วันนี้ 9  ธ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านปากโสม  บ้านลำภูพาน ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ว่าขณะนี้ถนนในหมู่บ้านปากโสม หมู่ 2 และหมู่ 3 ถนนภายในหมู่บ้านพังยับเนื่องจากผู้ประกอบการบรรทุกดินอิกคิวซัง บรรทุกดินทั้งรถพ่วง รถสิบล้อ และรถหกล้อ ได้บรรทุกดินผ่านถนนหมู่บ้านดังกล่าวซึ่งเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลผาตั้ง และได้บรรทุกดินผ่านเส้นทางแยกออกจากถนนสายทางหลวงหมายเลข 211 (สังคม-เชียงคาน) ได้มีผู้ประกอบการรถบรรทุกสิบล้อและรถพ่วงบรรทุกดินลูกรังเข้ามาใช้เส้นทางผ่าน ฝ่าเข้ามายังกลางชุมชนเป็นจำนวนมาก วันละนับ 100 คัน และบรรทุกผ่านถนนสายลำภูพาน - นาโคก  ซึ่งอยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานแขวงทางหลวงชนบทหนองคาย ทำให้ถนนพัง และสร้างความเดือดร้อนลำคาญให้ชาวบ้านทั้งสองหมู่บ้าน จำนวนกว่า 150 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากฝุ่นละออง และรถบรรทุกยังใช้ความเร็วสูง ทั้งที่เป็นเส้นทางคับแคบ จนหวั่นเกรงว่าจะเกิดอันตราย และได้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนระหว่างรถบรรทุกดินกับรถชาวบ้าน
โดยเฉพาะในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ในขณะที่คนในหมู่บ้านกำลังจะออกไปทำงานและเดินทางกลับเข้าบ้านพัก ทำให้การสัญจรเดินทางเข้าออกจากหมู่บ้านเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากรถยนต์ส่วนบุคคลไม่สามารถสวนทางกันกับรถพ่วงบรรทุกดินได้โดยสะดวก อีกทั้งยังหวั่นเกรงว่าบุตรหลานที่เดินทางไปโรงเรียนจะได้รับอันตราย เนื่องจากรถบรรทุกดินที่เข้ามาใช้เส้นทางนั้นต่างพากันใช้ความเร็วสูง เพื่อเร่งรีบทำเที่ยววิ่งขนส่งดิน

          ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามชาวบ้านทราบว่า รถบรรทุกอิกคิวซัง ได้บรรทุกดินสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชน และได้ทำถนนที่สร้างจากเงินภาษีประชาชนพัง เพียงเพราะผลประโยชน์ของเพียงคนไม่กี่คน แต่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหลายครอบครัว จึงอยากวิงวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำนังงานองค์การบริหารส่วนตำบลผาตั้ง ตำรวจจราจรสถานีตำรวจภูธรผาตั้ง สำนักงานแขวงทางหลวงชนบทหนองคาย และหน่วยงานราชการระดับสูงผู้บังคับบัญชาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแลอย่าปล่อยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจงใจเพิกเฉยปล่อยปละละเลย ใช้ตำแหน่งหน้าที่ราชการเอื้อประโยชน์พวกพ้องทำลายทรัพยากรของประเทศชาติสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ช่วยเข้ามาดูแลความเดือดร้อนของชาวบ้านด้วย เนื่องจากตลอดระยะเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมา หลังจากผู้ประกอบการกลุ่มนี้เข้ามาใช้เส้นทางผ่าน ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านมาอย่างต่อเนื่อง และทำให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นต่อชาวบ้านผู้ใช้เส้นทาง ที่ผ่านมาชาวบ้านเคยเข้าไปร้องเรียนถึงยังหน่วยงานระดับอำเภอมาแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ระดับอำเภอทำได้แค่เพียงเจรจาไกล่เกลี่ย ให้รถบรรทุกดินวิ่งผ่านหมู่บ้านเป็นช่วงเวลา
          ผู้ประกอบการกลับเมินข้อตกลง โดยการเข้ามาใช้เส้นทางวิ่งบรรทุกดินทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดไปจนถึงช่วงค่ำ จึงทำให้การสัญจรเข้าออกหมู่บ้านเป็นไปด้วยความยากลำบาก เสี่ยงอันตราย โดยเฉพาะเด็กเล็ก และบุตรหลานที่ต้องออกเดินทางไปโรงเรียนเพียงลำพัง จึงอยากให้ผู้ประกอบการไปใช้เส้นทางสายอื่น โดยปัจจุบันหลังจากรถบรรทุกเหล่านี้เข้ามาใช้เส้นทางในหมู่บ้านได้ทำให้พื้นถนนชำรุด พังเสียหายเนื่องจากการบรรทุกน้ำหนักเกิน และไม่ปกคลุมผ้าใบ ไม่ปฏิบัติตาม พรบ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 อีกด้วย