นอภ.เซกา ปล่อยปละละเลย เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน ร่วมทุจริตเวลาราชการ ปฏิบัติหน้าที่ไร้ประสิทธิภาพ เปลืองเงินภาษีประชาชน
วันที่ 25 ธ.ค.66 เวลา 15.50 น. สื่อมวลชนได้เข้าติดตามสอบถามความคืบหน้า กรณีมีชาวเวียดนามชื่อ มิน เติร์นวัน สวมบัตรประจำตัวประชาชนชาวไทย และได้จงใจยื่นเอกสารอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนอำเภอเซกา เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2558 เพื่อขอมีบัตรประจำตัวประชาชน ขอทำบัตรกรณีบัตรหาย สื่อมวลชนจึงได้สอบถามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับบุคคลที่สวมบัตรประจำตัวประชาชนชื่อ นายกิตตินันท์ สุนทราภิราม ซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นภัยต่อสังคม สวมบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย จงใจยื่นเอกสารอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน รวมถึงจงใจยื่นเอกสารอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ที่ดินและหน่วยงานราชการหลายแห่ง จึงได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนอำเภอเซกา แต่มีเจ้าหน้าที่เพียงผู้เดียวและไม่สามารถให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนได้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนอำเภอเซกา ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม ร่วมกันทุจริตเวลาราชการจนกลายเป็นความเคยชิน และเป็นการปฏิบัติงานแบบไร้ประสิทธิภาพ ไม่เหมาะกับเงินเดือนภาษีประชาชน เมื่อสื่อมวลชนไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ราชการฝ่ายทะเบียนในเวลาราชการได้ จึงได้เข้าพบ นายจักรพงศ์ พันธุ์เพ็ง นายอำเภอเซกา โดยนายจักรพงศ์ พันธุ์เพ็ง นายอำเภอเซกา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าเรื่องมันเกิดขึ้นตั้งนานแล้ว เปลี่ยนนายอำเภอมาหลายคนแล้วมาจี้อะไรกับผม
นายกิตตินันท์ สุนทราภิราม มีหมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ.๓๑๒ / ๒๕๖๕ ลงวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ความอาญา ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ใช้หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ เพื่อให้ตนเองมีรายการอย่างหนึ่งอย่างใด ในทะเบียนบ้านหรือเอกสารทะเบียนราษฎรยื่นโดยมิชอบ แจ้งข้อความหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการขอมีบัตรใหม่ แจ้งความอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนได้รับความเสียหายฯ และแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่กระทำตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามเข้าจับกุมตามหมายจับและส่งมอบตัว นายกิตตินันท์ สุนทราภิราม ให้ปกครองอำเภอเมืองอุดรธานี และทางอำเภอเมืองอุดรธานีได้ส่งสำนวนให้กับอัยการจังหวัดอุดรธานีเพื่อดำเนินการส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดอุดรธานี และมีหน่วยงานราชการอีกหลายหน่วยงานได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับนายกิตตินันท์ สุนทราภิราม ต่อเจ้าพนักงานสอบสวนในพื้นที่
คดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคง และหน่วยงานราชการรัฐเป็นผู้เสียหาย แต่นายจักรพงศ์ พันธุ์เพ็ง นายอำเภอเซกา พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนอำเภอเซกา ยังไม่ใส่ใจที่จะดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าว จงใจปล่อยปละละเลย เพิกเฉยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อาจมีการใช้ตำแหน่งราชการแสวงหาผลประโยชน์ที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่ได้ดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าว สื่อมวลชนเข้าสอบถามก็โยนกันไป โยนกันมาไม่ยอมรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองทั้งที่บุคคลดังกล่าวได้กระทำความผิดชัดเจน สื่อมวลชนจะได้ติดตามความคืบหน้าเพื่อนำเสนอข่าวให้ทราบต่อไป