คุณป้าวัย 68 ปี พร้อมสามีขอขมาผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วย กรณีกล่าวหาว่าใช้อำนาจรัฐปิดทางไม่ให้ผ่าน
คุณป้าวัย 68 ปี พร้อมสามีขอขมาผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วย กรณีกล่าวหาว่าใช้อำนาจรัฐปิดทางไม่ให้ผ่าน
วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ณ ที่ห้องประชุมศูนย์พัฒนาพื้นที่สูงจังหวัดเพชรบูรณ์ได้เปิดประชุมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างนางเที้ยะ แซ่เถา อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านเนิน อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นผู้ร้อง กับนายบรรจง แซ่ท่อ อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ตำบลบ้านเนิน และนายณัฐวุฒิ แซ่เถา อายุ 42 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ซึ่งเป็นผู้ถูกร้อง เรื่องใช้อำนาจรัฐปิดเส้นทางที่เคยใช้สัญจรในการประกอบอาชีพทำไร่กะหล่ำปลี โดยมีนายจิรวุฒิ ศิริรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานพร้อมด้วยนายสมศักดิ์ ชวนชม ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้เพชรบูรณ์ นายเจตน์สฤษฎิ์ จันทศร ปลัดอำเภอหล่มเก่าฝ่ายอำนวยความเป็นธรรม นายธรวิวรรธน์ พันธ์เจริญ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าประชุมพร้อมร่วมลงนามเป็นพยานตามข้อตกลงของทั้งสองฝ่าย
จากกรณีเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 นางเที้ยะ แซ่เถา ได้เข้าร้องทุกข์ต่อนายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อขอความเป็นธรรม และขอความอนุเคราะห์ให้ช่วยไกล่เกลี่ยเรื่องที่ถูกนายบรรจง แซ่ท่อ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ แซ่เถา ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่เดียวกัน ใช้ตำแหน่งหน้าที่รังแกตนและครอบครัว โดยการปิดเส้นทางที่ตนใช้เข้า-ออกไปยัง ไร่กะหล่ำปลีที่ตนและครอบครัวทำเป็นอาชีพมาหลายสิบปี
ซึ่งในที่ประชุมนายบรรจง แซ่ท่อ ผู้ใหญ่บ้านพร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ แซ่เถา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้ชี้แจงว่าตนไม่เคยปิดเส้นทางดังกล่าวแต่อย่างใดและพร้อมที่จะให้นางเที้ยะปรับปรุงพื้นที่ของตนเป็นถนนคอนกรีตที่มาตรฐานได้ตามความประสงค์ของนางเที้ยะโดยที่ตนไม่ได้ขัดข้อง เพียงแต่ที่ดินแปลงดังกล่าวตนเพิ่งชื้อต่อมาจากผู้ช่วยเพื่อจะทำเป็นรีสอร์ท จึงขอเวลาให้ตนลงเสาเพื่อจะสร้างห้องพักก่อนเพราะเกรงว่าเสาห้องพักจะไปตกตรงบริเวณทางที่นางเที้ยะจะปรับผิวเป็นถนนคอนกรีตแล้วทำให้ต้องทุบทิ้งเสียเวลาและเสียเงินเนื่องจากช่วงนี้ตนและภรรยายังไม่ว่างเพราะกำลังทำไร่ขิงอยู่ แต่พอมารู้ข่าวว่านางเที้ยะไปร้องว่าตนกลั่นแกล้งก็ทำให้ตนและครอบครัวรู้สึกไม่บายใจจึงได้มาชี้แจงให้ทุกฝ่ายได้เข้าใจ
จากกรณีเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 นางเที้ยะ แซ่เถา ได้เข้าร้องทุกข์ต่อนายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อขอความเป็นธรรม และขอความอนุเคราะห์ให้ช่วยไกล่เกลี่ยเรื่องที่ถูกนายบรรจง แซ่ท่อ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ แซ่เถา ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่เดียวกัน ใช้ตำแหน่งหน้าที่รังแกตนและครอบครัว โดยการปิดเส้นทางที่ตนใช้เข้า-ออกไปยัง ไร่กะหล่ำปลีที่ตนและครอบครัวทำเป็นอาชีพมาหลายสิบปี
ซึ่งในที่ประชุมนายบรรจง แซ่ท่อ ผู้ใหญ่บ้านพร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ แซ่เถา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้ชี้แจงว่าตนไม่เคยปิดเส้นทางดังกล่าวแต่อย่างใดและพร้อมที่จะให้นางเที้ยะปรับปรุงพื้นที่ของตนเป็นถนนคอนกรีตที่มาตรฐานได้ตามความประสงค์ของนางเที้ยะโดยที่ตนไม่ได้ขัดข้อง เพียงแต่ที่ดินแปลงดังกล่าวตนเพิ่งชื้อต่อมาจากผู้ช่วยเพื่อจะทำเป็นรีสอร์ท จึงขอเวลาให้ตนลงเสาเพื่อจะสร้างห้องพักก่อนเพราะเกรงว่าเสาห้องพักจะไปตกตรงบริเวณทางที่นางเที้ยะจะปรับผิวเป็นถนนคอนกรีตแล้วทำให้ต้องทุบทิ้งเสียเวลาและเสียเงินเนื่องจากช่วงนี้ตนและภรรยายังไม่ว่างเพราะกำลังทำไร่ขิงอยู่ แต่พอมารู้ข่าวว่านางเที้ยะไปร้องว่าตนกลั่นแกล้งก็ทำให้ตนและครอบครัวรู้สึกไม่บายใจจึงได้มาชี้แจงให้ทุกฝ่ายได้เข้าใจ
ทั้งนี้ในที่ประชุมได้มีการพูดคุยปรับความเข้าใจกันโดยทั้งสองฝ่ายได้ทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ประกอบด้วย ข้อ1.ผู้ร้องคือนางเที้ยะยินยอมขอขมาตามประเพณีแก่ผู้ถูกร้องทั้งสอง คือนายบรรจง แซ่ท่อ ผู้ใหญ่บ้าน และนายณัฐวุฒิ แซ่เถา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และแถลงข่าวให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกร้องทั้งสอง ในกรณีที่กล่าวหาว่าใช้อำนาจหน้าที่รัฐไปรังแกลูกบ้าน ข้อ 2. กรณีซ่อมแซมปรับปรุงเส้นทางสัญจรที่ใช้เส้นทางร่วมกันกับรายอื่นๆ ต้องร่วมกันออกค่าใช้จ่ายซ่อมแซมเส้นทางให้คงสภาพสมบูรณ์ และข้อ3.ในกรณีที่มีการเปลี่ยนผู้ถือครองที่ดินแปลงของนางเที้ยะเป็นบุคลอื่น ซึ่งเป็นผู้ถือครองที่ดินรายใหม่ขอให้ผู้ถือครองที่ดินรายใหม่ที่มีความประสงค์จะใช้เส้นทางสัญจรจะต้องมีการเจรจาทำข้อตกลงกับตนทั้งสองคนซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน เมื่อทั้งสองฝ่ายอ่านแล้วต่างพอใจในข้อความจึงได้เซ็นบันทึกข้อตกลงร่วมกัน และหลังจากนั้นนางเที้ยะพร้อมด้วยสามีก็ได้ก้มกราบขอขมาผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วย ในขณะที่ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยก็ลุกขึ้นขอขมาตอบพร้อมกล่าวว่าตนยังรักและนับถือเสมือนแม่ของตนดังนั้นตนขอยืนยันว่าต้องมีเส้นทางสัญจรเข้าออกอย่างแน่นอนนายบรรจง แซ่ท่อ ผู้ใหญ่บ้านกล่าวทิ้งท้าย ก่อนที่ทั้งคณะในที่ประชุมจะออกเดินทางลงพื้นที่จริงเพื่อชี้จุดกำหนดเส้นทางให้ทุกคนได้ทราบและจะได้ปรับปรุงดำเนินการเพื่อให้ได้ใช้สัญจรต่อไป