“หลวงตาชื่น” อริยสงฆ์เท้าเปล่านครพนม สาธุชนรอกราบนมัสการแน่น   

“หลวงตาชื่น” อริยสงฆ์เท้าเปล่านครพนม  ได้พักจำวัดที่

วัดทรงธรรมบรรพต  บ้านวังสำราญ  ตำบลวังทอง  อำเภอนาวัง  จังหวัดหนองบัวลำภู ในคืนวันที่ 22 เมษายน 2564  โดยมีสาธุชนรอกราบระหว่างทางตลอดเส้นทางจำนวนมาก  เมื่อ “หลวงตาชื่น” เดินทางมาถึง

วัดทรงธรรมบรรพต  ความคืบหน้าเกี่ยวกับพลังศรัทธาหลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฒิโท พระธุดงค์สายป่า อายุ 73 ปี ที่ได้เดินธุดงค์เท้าเปล่ามาตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา  โดยมีสาธุชนเข้ากราบนมัสการ“หลวงตาชื่น”  เพื่อความเป็นสิริมงคลและชมบารมี“หลวงตาชื่น”  กันอย่างเนืองแน่น   ในช่วงเช้าวันที่ 23 เมษายน  2564  สาธุชนได้ ร่วมกันทำอาหาร ถวาย ภัตตาหารเช้าแด่ พระสงฆ์  เวลา 08.00 น

“หลวงตาชื่น”  ออกธุดงค์ต่อปลายทางจังหวัดนครพนม โดยมีสภาพเท้าทั้งสองข้างเป็นแผลไหม้จากความร้อนของถนนแอสฟัลต์ลาดยางมะตอย จึงต้องติด พลาสเตอร์ ที่นิ้วเท้าทั้ง 10 นิ้ว แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับหลวงตาชื่น ยังคงใช้ความเพียรธุดงค์ต่อเนื่อง ค่ำไหนก็จะนอนตามป่า ทุ่งนา หรือวัด ตามความเหมาะสม ส่วนปัจจัยที่มีญาติโยมศรัทธาถวายตลอดเส้นทางท่านจะไม่รับ จะรับเฉพาะน้ำดื่มเท่านั้น หากมากเกินความต้องการจะนำไปบริจาคตามสถานที่สำคัญต่างๆ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม

หลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฒิโท หรือที่สาธุชนเรียกนามท่านจนติดปากว่าหลวงตาชื่น เคยเปิดเผยถึงเส้นทางชีวิตว่า หลวงตาชื่นเกิดที่บ้านเสาเล้า ต.โพนสวรรค์ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม  (ภายหลังยกฐานะให้เป็นอำเภอโพนสวรรค์ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2535) สมัยหนุ่ม วัยฉกรรจ์ ได้รับใช้ชาติเป็นทหารเกณฑ์ โดยประมาณปี 2512 ได้รับคัดเลือกไปสู้รบในยุคสงครามเวียดนาม สังกัดกองพันปืนใหญ่ จ.อุดรธานี หลังปลดประจำการได้เหรียญทหารผ่านศึก ก็ได้มาแต่งงานกับนางตาล อุ่นเพียรโสม ปัจจุบันอายุ 68 ปี มีลูกทั้งหมด 4 คน

หลังจากบุตรทั้งหมดสร้างครอบครัวหมดแล้ว จึงขอครอบครัวลาบวช เพราะต้องการค้นหาสัจธรรม ตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อแสวงหาความสงบในชีวิต อีกทั้งชอบศึกษาหลักธรรมคำสอนของหลวงปู่มั่น และปี 2552 จึงเข้าอุปสมบทตัดทางโลกเข้าสู่ทางธรรม จากนั้นได้แสวงบุญเป็นพระสายวัดป่านิกายธรรมยุตเดินธุดงค์ไปหลายที่ ไม่ขอขึ้นรถ ไม่ต้องช่วยขนสัมภาระ ขอรับถวายเพียงน้ำเปล่า และไม่กลัวว่าจะเจ็บป่วย เนื่องจากสละทุกอย่างแม้สังขาร  ทุกปีหลังออกพรรษา ความคืบหน้าเกี่ยวกับพลังศรัทธาหลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฒิโท พระธุดงค์

จะเดินธุดงค์วัตรต่อเนื่องถึงปัจจุบัน พร้อมได้สั่งเสียกับลูกหลานไว้ว่า หากหลวงตาชื่นตายที่ไหนก็ให้เผาที่นั่น โดยหลวงตาชื่น  ไม่รับปัจจัย กิจของสงฆ์จะ มีแค่ บิณฑบาตโปรดสัตว์ ทำวัตรเช้า-เย็น สวดมนต์ เจริญภาวนา และศึกษาธรรมมะ

 

“อาตมามาถึงวันนี้ชีวิตไม่ได้กังวล เพราะสละทุกอย่างแล้ว ปล่อยให้เป็นไปตามสังขาร ตราบใดที่ยังคงเดินไหวยังจะแสวงบุญทุกปี” หลวงตาชื่น กล่าว