จากเหตุดังกล่าวทาง นางสาวนันท์นภัส สืบสัมพันธ์ ได้ให้ข้อเสนอแนะว่า 1.ให้เทศบาลตำบลซาง ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมพิจารณาตรวจรับโอนสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านซาง ต.บ้านซาง อ.เซกา จ.บึงกาฬ โดยให้มีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้เชี่ยวชาญ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ ร่วมเป็นกรรมการในครั้งนี้  2.เรียกเอกสารการดำเนินงานโครงการฯ จากโครงการชลประทานบึงกาฬ เพื่อพิจารณาตรวจสอบโครงการ และ 3.แจ้งให้โครงการชลประทานบึงกาฬดำเนินการเปิดทดสอบระบบสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ซึ่งจากการทดสอบพบว่า เครื่องสามารถใช้งานได้ปกติ

                ทั้งนี้ โครงการชลประทานบึงกาฬจะดำเนินการซ่อมแซมสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำ ให้สมบูรณ์ก่อนที่จะส่งมอบให้กับเทศบาลตำบลซาง หรือหากเทศบาลตำบลซางไม่มีความพร้อมทางด้านบุคลากรที่มีความรู้ด้านช่างที่สามารถบำรุงรักษาได้ ก็จะได้ประสานกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

                นายประชา เกษลี ผอ.โครงการชลประทาน ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวว่า  เหตุที่ยังไม่โอนโครงการให้ เทศบาลตำบลบ้านซางนั้น เป็นเพราะ 1.ผู้บริหารจะต้องให้ชาวบ้านได้ทำประชาพิจารณ์และมีมติรับเอาโครงการดังกล่าวเสียก่อน 2.ชาวบ้านขอดูผลงานโครงการสูบน้ำของกรมชลที่ทำมาแล้วที่บ้านท่าสำราญเสียก่อนว่ามีผลดีหรือไม่อย่างไร จึงจะยินยอมเซ็นรับเอา ที่ผ่านมาเกิดความล่าช้าในการส่งมอบสาเหตุหนึ่งก็มาจากหลังจากดำเนินการแล้วเสร็จทดสอบระบบเดินเครื่องสูบน้ำเรียบร้อย ปรากฏว่าระบบสายส่งไฟฟ้าถูกโจรขโมยลักลอบตัดสายไฟฟ้านำทองแดงไปขาย

                ด้านนางสาวนันท์นภัส สืบสัมพันธ์ ผอ.ป.ป.ช.ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อว่า ตามที่ได้รับแจ้งจากศูนย์ปฏิบัติการป้องปรามการทุจริต (Corruption Deterrence Center : CDC) สำนักงาน ป.ป.ช. กรณี โครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านซาง ต.บ้านซาง อ.เซกา จ.บึงกาฬ วงเงินงบประมาณ 26,380,308 บาท ของกรมชลประทาน ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2559 แต่กลับไม่สามารถใช้งานได้เป็นระยะเวลา 7 ปี ในเบื้องต้นตอนแรก กะจะมาขอดูข้อมูล ว่ามีรายละเอียดเนื้องานอย่างไร แต่ทั้งทาง ผอ.ชลประทาน และนายเทศบาล ผู้ส่งมอบและผู้รับมอบ ทั้งสองฝ่ายยังไม่มีรายละเอียดให้ ป.ป.ช.ได้ดูทางหน้างาน จึงต้องให้คำแนะนำไปก่อน แล้วก็จะลงพื้นที่มาดูเอกสารและรายละเอียดโครงการอีกครั้ง.

                นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี///บึงกาฬ 0933199399