เตือนภัย นายกเถื่อน สุริยา  พิมพิลา อ้างเป็นนายกสมาคมฯ เถื่อน   

เตือนภัย นายกเถื่อน
สุริยา  พิมพิลา
อ้างเป็นนายกสมาคมฯ เถื่อน

      สื่อมวลชนได้รับการร้องเรียนให้ตรวจสอบสถานะนายสุริยา  พิมพิลา  อ้างเป็นสื่อมวลชนหนังสือพิมพ์ไทยสยาม ตำแหน่ง หัวหน้าข่าวภาคอีสาน / ผู้ช่วยบรรณาธิการ  และอ้างเป็นนายก “สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ๒๓๑๓”  และอ้างตนเป็นประธานเครือข่ายประชาชนตรวจสอบปราบทุจริตภาคอีสาน มีพฤติกรรมเรียกรับเงิน นั้น  สื่อมวลชนได้ลงพื้นที่แสวงหาข้อเท็จจริง ตามตำแหน่งทีละประเด็นดังนี้  

           ประเด็นที่ 1   นายสุริยา  พิมพิลา  อ้างเป็นสื่อมวลชนหนังสือพิมพ์ไทยสยาม ตำแหน่ง หัวหน้าข่าวภาคอีสาน / ผู้ช่วยบรรณาธิการ  นั้น หนังสือพิมพ์ไทยสยาม นั้นได้จดแจ้งการพิมพ์ถูกต้องจริง แต่ไม่ทราบว่า เจ้าของ / บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยสยาม ได้มอบสำเนาหนังสือการจดแจ้งการพิมพ์ ให้นายสุริยา  พิมพิลา ได้ถือครอบครองไว้หรือไม่ และไม่ทราบว่า เจ้าของ / บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยสยาม ได้จัดทำหนังสือแต่งตั้ง รับรองการเป็นผู้สื่อข่าวของนายสุริยา  พิมพิลา หรือไม่อย่างไร
           ประเด็นที่ 2 นายสุริยา  พิมพิลา อ้างเป็นนายก “สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ๒๓๑๓”   นั้น  สื่อมวลชนได้ตรวจสอบแล้วทราบว่า  “สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ๒๓๑๓” ไม่มีการจดทะเบียน “สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ๒๓๑๓” ในสารบบราชการ  จึงเป็นสมาคมฯเถื่อน และการที่นายสุริยา  พิมพิลา ทราบดีอยู่แล้วว่า “สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ๒๓๑๓” ไม่ได้จดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายแต่ยังจงใจมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ตั้งตนเองเป็นนายกสมาคมฯ จึงเป็นนายกเถื่อน และการอ้างว่าตนเองตำแหน่งใหญ่โตเพื่ออาจใช้ในการแอบอ้างโดยมีเจตนาไม่สุจริต
           ประเด็นที่ 3 นายสุริยา  พิมพิลา  อ้างตนเองเป็นประธานเครือข่ายประชาชนตรวจสอบปราบทุจริตภาคอีสาน สื่อมวลชนได้ตรวจสอบทราบว่า เครือข่ายประชาชนตรวจสอบปราบทุจริตภาคอีสาน นั้น ไม่ได้มีหน่วยงานราชการใดรับรอง  เป็นการจัดตั้ง ก่อตั้งขึ้นมาเองโดยเอกชนส่วนตัว ไม่มีหนังสือรับรองจากหน่วยงานราชการใด องค์กรดังกล่าวจึงเป็นเสมือนองค์กรเถื่อน เป็นองค์กรที่ไม่มีหน่วยงานราชการรับรอง
           ประเด็นที่ 4 อ้างสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย 2313  โดยสมาคมฯดังกล่าวนายทะเบียนอำเภอสระบุรียังไม่ได้รับรองคณะกรรมการ เนื่องจากมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบบุคคลที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม รวมถึงมีการร้องเรียนเรื่องปลอมแปลงใบสมัครสมาชิก พร้อมรายงานเท็จต่อนายทะเบียน และมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมสมาชิก คณะกรรมการที่มีพฤติกรรมเรียกรับเงิน กรรโชกทรัพย์ ตบทรัพย์ ต่อนายกสมาคมฯ
                 

        ส่วนการที่หน่วยงานราชการ หรือผู้ประกอบการ ถูกตรวจสอบโครงการจัดซื้อจัดจ้าง ถูกคุกคามพูดจาข่มขู่ เพื่อให้เกิดความเกรงกลัวต่อความผิด และมีการเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการไม่นำเสนอข่าว หรือไม่ดำเนินตามกระบวนการของกฎหมาย ผู้เสียหายสามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีได้ด้วยตนเอง โดยแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ กรณีนี้สื่อมวลชนได้รับการร้องเรียนให้ตรวจสอบสถานะบุคคลที่อ้างตนเองเป็นสื่อมวลชน และมีพฤติกรรมเรียกรับเงิน  จากการตรวจสอบทราบข้อมูลตามรายละเอียดข้างต้นแล้วนั้น                  
        จึงได้นำเสนอข่าว  เตือนภัยประชาชน หน่วยงานราชการ ให้ทุกท่านได้ทราบโดยทั่วกันทราบ   เนื่องจากมีบุคคลอ้างตัวเป็นสื่อมวลชน เข้าตรวจสอบโครงการต่างๆของภาครัฐ โดยมีเจตนาแอบแฝงเรียกรับเงิน กรรโชกทรัพย์ ตบทรัพย์ ผู้รับเหมา และหน่วยงานราชการ  จึงแจ้งเตือนภัยประชาชน และหน่วยงานราชการให้ทราบเพื่อให้ได้รู้เท่าทันเล่เหลี่ยมกลโกงกลุ่มขบวนการมิจฉาชีพ  หากมีบุคคลใดแอบอ้างเป็นสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบโครงการต่างๆ โดยได้แอบอ้างเป็นสื่อมวลชนในสังกัดใด ในตำแหน่งใดที่อ้างถึง  ขอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบเอกสารสำเนาหนังสือจดแจ้งการพิมพ์หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว  สำเนาหนังสือรับรองการเป็นสื่อมวลชนจากต้นสังกัด  หากอ้างเป็นนายกสมาคมฯหรือคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ให้หน่วยงานของท่านขอสำเนาเอกสารหนังสือรับรองรายชื่อคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ นั้นด้วย    การที่หน่วยงานร้องขอสำเนาเอกสารแต่งตั้งตามตำแหน่งที่บุคคลอ้างถึงนั้น  มิใช่เป็นการดูถูกดูแคลน แต่เพื่อความบริสุทธิ์ใจ โปร่งใส ตรวจสอบได้  เนื่องจากมีขบวนการมิจฉาชีพแอบแฝงเป็นสื่อมวลชนจำนวนมาก  สื่อมวลชนจึงแจ้งเตือนภัยมายังประชาชนทุกท่านทราบ  หากมีหน่วยงานราชการ หรือบุคคลใดได้รับความเสียหาย สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบุคคลนั้นได้โดยแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่ หรือหากท่านใดมีข้อมูล หรือหลักฐานในการเรียกรับเงิน ตบทรัพย์  กรรโชกทรัพย์  ส่งข้อมูลมาที่อินบล็อก “หนังสือพิมพ์ คู่แผ่นดิน”  หรือ “ต้น คู่แผ่นดิน” ได้ ข้อมูลทุกอย่างจะเป็นความลับไม่เปิดเผยแหล่งที่มาของแหล่งข่าวตามจรรยาบรรณของสื่อมวลชน เพื่อเป็นการป้องกันและป้องปรามขบวนการมิจฉาชีพที่แอบอ้างว่าเป็นสื่อมวลชน แสวงหาผลประโยชน์ที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายจากการเรียกรับเงิน ตบทรัพย์ ขอให้หน่วยงานราชการ ประชาชนอย่าพึ่งหลงเชื่อ ควรที่จะมีการตรวจสอบแสวงหาข้อเท็จจริงก่อนเพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ และเพื่อปกป้องเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของสื่อมวลชน ต่อไป