ชัยภูมิ.....ตัวแทนชาวบ้านเร่งรัฐบาลอัดงบ 231 ล้าน พัฒนาทะเลลาบน้ำจืดอันดับ3ประเทศ   

       ชัยภูมิ.....ตัวแทนชาวบ้านเร่งรัฐบาลอัดงบ 231 ล้าน พัฒนาทะเลลาบน้ำจืดอันดับ 3 ประเทศ

           วันที่ 7 ก.ค.67  ที่สำนักประมงน้ำจืด ต.ละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ได้มีตัวแทนชาวบ้าน ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต.ในพื้นที่รอยต่อ 4 ตำบล ทั้ง ต.ละหาน,ต.หนองบัวใหญ่,ต.หนองบัวบาน และ ต.บ้านกอก อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยคณะ นายอร่าม โล่ห์วีระ อดีตนายก อบจ.ชัยภูมิ ตัวแทนทีมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 7 จ.ชัยภูมิ พร้อมตัวแทนกรมประมง และสำนักงานประมงจังหวัดชัยภูมิ ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นกับประชาชนทำประชาคมชาวบ้านในพื้นที่รอบบึงละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ รับการจัดสรรงบประมาณแก้ไขปัญหาและพัฒนาบึงละหาน จากรัฐบาลหลังมีการจัดประชุมครม.สัญจร วันที่ 2 ก.ค.67 ที่ผ่านมา และทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดสรร งบประมาณรวมกว่า 231,485,000 บาท ใน 23 โครงการในการเข้ามาช่วยให้เป็นแหล่งเก็บกักน้ำช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในพื้นที่ รวมทั้งการเร่งเข้ามาช่วยกันฟื้นฟูระบบนิเวศพันธุ์ปลานานาชนิดที่มีในบึงละหานมากกว่า 100 สายพันธุ์ หลังช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาของช่วงวันที่ 5 พ.ค.2567 ปีนี้ที่ผ่านมา บึงละหาน ต.ละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติมีเนื้อที่กว้างใหญ่ เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของประเทศไทย มีเนื้อที่ 18,181 ไร่ หรือ (29.09 ตารางกิโลเมตร) เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และยังมีระบบนิเวศที่ดีบึงละหาน ครอบคลุมพื้นที่รอยต่อกว้างกว่า 4 ตำบลในอำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ 

            ได้แก่ ตำบลละหาน ตำบลหนองบัวใหญ่ ตำบลหนองบัวบาน และตำบลบ้านกอก โดยมีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณตำบลละหาน อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ และบึงละหานได้รับเลือกให้เข้าอยู่ในทะเบียนรายนามพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติของไทย ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2543 แต่ช่วงเดือน พ.ค.2567 ที่ผ่านมา ภายในบึงละหาน ได้เกิดปรากฏการณ์ภัยธรรมชาติอย่างไม่เคยพบมาก่อนตั้งแต่ประชาชนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้พื้นที่ตั้งแต่เกิดมาหลายชั่วคนไม่เคยเจอ กับเหตุการณ์ที่เกิดภาวะเอลนีโญ ภาวะอากาศร้อนจัด จนแทบเรื่องได้ว่าภาวะโลกเดือด จนทำให้ปลานานาชนิดที่มีอยู่ในพื้นที่บึงละหาน ในเนื้อที่กว้างกว่า 1,800 ไร่ ลอยขึ้นมาตายเกลื่อนบึงละหานที่สร้างความเสียหายต่อพันธุ์ปลาในบึงละหานครั้งนี้จำนวนมาก ที่ชาวบ้านในพื้นที่หน่วยงานทางจังหวัดทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันนำเรือออกช่วยกันเก็บซากพันธุ์ปลาที่ลอยขึ้นมาตายเกลื่อนบึงละหานครั้งนี้ จำนวนมากกว่า 100 ตัน( 100รถสิบล้อขนาดใหญ่) นายอร่าม โล่ห์วีระ อดีตนายก อบจ.ชัยภูมิ กล่าวว่า วันนี้ทางกลุ่มตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่รอบบึงละหาน จ.ชัยภูมิ จึงมีการมารวมตัวกันเพื่อทำประชาคม ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ช่วยเร่งจัดสรรงบประมาณลงมาดำเนินการในแก้ไขปัญหาฟื้นฟูและพัฒนาบึงละหาน รวมทั้งเพิ่มศักยภาพให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทางธรรมชาติของ จ.ชัยภูมิ 

          ในการดำเนินการเปิดให้มีที่ตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เพื่อศูนย์รวมสัตว์น้ำจืดที่มีทั้งหมดในบึงละหาน และสัตว์น้ำที่มีในแหล่งต้นกำเนิดของแม่น้ำชี(ซี) ที่ จ.ชัยภูมิ เป็นต้นกำเนิดของต้นแม่น้ำชี ให้เกิดขึ้นโดยเร็วด้วย ซึ่งจะทำให้ จ.ชัยภูมิ มีแหล่งท่องเที่ยวช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ การเข้ามาจับจ่ายสร้างรายได้ให้กับชาวชัยภูมิ ในการได้มาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ของบึงละหาน ที่เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ปัจจุบันมีขนาดใหญ่อันดับ 3 ของประเทศไทยได้อย่างยั่งยืนมาตามมาอีกจำนวนมากได้อีกด้วย


ชัยภูมิ/ มัฆวาน  วรรณกุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค