เสียหายได้เรียกร้องเงินชดใช้รวมทั้งหมด เช่น โต๊ะมาหินอ่อน พัดลมตู้เสื้อผ่าเป็นเงินทั้งสิ้น 10,790 บาท โดยฝ่ายเจ้าสาวไม่ต่อหรือขอลดราคาแต่อย่างใด แต่สัญญาว่าจะจ่ายทั้งหมดวันที่ 31 ม.ค.68 โดยนางบุญมี หอมหวล ยืนยันว่าจะไม่ยอมรับเอาผู้ก่อเหตุเป็นหลานสะใภ้ต่อไปอีกแน่นอน โดยทั้งเจ้าสาวและเจ้าบ่าว ก็ยืนยันว่า” ไม่ไปต่อ ขอพอแค่นี้”
ประเด็นสาเหตุที่ได้เลิกราก่อนแต่ง นางสาววนิดา หรือก้อย วรรณจันทร์ ชี้แจงว่าเกิดจาก คุยเรื่องค่าสินสอดกันวันนั้นวันที่ 3 ม.ค.ก็คุยกันไม่ลงตัว ก็เลยแยกย้ายกันไปแต่ว่าเขาก็บล็อกเฟสหนูก็เลยโทรหาเขาว่าจะเข้าไปเอาผ้าห่ม ไม่ได้ตั้งใจจะไปพังหรืออาละวาด ก็ตั้งใจจะไปเอาผ้าห่มเฉยๆไปถึงก็ตัวผู้ชายอยู่บ้านเขาก็อยู่คนเดียวของเขาปกติ ก้อยก็พูดขึ้นว่า ถ้ามันอยู่ด้วยกันไม่ได้ ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เธอก็เป็นพ่อเราก็เป็นแม่เหมือนเดิม ถึงแม้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน จากนั้นเกิดการทะเลาะกัน ขณะที่คุยกันดีๆ เพราะว่าทางเขาพูดว่าทำไมไม่รับเอาเงิน 50,000 บาท ทำไมต้องเชื่อพ่อกับแม่ หน้าเงินเหมือนพ่อกับแม่นนะมึง ฝ่ายชายขึ้นมึง-กู จากนั้นก็ทะเลาะกันใหญ่เลยหนูก็โมโหค่ะ วันนั้นก็ไม่ได้เมาหรือดื่มแอลกอฮอล์ไป พี่นักข่าวเขาลงว่าเมายังไม่ได้เมาค่ะ หนูรู้ตัวค่ะหนูท้องไม่กินอยู่แล้วค่ะ อารมณ์โมโหโกรธมากคำด่าพ่อด่าแม่ จึงขาดสติได้ทำลายทรัพย์สินไปผลักม้าหินอ่อน พัดลมและตู้เสื้อผ้าล้มไป ก็ยอมรับว่าผิดค่ะ แต่ว่าเขาก็ด่าพ่อด่าแม่หนู จะขึ้นรถขี่กลับบ้านก็เขาพยายามฉุดกระชากจะให้หนูอยู่ที่นั่นไม่ให้กลับบ้าน บอกว่าอยู่นี่แหละไม่ต้องกลับหรอก เดี๋ยวจะเลี้ยงเอง
ส่วนการตั้งท้องได้ 1 เดือนนั้นเป็นเรื่องจริง หากคลอดออกมาแล้ว จะเลี้ยงลูกเอง ส่วนฝ่ายชายก็จะรับไปเลี้ยงเองได้เช่นกัน แต่น้องก้อยไม่เชื่อจะเลี้ยงลูกโตได้ จึงบอกไปว่าไม่ให้ฝ่ายชายมายุ่ง เลี้ยงเองได้
นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี//บึงกาฬ 0933199399
ประเด็นสาเหตุที่ได้เลิกราก่อนแต่ง นางสาววนิดา หรือก้อย วรรณจันทร์ ชี้แจงว่าเกิดจาก คุยเรื่องค่าสินสอดกันวันนั้นวันที่ 3 ม.ค.ก็คุยกันไม่ลงตัว ก็เลยแยกย้ายกันไปแต่ว่าเขาก็บล็อกเฟสหนูก็เลยโทรหาเขาว่าจะเข้าไปเอาผ้าห่ม ไม่ได้ตั้งใจจะไปพังหรืออาละวาด ก็ตั้งใจจะไปเอาผ้าห่มเฉยๆไปถึงก็ตัวผู้ชายอยู่บ้านเขาก็อยู่คนเดียวของเขาปกติ ก้อยก็พูดขึ้นว่า ถ้ามันอยู่ด้วยกันไม่ได้ ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เธอก็เป็นพ่อเราก็เป็นแม่เหมือนเดิม ถึงแม้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน จากนั้นเกิดการทะเลาะกัน ขณะที่คุยกันดีๆ เพราะว่าทางเขาพูดว่าทำไมไม่รับเอาเงิน 50,000 บาท ทำไมต้องเชื่อพ่อกับแม่ หน้าเงินเหมือนพ่อกับแม่นนะมึง ฝ่ายชายขึ้นมึง-กู จากนั้นก็ทะเลาะกันใหญ่เลยหนูก็โมโหค่ะ วันนั้นก็ไม่ได้เมาหรือดื่มแอลกอฮอล์ไป พี่นักข่าวเขาลงว่าเมายังไม่ได้เมาค่ะ หนูรู้ตัวค่ะหนูท้องไม่กินอยู่แล้วค่ะ อารมณ์โมโหโกรธมากคำด่าพ่อด่าแม่ จึงขาดสติได้ทำลายทรัพย์สินไปผลักม้าหินอ่อน พัดลมและตู้เสื้อผ้าล้มไป ก็ยอมรับว่าผิดค่ะ แต่ว่าเขาก็ด่าพ่อด่าแม่หนู จะขึ้นรถขี่กลับบ้านก็เขาพยายามฉุดกระชากจะให้หนูอยู่ที่นั่นไม่ให้กลับบ้าน บอกว่าอยู่นี่แหละไม่ต้องกลับหรอก เดี๋ยวจะเลี้ยงเอง
ส่วนการตั้งท้องได้ 1 เดือนนั้นเป็นเรื่องจริง หากคลอดออกมาแล้ว จะเลี้ยงลูกเอง ส่วนฝ่ายชายก็จะรับไปเลี้ยงเองได้เช่นกัน แต่น้องก้อยไม่เชื่อจะเลี้ยงลูกโตได้ จึงบอกไปว่าไม่ให้ฝ่ายชายมายุ่ง เลี้ยงเองได้
นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี//บึงกาฬ 0933199399