ชัยภูมิ : รมว.คมนาคม ลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนและแนวทางการแก้ไขจากผู้นำท้องถิ่น และมอบนโยบายแก่ข้าราชการในสังกัด
วัน 1 ก.ค.67 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ติดตามรับ ทราบปัญหาความต้องการ และแนวทางการแก้ไขจากผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ในเขต อ.จัตุรัส อ.บ้านเขว้า อ.เนินสง่า และ อ.ซับใหญ่ ณ บริเวณสำนักงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ เขต 2นายเชิงชาย ชาลีรินทร์ อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ โดยมีนายธงชัย โอฬารพัฒนะชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ สส.ในพื้นที่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ
จากนั้นเดินทางไปประชุมติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมในพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครชัยบุรินทร์) ณ ห้องประชุมพญาแล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ โดยมีนายสมบัติ ไตรศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ในสังกัดกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยจังหวัดชัยภูมิ ได้นำเสนอประเด็นปัญหาในพื้นที่เรื่องระบบโลจิสติกส์และคมนาคมของจังหวัดชัยภูมิ ที่ไม่เอื้อต่อการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ จึงมีความต้องการในการพัฒนาภาคีเครือข่าย เพื่อเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจชุมชนกับเครือข่ายคมนาคมหลัก (Logistic Hub) เพื่อเป็นการการเพิ่มประสิทธิภาพระบบคมนาคมโลจิสติกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางสัญจร เอื้อต่อการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
โดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า สำหรับปัญหาการใช้งานรถเกษตรกรรม(รถอีแต๋น) ของประชาชนในพื้นที่ มีข้อเสนอผ่านมาทาง สส. เชิงชาย ชาลีรินทร์ ที่จะขอเพิ่มจำนวนล้อจาก 4 ล้อ เป็น 6 ล้อ ปัจจุบันเรื่องดังกล่าว ได้ยื่นข้อเสนอ ต่อคณะกรรมาธิการการคมนาคม ขณะนี้ อยู่ระหว่าง ให้กรมการขนส่งทางบก ทำการศึกษาด้านวิศวกรรม และพัฒนาให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ต้องขอบคุณทุกท่าน ทุกภาคส่วน ที่ได้เข้ามาร่วมประชุม ให้ข้อมูลรวมถึงข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ต่อการพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมของพื้นที่ ซึ่งตนจะได้ผลักดันโครงการต่างๆ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็วต่อไป การตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิวันนี้ กระทรวงคมนาคม มีนโยบายในการแก้ไขปัญหาการคมนาคมขนส่งทางบก โดยเฉพาะเส้นทางสายหลักที่ยังเป็น 2 ช่องจราจร ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการพัฒนาให้เป็น 4 ช่องจราจร เพื่อรองรับปริมาณจราจรที่สูงขึ้น สำหรับรองรับการขยายตัวของเขตชุมชน และรองรับการท่องเที่ยวของจังหวัดชัยภูมิ มีจำนวน 3 สายทางในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง ดังนี้
1. ทางหลวงหมายเลข 202 จากจังหวัดชัยภูมิ ไปยังอำเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา
2. ทางหลวงหมายเลข 205 เชื่อมต่อจังหวัดลพบุรี มายังอำเภอเทพสถิต อำเภอบำเหน็จณรงค์ ถึงตำบลหนองบัวโคก อำเภอจัตุรัส เพื่อไปจังหวัดนครราชสีมา
3. ทางหลวงหมายเลข 225 เชื่อมต่อจังหวัดนครสวรรค์ มายังตำบลโป่งนก อำเภอเทพสถิต ถึงอำเภอหนองบัวระเหว อำเภอบ้านเขว้า เข้าสู่จังหวัดชัยภูมิ
นอกจากนี้ ยังมีความต้องการโครงการก่อสร้างทางแนวใหม่ เพื่อพัฒนาโครงข่าย การเดินทางให้สามารถเชื่อมทางสายหลักได้โดยตรง รวมทั้ง ลดผลกระทบด้านการจราจรในเขตเมือง และเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนที่อยู่บริเวณเส้นทางแนวใหม่ของจังหวัดชัยภูมิ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเป็นเมืองที่น่าอยู่อาศัยยิ่งขึ้น มีอยู่จำนวน 2 โครงการ คือ
1. โครงการก่อสร้างทางแนวใหม่ทางเลี่ยงเมืองชัยภูมิด้านเหนือ ระยะทาง 20 กิโลเมตร
2. โครงการก่อสร้างทางแนวใหม่วงแหวนรอบเมืองชัยภูมิ ระยะทาง 52 กิโลเมตร
ในส่วนของกรมทางหลวงชนบท มีภารกิจในการดูแลถนนโครงข่ายสายรอง เส้นทางลัด และเส้นทางเข้าแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งสิ้น 55 สายทาง ระยะทางรวม 918 กิโลเมตร นอกจากนี้มีภารกิจในการเป็นพี่เลี้ยงให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ปัจจุบัน มีนโยบายการจัดทำโครงข่ายสายรอง Link 3 และการรับมอบทางหลวงท้องถิ่นจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งในปีงบประมาณ 2567 มีแผนที่จะรับมอบถนน จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมกับโครงข่ายเดิมในความรับผิดชอบเป็นระยะทางรวมใหม่ ประมาณ 1,200 กิโลเมตร ก่อนเดินทางกลับ เพื่อร่วมประชุม ครม.สัญจร ที่ จ. นครราชสีมา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้นำคณะไปเข้านมัสการพระราชภาวนาวชิรคุณ หรือหลวงปู่จื่อ วัดเขาตาเงาะอุดมพร อ.หนองบัวระเหว พระเกจิชื่อดัง ของจังหวัดชัยภูมิอีกด้วย