พิจารณาคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติ จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปี 2567
วันที่ 29 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00 น. นายนพดล จอมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานประชุมคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติ จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปี 2567 ที่ ห้องประชุมสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นางวนิดา สมานมิตร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย คณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมพิจารณาฯ
นางวนิดา สมานมิตร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จากการที่สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กำหนดจัดงานวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2567 ในวันที่ 12 สิงหาคม 2567 เพื่อเทิดทูนและเผยแพร่พระเกียรติคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงเป็นแม่แห่งชาติ และเผยแพร่พระคุณและบทบาทของแม่ ที่มีต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติ เพื่อยกย่องแม่ดีเด่น และลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ จึงได้กำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติ ในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2567 แบ่งเป็น 6 ประเภท คือ แม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม แม่ผู้มีความมานะอดทนขยันหมั่นเพียร แม่ของลูกผู้ทำประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ แม่ผู้เป็นเกษตรกร แม่ของลูกผู้เสียสละ แม่ผู้เป็นอาสาสมัครและแม่ของลูกที่เป็นอาสาสมัคร ส่วนด้านคุณสมบัติของแม่ดีเด่นแห่งชาติ จะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ มีสัญชาติไทย มีความประพฤติดี มีสุขภาพดี มีความเป็นแม่ที่ดี มีอายุไม่ต่ำกว่า 50 ปีบริบูรณ์ ยกเว้นแม่ของลูกผู้เสียสละ มีครอบครัวเป็นที่ยอมรับ และเป็นแบบอย่างของสังคม เป็นผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่นและสังคม เป็นผู้นิยมและรักษาเอกลักษณ์ของไทย มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเลื่อมใส ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผู้ที่เสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติในส่วนกลาง จะต้องไม่เป็นผู้ที่ไม่ผ่านการคัดเลือกฯ ในส่วนภูมิภาค (ระดับจังหวัด) ในปีเดียวกัน และผู้ที่เสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติ จะต้องไม่เคยได้รับการคัดเลือกเป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติประเภทใดประเภทหนึ่งมาแล้ว
นางวนิดาฯ กล่าวอีกว่า จังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้เสนอรายชื่อผู้สมควรได้รับการคัดเลือกเป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดร้อยเอ็ด โดยส่งประวัติและผลงานเพื่อรับพิจารณาคัดเลือกเป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 3 คน โดยเข้ารับการพิจารณาจากคณะกรรมการฯ คัดเลือกให้เหลือจำนวน 2 คน และเสนอประวัติไปยังสภาสังคมสงเคราะห์ เพื่อเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกเป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2567 ในส่วนของระดับประเทศต่อไป
///
คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ
คีย์ อินธิราทร ศูนย์ข่าวทีวีประชาชนออนไลน์/รายงาน
นางวนิดา สมานมิตร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จากการที่สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กำหนดจัดงานวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2567 ในวันที่ 12 สิงหาคม 2567 เพื่อเทิดทูนและเผยแพร่พระเกียรติคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงเป็นแม่แห่งชาติ และเผยแพร่พระคุณและบทบาทของแม่ ที่มีต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติ เพื่อยกย่องแม่ดีเด่น และลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ จึงได้กำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติ ในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2567 แบ่งเป็น 6 ประเภท คือ แม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม แม่ผู้มีความมานะอดทนขยันหมั่นเพียร แม่ของลูกผู้ทำประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ แม่ผู้เป็นเกษตรกร แม่ของลูกผู้เสียสละ แม่ผู้เป็นอาสาสมัครและแม่ของลูกที่เป็นอาสาสมัคร ส่วนด้านคุณสมบัติของแม่ดีเด่นแห่งชาติ จะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ มีสัญชาติไทย มีความประพฤติดี มีสุขภาพดี มีความเป็นแม่ที่ดี มีอายุไม่ต่ำกว่า 50 ปีบริบูรณ์ ยกเว้นแม่ของลูกผู้เสียสละ มีครอบครัวเป็นที่ยอมรับ และเป็นแบบอย่างของสังคม เป็นผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่นและสังคม เป็นผู้นิยมและรักษาเอกลักษณ์ของไทย มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเลื่อมใส ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผู้ที่เสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติในส่วนกลาง จะต้องไม่เป็นผู้ที่ไม่ผ่านการคัดเลือกฯ ในส่วนภูมิภาค (ระดับจังหวัด) ในปีเดียวกัน และผู้ที่เสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติ จะต้องไม่เคยได้รับการคัดเลือกเป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติประเภทใดประเภทหนึ่งมาแล้ว
นางวนิดาฯ กล่าวอีกว่า จังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้เสนอรายชื่อผู้สมควรได้รับการคัดเลือกเป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดร้อยเอ็ด โดยส่งประวัติและผลงานเพื่อรับพิจารณาคัดเลือกเป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 3 คน โดยเข้ารับการพิจารณาจากคณะกรรมการฯ คัดเลือกให้เหลือจำนวน 2 คน และเสนอประวัติไปยังสภาสังคมสงเคราะห์ เพื่อเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกเป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2567 ในส่วนของระดับประเทศต่อไป
///
คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ
คีย์ อินธิราทร ศูนย์ข่าวทีวีประชาชนออนไลน์/รายงาน