เกษตรกรรับมอบโล่ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ 2567 ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2567 นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. ประธานในพิธีมอบโล่พร้อมเกียรติบัตร ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ 2567 ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร โดยมีนายสรรัตน์ ปวริญญานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ให้การต้อนรับ
สำนักงาน กปร. ร่วมกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 6 แห่ง และศูนย์สาขา สำรวจและคัดเลือกเกษตรกรเพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ โดยผ่านเกณฑ์การประเมินทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 221 แห่ง แบ่งเป็นประเภทประชาชนทั่วไป กลุ่มชุมชน สถานศึกษา และหน่วยงานรัฐ ซึ่งมีองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ทั้งด้านเกษตรผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรปลอดสารพิษ เกษตรอินทรีย์ ประมง ปศุสัตว์ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และอื่น ๆ โดยศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 35แห่ง ศูนย์เรียนรู้ฯของโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยบางทรายตอนบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน2แห่ง ศูนย์เรียนรู้ฯของโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำกำ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน3แห่ง และศูนย์เรียนรู้ฯของโครงการพัฒนาพื้นที่เกษตรน้ำฝนบ้านแดนสามัคคีลุ่มน้ำลำพะยัง จำนวน3แห่ง
จากนั้นเลขาธิการ กปร ได้เดินทางไปเยี่ยมชมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวฮางงอกบ้านนาเลา ต.บึงทวน อ.เต่างอย โดยมีณัฏกานต์ ดากาวงค์ บุตรสาวของดวงตา ดากาวงค์ ประธานกลุ่มให้การต้อนรับ โดยณัฏกานต์เปิดเผยว่าผลจากการเรียนรู้ด้านการเกษตรทฤษฎีใหม่และการแปรรูปผลิตภัณฑ์ ทำให้กลุ่มมีผลิตภัณฑ์จำหน่ายผ่านร้านค้าของศูนย์ศึกษาฯภูพาน เริ่มตั้งแต่สบู่สมุนไพร ข้าวสาร ข้าวฮาง ปลาร้าและขยายผลเป็นผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือในรูปแบบต่างๆ จนปัจจุบันดวงตา ดากาวงค์ได้รับโล่และเกียรติบัตรเป็นศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ ปี 2567 จากนั้น เลขาธิการ กปร.และคณะ ได้เดินทางไปยังพื้นที่เกษตรกรรมของ นายทองจิตรและนางบัญชี พรหมสาขา ณ สกลนคร ที่บ้านบึงสา ตำบลจันทร์เพ็ญ อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร แต่เดิมทองจิตรและภรรยา ทำนาและปลูกมะเขือเทศส่งโรงงานหลวงดอยคำในพื้นที่อำเภอเต่างอย ต่อมาเห็นเกษตรกรรายอื่นทำเกษตรผสมผสาน จึงไปเรียนรู้ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จากนั้นเมื่อเดือนพฤษภาคม2567ได้ปรับพื้นที่3ไร่3งาน มาปลูกกล้วยหอมทอง ถั่วฟักยาว บวบเหลี่ยม และยังคงปลูกมะเขือเทศ บางส่วน จำหน่ายให้กับร้านค้าในพื้นที่ ได้รับรายได้วันละประมาณ 1,000บาท ได้รับการจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริบ้านบึงสา และมีผู้สนใจเข้าเรียนรู้ ทั้งนี้นางทองจิตรมีคุณสมบัติครบ5ดี คือ เป็นคนดี มีพันธุ์พืชดี มีพื้นที่ดี มีองค์ความรู้ดี และมีความยั่งยืน จึงได้รับโล่รางวัลศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริปี 2567.