รมว.กลาโหม แถลงตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ 10 ล้านเม็ด จ.เลย เร่งรัดป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหา  ยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนไทย - สปป.ลาว  

         รมว.กลาโหม แถลงตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ 10 ล้านเม็ด จ.เลย เร่งรัดป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหา  ยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนไทย - สปป.ลาว

           ดร.สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นาย จำนงค์  ไชยมงคล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงกลาโหม , พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 , พลตรี นรธิป   โพยนอก  ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี , นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย , พลตำรวจตรี พงพิพัฒน์  ศิริพรวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย , นายภิญโญ  โฆสิต  ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 4 , พันเอก อินทราวุธ  ทองคำ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 , พันเอก คมศักดิ์  พราวศรี รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 3 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และ หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ 10 ล้านเม็ด ที่บริเวณหน้ากองบังคับการ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 อำเภอเมือง จังหวัดเลย

            สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567 เวลา 1900 กองบังคับการควบคุมที่ 3 ( ร.8 ) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี โดย กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2102 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21     ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว ทราบว่ามีความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการยาเสพติด (นักบิน) เข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ หน่วยจึงได้ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด และซุ่มเฝ้าตรวจ ตามเส้นทางบนถนนหมายเลข 2195 อ.ท่าลี่ - อ.เชียงคาน ระหว่างสี่แยกภูซาง พื้นที่ บ.ปากคาน ม.2 ต.หนองผือ อ.ท่าลี่ฯ - สามแยกน้ำแคม พื้นที่ บ.หาดเจริญ ม.4 ต.น้ำแคม อ.ท่าลี่ จ.เลย ต่อมา เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 67 เวลา 0025 ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย วิ่งมาบนถนนเส้นทางสี่แยกภูซาง - น้ำแคม หน่วยจึงได้จัดชุดไล่ติดตามรถยนต์คันดังกล่าว ในระหว่างติดตาม ชุดไล่ติดตามตรวจพบกระสอบบรรทุกอยู่ท้ายกระบะมากจนผิดสังเกตุ จึงให้สัญญาณไฟเพื่อให้หยุดรถ เมื่อรถยนต์คันดังกล่าวรู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ติดตามมา เกิดความตกใจ และเร่งความเร็วเพื่อหลบหนี ในระหว่างไล่ติดตาม ชุดติดตามตรวจพบกระสอบร่วงลงจากท้ายกระบะ จำนวน 2 กระสอบ จึงได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ และควบคุมพื้นที่ ในขณะเดียวกันชุดที่ไล่ติดตามยังคงทำการไล่เกาะติดรถคันดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จนถึงบริเวณทางโค้งถนนเส้นทาง บ.โคกใหญ่ - บ.ปากยาง รถยนต์คันดังกล่าว เกิดเสียหลักลงข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าควบคุมพื้นที่ และประสานเจ้าหน้าที่หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24), ฝ่ายปกครองอำเภอท่าลี่ และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เข้าร่วมตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ผลการตรวจสอบ สามารถตรวจยึด ยาบ้า จำนวน 23 กระสอบ ประมาณ 10,000,000 เม็ด, รถยนต์กระบะมาสด้า BT 50 สีขาว ทะเบียน 2 ฒล 3929 กทม จำนวน 1 คัน

           ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมยกระดับการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยเฉพาะกลางน้ำ รุกเข้มปราบปรามในพื้นที่ชุมชน รวมถึง ให้ความสำคัญเกี่ยวกับบทลงโทษที่หนักขึ้น ด้วยการศึกษาและแก้ไขบทลงโทษให้เข้มข้น เพื่อไม่ให้กลับมากระทำซ้ำ โดยที่ผ่านมาการสกัดกั้นจับกุมส่วนใหญ่มักลักลอบขึ้นตามภูมิประเทศชายแดนติดแม่น้ำโขงมีระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร ที่มีช่องทางธรรมชาติเอื้ออำนวยต่อการลักลอบนำเข้ายาเสพติดได้ง่ายทั้งเส้นทางคมนาคมไม่เหมือนภาคเหนือที่ถูกบดบังไปด้วยภูเขา แต่ภาคอีสานเส้นทางคมนาคมจะเป็นเส้นใยแมงมุมทำให้ง่ายต่อการหลบหลีกของขบวนการลักลอบค้ายาเสพติด ประกอบกับภาคเหนือมีการเข้มงวดมาอย่างยาวนานในการปราบปรามยาเสพติด ทำให้นักค้ายาเสพติดเปลี่ยนมาใช้เส้นทางภาคอีสานมากขึ้น

          ปัจจุบัน กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนในพื้นที่รับผิดชอบ เดินหน้าขับเคลื่อนงานตามนโยบายเร่งด่วนรัฐบาล และข้อเน้นย้ำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการสกัดกั้น ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน จนเกิดผลสัมฤทธิ์สามารถจับกุม ตรวจยึดในกรณีสำคัญหลายครั้ง และครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ และอยากจะให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยเป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการดูแลสังคม ให้รอดพ้นจากพิษภัยยาเสพติด ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงเดินหน้าขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลในการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดเร่งด่วน ซึ่งจังหวัดเลย ยังเป็นจังหวัดเป้าหมายในการดำเนินงานใน 25 จังหวัดเร่งด่วนของ ป.ป.ส. ปฏิบัติการภายใต้ “ยุทธการพิทักษ์ไทเลย” และ “ปฏิบัติการไล่ล่า (เด็ดปีก) นักค้าอีสานเหนือ 252” ทั้งนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแล โดยหากพบเบาะแสการกระทำผิดสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการทางยุทธวิธี กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี โทร 099 462 7760 สายด่วน ป.ป.ส. 1386 หรือเหตุด่วน เหตุร้าย 191 ตลอด 24 ชั่วโมง

ภาพ​/ข่าว​ กกล.สุรศักดิ์มนตรี
#ศูนย์ข่าวมุกดาหาร