บึงกาฬ..... ตำรวจ พฐ.ลงพื้นที่ตรวจสอบไฟไหม้ร้านขายยางรถยนต์  

บึงกาฬ.... ตำรวจ พฐ.ลงพื้นที่ตรวจสอบไฟไหม้ร้านขายยางรถยนต์

          วันที่ 9 พ.ย ตำรวจพิสูจน์หลักฐานบึงกาฬ จำนวน 3 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบหา พยานหลักฐาน กรณีไฟไหม้ร้านขายยางรถยนต์ “โอออโต้แม็ก” ที่ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 9 ถนน 222 บึงกาฬศรีวิไล ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อ ค่ำวันที่ 7 พ.ย.ผ่านมาได้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรและไฟได้ลุกไหม้ ร้านขายยางรถยนต์ดังกล่าวซึ่งขณะเกิดเหตุ นายเอกวัฒน์ สันติวิวัฒนพงศ์ อายุ 39 ปี เจ้าของร้านไม่อยู่บ้าน เนื่องจากไปเที่ยวต่างประเทศคือประเทศเวียดนาม 6 วัน และกำหนดเดินทางกลับมาวันเกิดเหตุพอดี ทั้งนี้เนื่องจากได้รับโปรโมชั่นขายยางรถยนต์ดีเกินเป้า จึงได้รับโคต้าไปเที่ยวยังต่างประเทศ ขณะเดินทางกลับไทยระหว่างขับรถ ถึงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าไฟไหม้บ้าน จึงได้รีบโทรศัพท์ไปยังญาติให้ไปดูบ้าน พบว่าไฟกำลังลุกไหม้ฝาข้างบ้าน ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นบนชั้นล่างเป็นปูน โดยมียางรถยนต์กองอยู่จำนวนมากทั้งชั้นบนและชั้นล่าง และยางรถยนต์ส่วนหนึ่งเพิ่งสั่งซื้อลงไว้ขายเป็นจำนวนเงิน 3 ล้านบาทรวมยางรถยนต์ที่ขายยังไม่หมดที่มีอยู่ในร้านอีกจำนวนหนึ่ง ค่าเสียหายเบื้องต้น คาดว่าประมาณ 6 ล้านบาท
  

          โดยดาบตำรวจ มนัส ยินเสียง ผบหมู่งาน ป้องกันปราบปราม กองร้อย ตชด. 244 บึงกาฬ ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของ นายเอกวัฒน์ สันติวิวัฒนพงศ์ เจ้าของบ้าน ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า วันเกิดเหตุขณะที่ตนนำกำลัง ตชด.มาช่วยดับเพลิงไฟได้ลุกไหม้อยู่ข้างฝาบ้าน ซึ่งมีสายไฟพาดผ่านไปยังหม้อแปลงไฟขนาดเล็กเพื่อจ่ายเข้ายังเราเตอร์ไวไฟ กล้องวงจรปิด และไฟฟ้าได้ลัดวงจรจากจุดนี้แล้วลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นบ้านเก่าประกอบกับมียางรถยนต์กองอยู่จำนวนมากไฟจึงลุกลามอย่างรวดเร็วยากที่จะควบคุมได้ ส่วน นายเอกวัฒน์ สันติวิวัฒนพงศ์ หรือเสี่ยโอเจ้าของบ้านเล่าว่า ก่อนเดินทางไปเที่ยวยังต่างประเทศตัวเอง ได้ปลดเซอร์กิตเบรคเกอร์ที่ควบคุมไฟอยู่ในบ้านทุกตัวลงเกือบหมด คงเหลือแต่ไฟที่ไปเลี้ยงกล้องวงจรปิดเท่านั้น และไฟที่ไปเลี้ยงหม้อแปลงที่ไปใช้กับกล้องวงจรปิด และเราเตอร์ไวไฟ ส่วนหลังบ้านก็จะมีลูกน้องพักอยู่พร้อมภรรยาและลูกน้อย 1 คน รวม 3 คน ขณะเกิดเหตุก็ออกไปกินข้าวนอกบ้าน เหตุการณ์ครั้งนี้คงเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรตรงไฟที่ไฟเลี้ยงวงจรปิด ที่มีเราเตอร์ไวไฟ และหม้อแปลงขนาดเล็กเท่านั้น เพราะการใช้กระแสไฟฟ้าจำนวนมากอย่างอื่นไม่ได้ใช้เลย เนื่องจากปลดเบรกเกอร์เซอร์กิตลงหมดแล้ว และการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้ตัวเองก็ไม่ได้ทำประกันไว้แต่อย่างใด เนื่องจากไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ซึ่งการสูญเสียครั้งนี้ตัวเองก็ต้องรับเคราะห์ เพียงคนเดียว บค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ยังโชคดี ไฟไม่ได้ลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้นำรถดับเพลิงมาฉีดไฟเลี้ยงกันเอาไว้ จึงทำให้ไฟไม่ได้ลุกลามไปยังบ้านคนอื่นดังกล่าว.
นิธิศักดิ์  เศรษฐแสงศรี///บึงกาฬ 0933199399