วันที่ 19 ก.ย. 2567  ช่วงเวลา12.00 น. ริมถนนราชพฤกษ์จ ในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ พบรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้าโคโรนาสีบอลเงินทะเบียน บฉ 1325 ชัยภูมิ สภาพเก่า จอดอยู่ข้างทางโดยมีนายชัยมงคล หาญรบ อายุ 36 ปี ลูกชายพ่อค้าผ้าไหม อ.บ้านเขว้า เป็นผู้ขับรถดังกล่าว  

           เบื้องต้นนายชัยมงคล หาญรบ อายุ 36 ปี เล่าว่าตนเอง ได้เดินทางมาจาก อ.บ้านเขว้า โดยจะนำผ้าไหม ซึ่งเป็นสมบัติของพ่อที่เป็นช่างทำผ้าไหม มาจำนำที่โรงจำนำ ในตัวเมืองชัยภูมิ เพื่อนำเงินมาจุนเจือครอบครัว แต่โรงรับจำนำไม่รับไว้เนื่องจากผ้าผืนนี้ไม่สมบูรณ์  จึงต้องเดินคอตกออกมาและก็ขับรถมาเส้นทางดังกล่าวรถก็เริ่มกระตุกจนรถดับ จึงต้องจอดเข้าข้างทาง ขณะเดียวกันนั้นได้มีตำรวจจราจรรายหนึ่ง ได้ขับรถ จยย.มาเทียบข้างและสอบถามอาการของรถ จึงทราบว่ารถน่าจะน้ำมันหมด พอตำรวจฯ ได้ยินว่าน้ำมันหมดจึงถามว่ามีเงินเท่าไรพอ200ไหม ตนจึงตอบว่าไม่มีเงินเลย ตำรวจนายนี้จึงขับรถออกไป พักหนึ่งก็ขับกลับมาพร้อมถังแกลลอนน้ำมัน มาช่วยเติมน้ำมันให้ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวทำให้ ทำให้ตนเองถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ ทัศนคติที่เคยได้ยินมาและรู้มาเกี่ยวกับตำรวจจราจรในมุมลบ ทำให้เกิดคำถามในหัวว่าทำไม อะไร ยังไง ทำไมถึงได้มาช่วย ทำไมตนถึงได้โชคดีในเวลาที่แย่ที่สุดเช่นนี้ ทำได้เพียงแค่ยกมือไหว้และพูดได้เพียงคำขอบคุณรัว รัว และขอชื่นชมด้วยหัวใจเลย

           ด้าน ร.ต.ต.พิทยาคม แก้วทน รอง สว.(จร.)สภ.เมืองชัยภูมิ เผยว่า ขณะที่ตนเองกำลังปฎิบัติหน้าที่ ตรวจสอบวินัยจราจรประจำวันตามปกติ และบังเอิญได้ขับรถตามหลังรถกระบะคันดังกล่าว และเห็นรถสภาพเก่าป้ายทะเบียนด้านหลังไม่ชัดชำรุด และขับกระตุกมาเกือบตลอดทาง ก่อนที่จะจอดลงข้างทางตนเองจึงเข้าไปสอบถาม จนทราบว่ารถน้ำมัน จึงจะอาสาไปซื้อน้ำมันให้แต่คนขับขี่ ไม่มีเงินเลยสักบาท ก็เลยตัดสินใจใช้เงินตนเองจำนวน 200 บาท เพื่อซื้อน้ำมันมาเติมรถให้กับประชาชนเพื่อที่จะกลับไปถึงบ้านก่อนอีกด้วย///

ชัยภูมิ/ มัฆวาน  วรรณกุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค