บึงกาฬ ใช้เครนกู้ซากรถกระบะตกแพข้ามน้ำโขง สาวเจ้าของรถ นรข.ช่วยทันยังขวัญผวา
บึงกาฬ ใช้เครนกู้ซากรถกระบะตกแพข้ามน้ำโขง สาวเจ้าของรถ นรข.ช่วยทันยังขวัญผวา
จากเหตุการณ์ รถกระบะตกแพข้ามน้ำโขง ที่บรรทุกมาจากเมืองปากซัน สปปลาว กำลังชะลอความเร็วจะเข้าเทียบท่าที่ท่าแพด่านศุลกากรบึงกาฬฝั่งไทย เกิดอุบัติเหตุรถกระบะตกจากแพจมน้ำโขง สาวคนขับเจ้าของรถผู้ประสบเหตุ สามารถออกจากตัวรถได้ก่อนที่จะจมน้ำโขง แล้วลอยคอพยุงตัวไหลล่องไปกับสายน้ำโขง หน่วยเรือ นรข.เข้าช่วยเหลือได้ หวุดหวิดก่อนจะหมดแรงจมน้ำโขง ส่งหน่วยกู้ภัยนทีธรรม นำต่อส่งโรงพยาบาลบึงกาฬ บ่ายวันนี้เจ้าขอแพน้ำรถเครนบรรทุกลงแพเข้ากู้ซากรถยนต์ที่จมน้ำโขงลึกกว่า 5 เมตรขึ้นมาได้สำเร็จท่ามกลางการลุ้นระทึกของสาวเจ้าของรถที่ยังขวัญผวาและญาติที่มาคอยดูเหตุการณ์ โดยมีหน่วยเรือ นรข.ตำรวจน้ำ ด่านศุลกากร ตชด.244 และจนท.ตม .คอยอำนวยการความสะดวก
วันที่ 2 ก.พ เวลา 14:00 น ที่กลางลำแม่น้ำโขงค่อยมาฝั่งไทย หน้าวัดป่าบ้านพันลำ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ น.ท.ธนชัย รอดทัศนา หน.สน.เรือบึงกาฬ ได้สั่งการให้ ร.ท.ไชยา เนียมแสง ผู้ควบคุมเรือตรวจการณ์ นำเรือเร็วออกไปอำนวยความสะดวกในการกู้ซากรถยนต์กระบะยีห้อโตโยต้าแคป รุ่นรีโว่ สีขาว ทะเบียน 3ฒฎ 5569 กรุงเทพมหานคร พร้อมกับ นายบรรเจิด ตันตะละ รษก.แทนนายด่านศุลกากรบึงกาฬ มอบหมายให้ นางสาวเบญจ์ ชำกรม นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ ตำรวจน้ำบึงกาฬ ด่านตรวจคนเข้าเมืองบึงกาฬ และมงคล แซ่โค้ว เจ้าของแพขนานยนต์เกิดเหตุ นำรถเครนขนาด 25 ตันลงแพออกไปยกรถกระบะคันตำน้ำโขง ซึ่งอยู่ห่างจากท่าเรือประมาณ 200 เมตร และรถจมน้ำอยู่ในระดับความลึกของน้ำโขงประมาณ 5 เมตร โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็สามรถยกรถขึ้นจากน้ำมาได้ บรรทุกขึ้นแพกลับเข้าฝั่งได้สำเร็ว โดยสภาพทั่วไปรถยนต์คันดังกล่าวอยู่ในสภาพเสียหายเล็กน้อย แต่สำหรับเครื่องยนต์ต้องตรวจเช็คอย่างละเอียดว่ามีส่วนใดเสียหายบ้าง เนื่องจากขณะตกจากแพเครื่องยนต์ยังติดอยู่
น.ท.ธนชัย รอดทัศนา ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากรับแจ้งขอความช่วยเหลือว่ารถยนต์ตกจากแพขนานยนต์เที่ยวที่แล่นมาจากฝั่ง สปป.ลาว ขณะกำลังเข้าเทียบท่า รถกำลังถูกกระแสน้ำพัดพาล่องลอยไปกับน้ำโขงและจมน้ำหายไปแล้ว ส่วนคนขับรถที่ติดอยู่ในรถก็หนีออกมาจากตัวรถได้ กำลังว่ายน้ำลอยคออยู่ จึงได้นำเรือจู่โจมลำน้ำ(จล.) 1 ลำ พร้อมกำลังพล 3 นาย ออกไปช่วยเหลือ ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากสถานีเรือ นรข.บึงกาฬ ประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อแล่นเรือเข้าไปใกล้ผู้ประสบเหตุ จึงโยนห่วงยางชูชีพให้จับดูท่าทางอ่อนแรงมาก ทราบว่าเป็นเพศหญิง พูดตอบโต้ได้แต่เสียเบา จึงช่วยดึงขึ้นจากน้ำโขงมาเรือ และทราบชื่อต่อมาว่า นางสาวสมคิด อยู่โพธิ์ อายุ 51 ปี ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ นำขึ้นเรือส่งต่อให้หน่วยกู้ภัยนทีธรรม นำส่ง รพ.บึงกาฬ ต่อไป หน.สถานีเรือเล่าเหตุการณ์ระทึกขณะเข้าช่วยเหลือ
ด้านนางสาวสมคิดหรือกูด อยู่โพธิ์ อายุ 51 ปี สาวเจ้าของรถกระบะผู้ประสบเหตุเล่าด้วยเสียงสั่นเครือที่บางเบาด้วยอาการขวัญผวายังไม่หายดีว่า ตอนเข้าเมื่อวานตนขับรถลงแพข้ามไปเที่ยวที่เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว เย็นๆ ก็ขับลงแพกลับมาฝั่งไทย ขณะแพชะลอเทียบท่า ขณะนั้นตนกำลังนั่งอยู่ในที่นั่งคนขับเตรียมขับรถขึ้นฝั่ง ได้ยินเสียงลั่นของฝาท้ายแพ ซึ่งเป็นทางวิ่งขึ้น-ลงแพขณะแพจอดเทียบท่า ทันได้นั้นแพได้เกิดเอียงทำให้โซ่ยึดรถของตนขาดรถจึงไหลตกจากท้ายแพ ถูกระแสน้ำพัดพารถลอยน้ำโขงไปไกลกว่าร้อยเมตร ก่อนจะจมน้ำโขงหายไป ส่วนตนขณะน้ำไหลเข้าตัวรถจึงได้ออกจากตัวว่ายน้ำพยายามมีสตินึกแต่คุณพระคุณเจ้าคูณพ่อแม่ให้ช่วยรอดชีวิต อีกใจก็คิดว่าตัวเองจะจมน้ำตายแน่ โชคดีที่หน่วยเรือ นรข.บึงกาฬ เข้าช่วยเหลือทัน ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยเหลือให้รอดตายจากการจมน้ำโขง คงพูดได้แค่นี้ เนื่องจากยังผวากับเหตุการณ์เมื่อวานยังไม่หายดีเลย
ส่วนนางสาวเบญจ์ ชำกรม จนท.ด่านศุลกากรกล่าวว่า จากเหตุการณ์รถตกแพข้ามฟากที่เกิดขึ้นคงเป็นอุบัติเหตุจริงๆ ต่อไปจะต้องบูรณาการทำงานกันทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่ และผู้ประกอบการแพขนานยนต์ ที่กั้นกันตกจะต้องติดตั้งเพิ่มขึ้นทั้งหัวเรือและท้ายเรือ ที่ผ่านมาติดราวกันตกเฉพาะด้านข้างทั้งสองด้านเท่านั้น.
นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี//บึงกาฬ 0933199399
จากเหตุการณ์ รถกระบะตกแพข้ามน้ำโขง ที่บรรทุกมาจากเมืองปากซัน สปปลาว กำลังชะลอความเร็วจะเข้าเทียบท่าที่ท่าแพด่านศุลกากรบึงกาฬฝั่งไทย เกิดอุบัติเหตุรถกระบะตกจากแพจมน้ำโขง สาวคนขับเจ้าของรถผู้ประสบเหตุ สามารถออกจากตัวรถได้ก่อนที่จะจมน้ำโขง แล้วลอยคอพยุงตัวไหลล่องไปกับสายน้ำโขง หน่วยเรือ นรข.เข้าช่วยเหลือได้ หวุดหวิดก่อนจะหมดแรงจมน้ำโขง ส่งหน่วยกู้ภัยนทีธรรม นำต่อส่งโรงพยาบาลบึงกาฬ บ่ายวันนี้เจ้าขอแพน้ำรถเครนบรรทุกลงแพเข้ากู้ซากรถยนต์ที่จมน้ำโขงลึกกว่า 5 เมตรขึ้นมาได้สำเร็จท่ามกลางการลุ้นระทึกของสาวเจ้าของรถที่ยังขวัญผวาและญาติที่มาคอยดูเหตุการณ์ โดยมีหน่วยเรือ นรข.ตำรวจน้ำ ด่านศุลกากร ตชด.244 และจนท.ตม .คอยอำนวยการความสะดวก
วันที่ 2 ก.พ เวลา 14:00 น ที่กลางลำแม่น้ำโขงค่อยมาฝั่งไทย หน้าวัดป่าบ้านพันลำ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ น.ท.ธนชัย รอดทัศนา หน.สน.เรือบึงกาฬ ได้สั่งการให้ ร.ท.ไชยา เนียมแสง ผู้ควบคุมเรือตรวจการณ์ นำเรือเร็วออกไปอำนวยความสะดวกในการกู้ซากรถยนต์กระบะยีห้อโตโยต้าแคป รุ่นรีโว่ สีขาว ทะเบียน 3ฒฎ 5569 กรุงเทพมหานคร พร้อมกับ นายบรรเจิด ตันตะละ รษก.แทนนายด่านศุลกากรบึงกาฬ มอบหมายให้ นางสาวเบญจ์ ชำกรม นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ ตำรวจน้ำบึงกาฬ ด่านตรวจคนเข้าเมืองบึงกาฬ และมงคล แซ่โค้ว เจ้าของแพขนานยนต์เกิดเหตุ นำรถเครนขนาด 25 ตันลงแพออกไปยกรถกระบะคันตำน้ำโขง ซึ่งอยู่ห่างจากท่าเรือประมาณ 200 เมตร และรถจมน้ำอยู่ในระดับความลึกของน้ำโขงประมาณ 5 เมตร โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็สามรถยกรถขึ้นจากน้ำมาได้ บรรทุกขึ้นแพกลับเข้าฝั่งได้สำเร็ว โดยสภาพทั่วไปรถยนต์คันดังกล่าวอยู่ในสภาพเสียหายเล็กน้อย แต่สำหรับเครื่องยนต์ต้องตรวจเช็คอย่างละเอียดว่ามีส่วนใดเสียหายบ้าง เนื่องจากขณะตกจากแพเครื่องยนต์ยังติดอยู่
น.ท.ธนชัย รอดทัศนา ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากรับแจ้งขอความช่วยเหลือว่ารถยนต์ตกจากแพขนานยนต์เที่ยวที่แล่นมาจากฝั่ง สปป.ลาว ขณะกำลังเข้าเทียบท่า รถกำลังถูกกระแสน้ำพัดพาล่องลอยไปกับน้ำโขงและจมน้ำหายไปแล้ว ส่วนคนขับรถที่ติดอยู่ในรถก็หนีออกมาจากตัวรถได้ กำลังว่ายน้ำลอยคออยู่ จึงได้นำเรือจู่โจมลำน้ำ(จล.) 1 ลำ พร้อมกำลังพล 3 นาย ออกไปช่วยเหลือ ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากสถานีเรือ นรข.บึงกาฬ ประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อแล่นเรือเข้าไปใกล้ผู้ประสบเหตุ จึงโยนห่วงยางชูชีพให้จับดูท่าทางอ่อนแรงมาก ทราบว่าเป็นเพศหญิง พูดตอบโต้ได้แต่เสียเบา จึงช่วยดึงขึ้นจากน้ำโขงมาเรือ และทราบชื่อต่อมาว่า นางสาวสมคิด อยู่โพธิ์ อายุ 51 ปี ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ นำขึ้นเรือส่งต่อให้หน่วยกู้ภัยนทีธรรม นำส่ง รพ.บึงกาฬ ต่อไป หน.สถานีเรือเล่าเหตุการณ์ระทึกขณะเข้าช่วยเหลือ
ด้านนางสาวสมคิดหรือกูด อยู่โพธิ์ อายุ 51 ปี สาวเจ้าของรถกระบะผู้ประสบเหตุเล่าด้วยเสียงสั่นเครือที่บางเบาด้วยอาการขวัญผวายังไม่หายดีว่า ตอนเข้าเมื่อวานตนขับรถลงแพข้ามไปเที่ยวที่เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว เย็นๆ ก็ขับลงแพกลับมาฝั่งไทย ขณะแพชะลอเทียบท่า ขณะนั้นตนกำลังนั่งอยู่ในที่นั่งคนขับเตรียมขับรถขึ้นฝั่ง ได้ยินเสียงลั่นของฝาท้ายแพ ซึ่งเป็นทางวิ่งขึ้น-ลงแพขณะแพจอดเทียบท่า ทันได้นั้นแพได้เกิดเอียงทำให้โซ่ยึดรถของตนขาดรถจึงไหลตกจากท้ายแพ ถูกระแสน้ำพัดพารถลอยน้ำโขงไปไกลกว่าร้อยเมตร ก่อนจะจมน้ำโขงหายไป ส่วนตนขณะน้ำไหลเข้าตัวรถจึงได้ออกจากตัวว่ายน้ำพยายามมีสตินึกแต่คุณพระคุณเจ้าคูณพ่อแม่ให้ช่วยรอดชีวิต อีกใจก็คิดว่าตัวเองจะจมน้ำตายแน่ โชคดีที่หน่วยเรือ นรข.บึงกาฬ เข้าช่วยเหลือทัน ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยเหลือให้รอดตายจากการจมน้ำโขง คงพูดได้แค่นี้ เนื่องจากยังผวากับเหตุการณ์เมื่อวานยังไม่หายดีเลย
ส่วนนางสาวเบญจ์ ชำกรม จนท.ด่านศุลกากรกล่าวว่า จากเหตุการณ์รถตกแพข้ามฟากที่เกิดขึ้นคงเป็นอุบัติเหตุจริงๆ ต่อไปจะต้องบูรณาการทำงานกันทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่ และผู้ประกอบการแพขนานยนต์ ที่กั้นกันตกจะต้องติดตั้งเพิ่มขึ้นทั้งหัวเรือและท้ายเรือ ที่ผ่านมาติดราวกันตกเฉพาะด้านข้างทั้งสองด้านเท่านั้น.
นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี//บึงกาฬ 0933199399