โผล่ไม่หยุด เหยื่อแก๊ง 4 นักข่าวเถื่อน ตระเวนเรียกรับเงินตบทรัพย์หลายพื้นที่
สื่อมวลชนได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการว่าถูกแก๊ง 4 คนที่อ้างเป็นสื่อมวลชน อ้านเป็นประธานเครือข่าวตรวจสอบการทุจริต อ้างเป็นเสธทหาร และถูกจับกุมตัว กรณีที่กลุ่มผู้ต้องหารวม 4 คน (ทราบชื่อภายหลังว่า 1.
นายกัมปนาท วงศ์อนุ 2. นายสุริยา พิมพิลา 3.นายศักดิ์สยาม แสนทัศ 4. นายสิทธิชัย วงศ์อนุ ) ขี่รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นไฮลัก สีบรอน ทะเบียน 2กต 5516 กรุงเทพมหานคร มาจอดในที่หน้างานโครงการ จากนั้นเดินมาคุยกับผู้รับเหมา อ้างตนเองและพวกว่า เป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์แผ่ไทยสยาม และหนังสือพิมพ์ ข้าแผ่นดินสยาม มาตรวจสอบเรื่องการทุจริตผิดกฎหมายเกี่ยวกับการขุดดิน โดยอ้างว่า ผู้รับเหมาได้กระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวการขุดดินสาธารณะ แล้วทำการ ถ่ายรูปและวีดีโอ ซึ่งข่มขู่ให้ผู้เสียหายกลัวว่าจะถูกดำเนินคดี จากนั้น ได้มีปากเสียงกันนิดหน่อยและได้แยกย้ายจากหน้างาน
จากนั้นนายกัมปนาท วงศ์อนุ ได้โทรศัพท์ นัดผู้เสียหาย ให้ไปพบที่ ร้านอเมซอน ในปั๊มน้ำมัน ปตท.(คล้อยประดู่) ตำบลบ้านดุง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน 2567 เวลา 15.30 น. โดยบอกผู้เสียหายว่า นัดมาเพื่อเจรจา เรื่องความผิดเกี่ยวกับการขุดดิน เมื่อถึงเวลานัด ผู้รับเหมาได้ไปที่จุดนัดหมาย พบ นายกัมปนาท วงศ์อนุ ,นายศักดิ์สยาม แสนทัศ นายสิทธิชัย วงค์อนุ อยู่ในร้านกาแฟอเมซอน ส่วนนายสุริยา พิมพิลา นั่งรอในรถยนต์กระบะ จากนั้น นายกัมปนาท ๆ ได้นำเอกสาร เป็นข้อความเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับการขุดดิน ทำให้ผู้เสียหายกลัว จากนั้น นายกัมปนาทฯ บอกว่า สามารถคุยได้ มีทางออก ถ้าไม่อยากถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยได้มีการเรียกรับเงินผู้เสียหาย จำนวน 60,000 บาท ขอรับเป็นสดเท่านั้น
การกระของกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย เป็นการข่มขืนใจให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ ประโยชน์ในลักษณะทรัพย์สิน โดยขู่เข็ญว่า จะทำอันตรายต่อ เสรีภาพ ชื่อเสียง จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น จึงมาแจ้งแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ 1. นายกัมปนาท วงศ์อนุ 2.นายสุริยา พิมพิลา 3.นายศักดิ์สยาม แสนทัศ 4. นายสิทธิชัย วงค์อนุ ในข้อหา ร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์ หรือข้อหานที่เกี่ยวข้อง จนกว่าจะถึงที่สุด แต่ตนรู้สึกไม่ปลอดภัยหลังทราบว่า 4 นักข่าวเถื่อนได้ประกันตัวออกมาในครั้งนี้อาจทำให้ไม่ปลอดภัย จึงมีความกังวลแต่ก็พร้อมที่จะสู้และแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด ส่วนรายละเอียดของข่าวอยู่ในระหว่างชั้นพนักงานสอบสวนจึงไม่สามารถเปิดเผยได้ และสื่อมวลชนจะได้ติดตามความคืบหน้าของคดีนี้จนถึงที่สุดต่อไป