บึงกาฬ...  ยิงสนั่นกลางเมืองสกัดรถเก่งขนยาบ้า300,000เม็ดได้ผู้ต้องหา 2 ราย   

                บึงกาฬ...  ยิงสนั่นกลางเมืองสกัดรถเก่งขนยาบ้า300,000เม็ดได้ผู้ต้องหา 2 ราย   ตำรวจบึงกาฬ เอาจริงวันเดียวจับผู้ค้ายาบ้า 2 รายผู้ต้องหา 4 คนยาบ้า 316,000 เม็ด ทั้ง 2 เหตุการณ์ ตำรวจต้องออกแรงหนัก รายแรกตั้งด่านสกัดในตัวอำเภอเซกา โบกรถเก๋งผู้ต้องหาไม่ยอมหยุดจึงยังยางล้อหลังสกัดยางแตกยังวิ่งหนีได้ไกล 7 กิโลเมตร ก่อนตามจับตัวได้ รายที่ 2 วิ่งหนีไปกว่า 20 กิโลจับได้เช่นกันยาบ้า 16,000 เม็ด
            วันที่ 20 มิ.ย. ที่ สภ.เซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ พล.ต.ต.วิญญู อำนวยสมบัติ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิชิต คงพิทักษ์ ผกก.สภ.เซกา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้แถลงข่าวผลการปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ในพื้นที่ได้ผู้ต้องหา 2 คนคือ นายนครินทร์ หงษ์จันทร์ อายุ 19 ปี บ้านเลขที่ 191 หมู่ 15 ตำบลน้ำโสม อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี ผู้ต้องหาที่1 และนายสันติ เดชสายบัว อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 84 หมู่ 5 ตำบลโสมเยี่ยม อำเภอเดียวกัน พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 300,000 เม็ด ,รถก๋งยี่ห้อโตโยต้ารุ่นวีออส สีบรอนซ์ ป้ายทะเบียน หมายเลข ขธ 4405 อุดรธานี โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการ แพร่กระจ่ายในกลุ่มประชาชน ,เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า)โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย แจ้งผู้ต้องหาที่เพิ่มเติมเป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า)โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย สถานที่จับกุมบริเวณถนนสายเซกา - นาทม บ้านโคกพิทักษ์ หมู่ 15 ตำบลเซกา อำเภอเซกาจังหวัดบึงกาฬ

                ทั้งนี้ พ.ต.ท.อดุลย์ ฉิมทับ รองผกก.สส.สภ.เชกาได้รับข้อมูลจากชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ว่าจะมี การขนยาเสพติดผ่านเข้ามาทางพื้นที่อำเภอเชกา โดยใช้รถก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขธ 4405 อุดรธานี ดังนั้นจึงได้พร้อมกันกับพวกชุดสายสืบและสายตรวจตั้งด่านสกัดอยู่ถนน 2026 เข้าเมืองเซการะหว่างหน้าหมวดการทางเซกากับ สภ.เซกา ซึ่งช่วงเช้ามีรถราวิ่งผ่านจำนวนมาก เนื่องจากเป็นจุดชุมชนและตรงข้ามก็เป็นสถานศึกษาทั้ง   ร.ร.อนุบาลเซกาและร.ร.เซกา ซึ่งเป็นร.ร.มัธยม ต้องใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด

                เวลาดังกล่าวได้มีรถเก๋งตามเป้าหมายวิ่งเข้ามาจึงได้ส่งสัญญาณให้หยุดตรวจ แต่รถเก๋งคันดังกล่าวไม่ยอมหยุดให้ตรวจค้น คนขับได้เร่งเครื่องแหกด่านเพื่อหลบหนี ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่จึงได้ช่วยกันวิ่งตามพร้อมกับใช้อาวุธปืนระดมยิงยางหลังจนระเบิด แต่คนขับไม่ยอมหยุดรถ ทำเอาประชาชนที่ขับรถผ่านไปมาต้องหยุดรถและประชาชนมีบ้านอยู่ละแวกนั้นต้องวิ่งออกมาหน้าบ้านเพื่อดูเหตุการณ์ต่างลุ้นกันระทึก จนท.ตำรวจส่วนหนึ่งต้องขับรถไล่ล่ารถคนร้ายไปติดๆ รถคนร้ายวิ่งถึงสามแยกเลี้ยวซ้ายมือไป อ.นาทม จ.นครพนม วิ่งไปได้ประมาณ 3 กม.รวมขับหนีมาจากจุดตั้งด่านตรวจ 7 กิโลเมตร และเป็นจังหวะเดียวกันกับรถ ตำรวจภาค 4 อีกชุดหนึ่งวิ่งสวนทางมา จึงหยุดขวางทางเอาไว้ไปต่อไม่ได้ นายสันติ เดชสายบัว อายุ 27 ปี ที่นั่งมาในรถคนร้ายได้จังหวะจึงเปิดประตูรถวิ่งหนีเข้าป่า จนท.จึงไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ สอบถามเบื้องต้นเคยทำมาแล้ว 5 ครั้ง อ้างว่าได้ค่าจ้างเที่ยวละ 10,000 บาทแบ่งกันคนละ 5,000 บาท เพื่อนำไปส่งเสี่ยรายหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี จึงถูกควบคุมตัวส่ง ร.ต.อ.ชาญชัย ภูล้นแก้ว พงส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย

                อีกรายเมื่อคืนผ่านมา พ.ต.อ.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ,พ.ต.อ.ญาณะธัช ชัยพชรโชติ ผกก.สภ.ศรีวิไล พ.ต.ท.ณัฐพล โอฆะพนม สว.กก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ,พ.ต.ท.กำพล บัวจันทร์ สว.กก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ พร้อมชุดสืบสวนกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ และชุดสืบสวน สภ.ศรีวิไล ได้ขับรถไล่ติดตามผู้ค้ายาเสพติดออกจากพื้นที่ริมโขง ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ จนมาถึงถนนภายในหมู่บ้านนาคำแคน ม.3 ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ จึงเข้าสกัดจับกุมตัวและตรวจค้นนายอาทิตย์หรือมิล กิ้วราชแยง อายุ 24 ปี ที่อยู่ 131 ม.2 ต.บ่อแก้ว อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร

และนายวรวิทย์หรือกอล์ฟ เชียงล้ำ อายุ 17 ปี ที่อยู่ 91 ม.2 ต.บ่อแก้ว อำเภอเดียวกันคนในกระเป๋าพบยาบ้าจำนวน16,000 เม็ด จึงยึดไว้เป็นของกลางพร้อมรถ จยย.ยามาฮ่า CBR 150 สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน แจ้งข้อหา"ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท1(เมทเอมเฟตามีนหรือยาบ้า)โดยการมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและกระทำการเพื่อการค้าและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยฝ่าฝืนกฎหมาย นำตัวส่ง สภ.ศรีวิไล ดำเนินคดีต่อไป.

                นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี//บึงกาฬ 0933199399