ตร.สืบอุดรรวบยกแก๊ง”หน่อง ตะวันแดง หรือ สุริยา พิมพิลา”กับพวกรวม 4 คน เรียกรับเงินตบทรัพย์ผู้เสียหายกว่า 1 แสน   

          ตร.สืบอุดรรวบยกแก๊ง”หน่อง ตะวันแดง หรือ สุริยา พิมพิลา”กับพวกรวม 4 คน เรียกรับเงินตบทรัพย์ผู้เสียหายกว่า 1 แสน ตำรวจชุดสืบสวน  ภ.จว.อุดรธานี ซ่อนแผนรวบ”หน่อง ตะวันแดง หรือ สุริยา พิมพิลา ”กับพวกที่อ้างตัวเป็นสื่อ “หัวหน้าข่าวภาคอีสาน หนังสือพิมพ์ไทยสยาม” “ประธานเครือข่ายประชาชนต่อต้านการทุจริต” “นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย 2313”   เรียกรับเงินตบทรัพย์ผู้เสียหาย ห้างหุ้นส่วนจำกัดอุดร CSP ซึ่งได้รับงานสัมปทานงานก่อสร้างของทางราชการ ถึง 1 ล้านบาทและได้ต่อรองลดลงเหลือ 1 แสนบาท ก่อนจะถูกตลบหลังจับได้ยกแก๊ง 4 ทรชน พร้อมเงินสดของกลางในซองแต่โยนทิ้งข้างรถ ”หน่อง ตะวันแดง หรือ สุริยา พิมพิลา”เคยเดินสายเรียกเงินมาหลายจังหวัดในอีสานตอนบน และภาคเหนือตอนล่าง อุดรธานี ,หนองคาย ,บึงกาฬ ,หนองบัวลำภู ,เลย ,เพชรบูรณ์  ทั้งผู้รับเหมาและหัวหน้าส่วนราชการเคยโดนเรียกรับเงินตบทรัพย์มาแล้วหลายรายบางคนยอมจ่าย เพราะได้ทำความผิดจริงจึงได้ยองรายให้เพราะเกิดความรำคาญ  

            วันที่ 2 ก.ค. 67 เมื่อเวลา 10.50 น.ที่ห้องประชุม กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พล.ต.ต.สรรธาน อินทรจักร ผบก.ภ.จว.อุดรธานี มอบหมายให้ พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.ท.อรรคพล วงษ์ฤทธิวัลย์ รอง ผกก.กก.สส.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท.ดำรง หีบแก้ว สว.สส.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งนักข่าวนอกรีต เรียกรับเงินผู้เสียหาย 1ล้านบาท แต่ต่อรองกันได้ 1 แสนบาท ในข้อหา “ร่วมกันกรรโชคทรัพย์” ซึ่งมีผู้ต้องหาจำนวน 4 คนประกอบด้วย นายสุริยา พิมพิลา หรือหน่อง ตะวันแดง อายุ 57 ปี ชาว ต.บ้านขาว อ.เมืองอุดรธานี ตามหมายจับศาล จ.อุดรธานี ที่ 218/2567 ลงวันที่ 28 มิ.ย.67 ข้อหา “ร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์” นายกัมปนาท วงศ์อนุ หรือโปรบูม อายุ 36 ปี ชาว เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ตามหมายจับศาล จ.อุดรธานี ที่ 217/2567 ลงวันที่ 28 มิ.ย. 67 ข้อหา “ร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์” นายศักดิ์สยาม แสนทัศ หรือตู่ อายุ 50 ปี ชาว ต.หนองฮี อ.หนองฮี จ.ร้อยเอ็ด และนายสิทธิชัย วงศ์อนุ อายุ 45 ปี ชาว ต.นาแซง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
             ส่วนของกลางประกอบด้วยเงินสดใช้ล่อซื้อถ่ายเอกสารไว้แล้วอยู่ในถุงน้ำตาล จำนวน 100,000 บาท บัตรเครือข่ายประชาชนต่อต้านการทุจริตภาครัฐ ที่จัดทำหรือแต่งตั้งกันขึ้นมาเอง พร้อมเสื้อคลุมโลโก้ของหน่วยงานการตรวจสอบการทุจริตต่างๆของภาครัฐ จำนวน 6 ตัว บัตรผู้สื่อข่าว และบรรณาธิการข่าว น.ส.พ.ท้องถิ่น 14 ใบ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ  13 เครื่อง รถปิกอัพ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีเทา ทะเบียน 4กต 5516 กรุงเทพมหานคร    1 คัน อาวุธปืนพกยี่ห้อกล็อค สีดำ ขนาด 9 มม.1กระบอก (อ้างว่ามีทะเบียน) พร้อมกระสุนจำนวน 38 นัด แบงค์กัน สีดำขนาด 9 มม.1กระบอก ของนายกัมปนาทฯ จึงแจ้งข้อหา “ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยผิดกฎหมาย” อีก 1 กระทง

 
          ทั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวนได้รับการประสานจากผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างรายหนึ่งที่เป็นผู้เสียหาย หลังเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พงส.สภ.เมืองอุดรธานี ว่าถูกกลุ่มคน 4 คนที่อ้างเป็นตัวแทนสื่อมวลชน “เครือข่ายประชาชนต่อต้านการทุจริต” ที่เรียกตัวเองว่าชื่อ  ”เฮียหน่อง” เรียกรับเงินจำนวน 1,000,000 บาท(หนึ่งล้านบาท) แลกกับการไม่ถูกร้องเรียนการทำงาน  แต่ต่อรองลดลงได้เหลือ 100,000 บาท 
          หลังรับแจ้ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้ขออนุมัติศาลอุดรธานี ออกหมายจับ ”หน่อง ตะวันแดง หรือ นายสุริยา พิมพิลา” (หน.แก๊ง) และนายบูม ตามพยานหลักฐาน ก่อนจะประสานตำรวจชุดจับกุม วางแผนให้ผู้เสียหายซ้อนแผนจับกุมตัวได้ยกแก๊งที่ลานจอดรถ ตลาด ส.นงนุช บ.หนองตูม ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี ในเวลา 17.20 น.ในวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางความแตกตื่นประชาชนที่มาจับจ่ายตลาดในช่วงเย็น ที่คิดว่าตำรวจปิดล้อมจับผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งขณะเข้าจับกุมตัว ตำรวจได้บันทึกคลิปไว้เป็นหลักฐานทุกขั้นตอน และได้ควบคุมตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย  โดยผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การภาคเสธ
         พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.กล่าวว่า ขณะเข้าจับกุมตรวจค้นในรถพบเครื่องมือที่ใช้แอบอ้างเป็นนักข่าว คือบัตรประจำตัวสำนักข่าว บัตรประจำตัวที่อ้างเป็นเครือข่ายประชาชนต่อต้านการทุจริต ที่ทำขึ้นมาเอง โดยไม่มีหน่วยงานของรัฐอนุญาตหรือรับรอง แต่แต่งตัวคล้ายเจ้าหน้าที่รัฐ  ติดป้ายหรือโลโก้หน่วยงานต่างๆ ที่หน้าอกเสื้อคลุม เงินสดที่เป็นเงินล่อซื้อ จำนวน 1 แสนบาท ถูกโยนออกจากนอกรถ เพื่อทำลายหลักฐานให้พ้นผิด แต่ตำรวจได้บันทึกวีดีโอไว้ทุกขั้นตอนแล้ว ซึ่งในการกระทำแบบนี้ ส่งผลเสียหรือด้านลบให้กับสื่อมวลชนในพื้นที่ ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุจริตตรงไปตรงมา ที่มีการแอบอ้างเป็นสื่อมวลชนในพื้นที่ ไปข่มขู่เรียกรับเงินหัวหน้าส่วนราชการ และผู้รับเหมามาหลายที่หลายจังหวัดในภาคอีสาน และภาคเหนือตอนล่าง จนเขาหลงเชื่อบางคนมีการจ่ายเงิน ผู้รับเหมาบางคนก็แจ้งความดำเนินคดี ซึ่งแก๊งนี้มีพฤติกรรมแบบนี้มานานแล้ว ล่าสุดก็เป็นการเรียกรับเงิน 1 แสนบาท จากผู้เสียหาย โดยให้จ่ายเป็นรายปี ทางตำรวจได้สืบสวนหาเบาะแส จนสามารถจับกุมพร้อมของกลาง ส่วนผู้เสียหายรายอื่น ที่ถูกกลุ่มคนเหล่านี้เรียกรับเงินตบทรัพย์ โดยอ้างว่าเป็นสื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง เพื่อขู่กรรโชกเรียกรับเงิน หรือผลประโยชน์ต่างๆ หรือผู้ที่จ่ายไปแล้วให้นำหลักฐานมาแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่ สภ.เมืองอุดรธานี หรือพื้นที่เกิดเหตุ และกองกำกับการสืบภูธรจังหวัดอุดรธานี เพื่อจะดำเนินคดีกับแก๊งนี้เพิ่มเติม เนื่องจากการสืบสวนเชิงลึกสื่อมวลชนได้รับการร้องเรียนให้ตรวจสอบว่า ”หน่อง ตะวันแดง หรือ นายสุริยา พิมพิลา” เป็นสื่อมวลชน เป็นนายกสมาคมฯ เป็นประธานเครือข่ายตรวจสอบทุจริต จริงหรือไม่ สื่อมวลชนได้ตรวจสอบแสวงหาข้อเท็จจริงทราบว่า “หนังสือพิมพ์ ไทยสยาม” ได้จดแจ้งการพิมพ์ตามพระราชบัญญัติการพิมพ์ จริง แต่ไม่ได้จัดพิมพ์หนังสือพิมพ์มาหลายปีแล้ว  และ “นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย 2313” และ “ประธานเครือข่ายตรวจสอบปราบทุจริต” สื่อมวลชนได้เขาสอบถามจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องพบว่าไม่มีการจดแจ้งตามกฎหมาย เป็นเพียงตำแหน่งที่ ”หน่อง ตะวันแดง หรือ นายสุริยา พิมพิลา” แอบอ้างขึ้นมาเองเพื่อให้มีตำแหน่งใหญ่โตเพื่อจะได้เรียบรับเงินตบทรัพย์ได้สะดวกในจำนวนมาก ผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย ยึดโทรศัพท์ได้ 13 เครื่อง คาดว่าโทรศัพท์ทั้ง 13 เครื่องจะต้องมีเฟสบุ๊กอวตารแอบแฝงอยู่จำนวนมาก
          อย่างไรก็ดียังมีผู้เสียหายในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงในภาคอีสาน โดยเฉพาะกลุ่มรถบรรทุกดิน หิน และทราย ได้รับความเดือดร้อนจากกลุ่มคนเหล่านี้ ตำรวจฝากแจ้งข่าวหากมีผู้เสียหายรายใดสงสัยว่า ใครเคยถูกแก๊ง ”หน่อง ตะวันแดง หรือ สุริยา พิมพิลา” เรียกรับเงินมาแจ้งความเพิ่มเติมได้ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้ทางชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี จะได้มีข้อมูลหลักฐานในการสนับสนุนดำเนินคดีต่อแก๊งนี้ให้สิ้นซากต่อไป.