ตำรวจไซเบอร์ จับแก๊งตุ๋น พร้อมนอมินี หลอกลงทุน เสียหายกว่า 600 ล้านบาท เพื่อนร่วมแก๊งบางคนยังลอยนวล   

              ตำรวจไซเบอร์ จับแก๊งตุ๋น พร้อมนอมินี หลอกลงทุน เสียหายกว่า 600 ล้านบาท เพื่อนร่วมแก๊งบางคนยังลอยนวล ตามนโยบายการบริหารราชการ ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้ทำการปราบปรามอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จึงมุ่งเน้น ให้มีการปราบปรามจับกุมบุคคลที่กระทำความผิดต่อกฎหมาย โดยทำการโฆษณาชักชวนให้พี่น้องประชาชน เด็ก เยาวชน และผู้หลงเชื่อ โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ทำการสืบสวนอย่างจริงจัง จนนำไปสู่การจับกุม และดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดอย่างเคร่งครัดนั้น

                           พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร.รรท.ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รอง ผบก.สอท.1 กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บก.สอท.1 ให้ดำเนินการตามนโยบายการบริหารราชการ ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยให้ทำการสืบสวนอย่างจริงจัง จนนำไปสู่ให้มีการปราบปรามจับกุมบุคคลที่กระทำความผิดต่อกฎหมาย
             ต่อมา พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผกก.3 บก.สอท.1 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ธธีร์ธร เพชรสิราสิงห์ รอง ผกก.3 บก.สอท.1 ทำการสืบสวนตามสั่งการของผู้บังคับบัญชา จากการสืบสวนปรากฏพบว่า น.ส.กัณภาธิฌาณัศฐ์  ว่องไว  ได้อธิบายตนเองว่าเป็นตัวแทนจำหน่ายมีโควต้าลอตเตอรี่ราคาพิเศษถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป จำนวนใบละ 80 บาท สามารถนำลอตเตอรี่มาขายให้เป็นจำนวนมาก พร้อมกับโชว์รูปภาพ นางสาวกัณภาธิฌาณัศฐ์ฯ คู่กับกองลอตเตอรี่จำนวนมาก นำมาให้ดูภาพในโทรศัพท์ ผู้เสียหายจึงเกิดความน่าเชื่อถือ เนื่องจากมีนายโต้ง “นายนิริศฯ” ซึ่งแอบอ้างว่าเป็นนายพล มาพร้อมกับ น.ส.กัณภาธิฌาณัศฐ์ฯ ผู้ต้องหา  
                ในวันที่ 3 ธันวาคม 2667 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.3 บก.สอท.1, บก.สอท.2 และ บก.สอท.3 ได้เปิดปฏิบัติการ "จับแก๊งต้มตุ๋น หลอกลงทุนลอตเตอรี่ออนไลน์" โดย น.ส.กัณภาธิฌาณัศฐ์   ว่องไว, นายพัชรีศิริ  ทิบุตร, นายพันธนงค์  จันสมุทร, นายวิษณุ  ชัยมณี, นางเรณู   จันสมุทร  รวม 5 คน มีพฤติการณ์ชักชวนให้ประชนทั่วไปหลงเชื่อและร่วมลงทุน ซึ่งอธิบายว่าตนเองเป็นตัวแทนจำหน่ายมีโควต้าลอตเตอรี่ราคาพิเศษถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป จำนวนใบละ 80 บาท สามารถนำลอตเตอรี่มาขายให้เป็นจำนวนมาก อย่างต่อเนื่อง
              จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.3 บก.สอท.1 จึงได้เชิญตัวทั้ง 5 คนดังกล่าว มาพบ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 และ พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผกก.3 บก.สอท.1, พ.ต.ท.ธธีร์ธร เพชรสิราสิงห์ รอง ผกก.3 บก.สอท.1 ณ ที่ตั้ง บก.สอท.1 ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อาคาร B ชั้นที่ 4 กรุงเทพฯ เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวน บก.สอท.1
             
                โดยพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 จะทำการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ น.ส.กัณภาธิฌาณัศฐ์   ว่องไว, นายพัชรีศิริ  ทิบุตร, นายพันธนงค์  จันสมุทร, นายวิษณุ  ชัยมณี, นางเรณู   จันสมุทร   รวม 5 คน ในฐานความผิด "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันโดยทุจริต หรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือข้อข้อมูลอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, โฆษณาหรือประกาศให้ปรากฏต่อประชาชนหรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ปรากฎแก่ฏแคคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไปว่า ในการกู้ยืมเงินตนหรือบุคคลใดจะจ่ายผลประโรชน์ตอบแทนให้สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้โดยที่ตนรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า ตนหรือบุคคลนั้นจะนำเงินจากผู้ให้กู้ยืมเงินรายนั้น หรือรายอื่นมาจ่ายหมุนเวียนให้แก่ผู้ให้กู้ยืม หรือโดยที่ตนรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าตนหรือบุคคลนั้นไม่สามารถประกอบกิจการใดๆ โดยชอบด้วยกฎหมายที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนพอเพียงที่จะนำมาจ่ายในอัตรานั้นได้ และในการนั้นเป็นเหตุให้ตนหรือบุคคลใดได้กู้ยืมเงินไป"
                  ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งอีกว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้ ยังมีความเชื่อมโยงการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกัน ซึ่งได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ในพื้นที่ สน.ร่มเกล้า โดยมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 110 ล้านบาท และ ผู้ต้องหากลุ่มนี้ยังได้ทำความผิดหลอกให้ลงทุนเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของ บริษัท คิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด  แต่ให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีบุคคลอื่น คาดว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการฉ้อโกงร่วมกับผู้ต้องหากลุ่มนี้ และได้ให้ผู้เสียหาย นางอนงรัก เทียกลาด โอนเงินเข้าบัญชี บริษัท เกษตรไทยฟาร์ม จำกัด โดยมี ผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นนอมินี พ่อ แม่ ลูก ถือหุ้นบริษัท เกษตรไทยฟาร์ม จำกัด โดยผู้เสียหายยื่นฟ้องต่อศาลเนื่องจากได้รับความเสียหายจากกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้และยังมีบุคคลที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้ถูกดำเนินคดี  มีมูลค่าความเสียหายประมาณกว่า 173 ล้านบาท 
                 มีผู้เสียหาย นางณิชาภัทร์  มูลสภา ได้แจ้งผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่าผู้มีส่วนร่วมฉ้อโกงนั้นบางคนยังไม่ถูกจับกุม เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่เป็นบุคคลที่ร่วมกับผู้ต้องหากลุ่มนี้คอยเป็นนกต่อแนะนำให้ผู้เสียหายหลายคนให้รู้จักกับผู้ต้องหากลุ่มนี้ โดยนางนกต่อ ชื่อ นางสาวเกศยากร  ได้แนะนำให้ตนได้รู้จักกับ นางสาวกัณภาธิฌาณัศฐ์  ว่องไว  และนางสาวเกศยากร ได้พูดจาหว่านล้อมว่า นางสาวกัณภาธิฌาณัศฐ์  ว่องไว  เป็นผู้กว้างขวางรู้จักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจำนวนมากและหลอกลงทุนลอตเตอรี่ออนไลน์  โดย นางสาวกัณภาธิฌาณัศฐ์  ว่องไว  ได้จ่ายเช็คไว้ให้ตน 2 ใบ จำนวน 5,000,000 บาท และ 1,500,000 บาท รวม 6,500,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดประมาณกว่า 600 ล้านบาท โดยผู้เสียหายหลายคนล้วนเป็นคนที่รู้จักกับ นางสาวเกศยากร  และได้แนะนำให้ผู้เสียหายได้รู้จักกับ นางสาวกัณภาธิฌาณัศฐ์  ว่องไว  จึงทำให้เกิดความเสียหายดังกล่าว และพนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการขยายผลเส้นทางการเงินว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องบ้างจะได้นำตัวผู้ร่วมกระบวนการฉ้อโกงที่เกี่ยวโยงกับผู้ต้องหากลุ่มนี้ต่อไป
             หากประชาชนท่านใด ได้รับความเสียหายจากผู้ต้องหากลุ่มนี้และกับบุคคลที่ร่วมกระบวนการฉ้อโกงหลอกให้ลงทุนลอตเตอรี่ออนไลน์  หรือหลอกให้ลงทุนเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า หรือหลอกให้ลงทุนในธุรกรรมต่างๆ ทำให้ได้รับความเสียหาย ท่านสามารถแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ และแจ้งมาที่ สอท.1  
.
# สำนักข่าว คู่แผ่นดิน  # หลอกลงทุนลอตเตอรี่ออนไลน์  # หลอกเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า

 



หวยเด็ดงวดนี้
เรื่องอื่นๆในหมวด