บุรีรัมย์- ตำรวจภูธรนางรอง สุดปัง ! รับเปิดเทอมใหม่ห่วงใยนักเรียน จัดโครงการเปิดโรงเรียนเปิดโรงรถ สถานีตำรวจภูธรนางรอง ดูแลความปลอดภัยเยาวชนนักเรียนในทุกมิติ
บุรีรัมย์- ตำรวจภูธรนางรอง สุดปัง ! รับเปิดเทอมใหม่ห่วงใยนักเรียน จัดโครงการเปิดโรงเรียนเปิดโรงรถ สถานีตำรวจภูธรนางรอง ดูแลความปลอดภัยเยาวชนนักเรียนในทุกมิติ
เรื่องราวดีๆ ที่สร้างสรรค์เปิดเผยในรายการคุยเฟื่องเรื่องการศึกษา ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดบุรีรัมย์ ในระบบ FM 101.75 MHz AM 1368 KHZ หรือ facebook fanpage สวท.บุรีรัมย์ กรมประชาสัมพันธ์https://www.facebook.com/radioburiram101.75MHz วันที่ 16 มิถุนายน 2566 เวลา 08.10 น.-09.00 น.ดำเนินรายการ โดย ดร.จัตุพร แปวไธสง ผู้อำนวยการกลุ่มนิเทศติดตาม และประเมินผล การจัดการศึกษา สพม บุรีรัมย์สามารถรับฟังได้เป็นประจำในทุกวันศุกร์ ในช่วงเวลาดังกล่าว และครั้งนี้มีแขกรับเชิญพิเศษ คือ พ.ต.อ.กัมพล วงษ์สงวน ผกก.สภ.นางรอง เรื่อง โครงการเปิดโรงเรียนเปิดโรงรถ ของสถานีตำรวจภูธรนางรอง เป็นโครงการที่ได้รับการตอบรับจากโรงเรียนและผู้ปกครองเป็นอย่างดี
ดร. จัตุพรฯ ได้ถามถึงความเป็นมาและหัวใจของโครงการนี้ พ.ต.อ.กัมพล วงษ์สงวน ผกก.สภ.นางรอง (ผู้กำกับ เอ) ได้เปิดเผยในรายการว่า ได้รับนโยบายจากผู้บังคับบัญชา พลตำรวจโท สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 มอบหมายให้ตำรวจภูธรในพื้นที่สังกัดตำรวจภูธรภาค 3 จัดทำโครงการเปิดโรงเรียนเปิดโรงรถ เพื่อให้ตำรวจได้เข้าถึงนักเรียนนักศึกษาและนักเรียน อย่างแท้จริง ด้วยสืบเนื่องที่ว่า สภ.นางรองได้มีความผิดเกี่ยวเนื่องกับเด็กเป็นผู้กระทำความผิด จำนวนมาก ในเดือน กุมภาพันธ์ มี 29 วัน มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับเด็กถึงเข้าห้องขังถึง 29 คน นี่คืออนาคตของชาติ จึงได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปพูดคุยกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และนายอำเภอ ว่า ปัญหานี้จะโยนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เพราะวัน หนึ่งเมื่อเด็กกลุ่มนี้โตขึ้นต้องไปประกอบอาชีพไม่ว่าจะเป็นอาชีพรับราชการ หรืออาชีพใดๆก็ตาม จะมีการตรวจสอบประวัติ หรือไปสมัครงานแล้วพบว่ามีประวัติเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะได้รับอภัยโทษหรือการทำความผิดนั้นได้ถูกลบล้างไปแล้ว แต่ก็ยังมีความผิดที่เกิดขึ้นแล้วอยู่ จึงได้ขับเคลื่อนโครงการขานรับนโยบายของผู้บังคับบัญชา จึงเข้าไปยังโรงเรียนต่างๆในพื้นที่อำเภอนางรอง โดยเน้นที่กลุ่มรถจักรยานยนต์ก่อน ไม่ใช่ไปจับเด็กมาดำเนินคดีทำให้เสียประวัติ ไม่ใช่ แต่โดยการไปสอนให้ความรู้ ด้วยการทำความเข้าใจกับครู อาจารย์ก่อน ว่าการมาครั้งนี้เพื่อเข้ามาสื่อประสานประชาสัมพันธ์ว่าอนาคตของเราจะเป็นอย่างไร เราจะปรับปรุงแก้ไข สมัยนี้ตำรวจตั้งด่าน แต่เด็กวัยรุ่นมีเพจ มีไลน์ ทำให้หลีกเลี่ยงด่าน ทำให้หาช่องหลีกเลี่ยงการการตักเตือน การป้องกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ จึงใช้โครงการนี้เป็นเชิงรุก ประสานกับผู้บริหารโรงเรียน ครู อาจารย์ เพื่อเข้าไปตรวจสอบสภาพรถจักรยานยนต์ภายในโรงเรียนโรงเรียนพร้อมกับเด็กๆเลย พร้อมสอบถามและให้ความรู้ว่า อุปกรณ์รถอะไรขาด อะไรผิด อุปกรณ์ครบหรือไม่ จึงมีกระดาษใบหนึ่งให้น้องๆบันทึกรถว่ารถที่นำมาโรงเรียนยี่ห้ออะไร ใครเป็นคนอนุญาต มีใบอนุญาตขับขี่หรือไม่ แล้วสอนเขาว่าสิ่งที่เขารู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นความผิดก็ต้องรับผิดชอบตัวเองขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับ และสิ่งที่สำคัญถ้าน้องออกไปสู่ภายนอกแล้วมีการจับกุมจำเป็นต้องเชิญผู้ปกครอง ถ้าผู้ปกครองไม่อยู่จำเป็นต้องเชิญครู อาจารย์ เพราะฉะนั้นหนีกันไม่ออก ระหว่าง บ้าน ตำรวจ โรงเรียน เมื่อมีเหตุความผิดทุกคนจะต้องมาพบตำรวจ เสียเวลา เพราะน้องคนเดียว ทำให้ทุกคนเดือดร้อน เสียเวลา ทำให้ทุกคนช่วยกันปรับ ทั้งตัวเด็กเอง รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครองด้วย รวมถึงการแอบซ่อนปะทัดยักษ์ มีดในรถ เราเข้าไปดูและตักเตือน ถึงผู้ปกครองด้วย ซึ่งเด็กอาจเลียนแบบมาจากสื่อโซเชียล และนอกจากนี้ยังมีเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษา ที่ต้องเข้าถึงเพื่อดึงเข้ามาอยู่ในกลุ่มเพื่อแก้ไขปัญหาอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีโครงการตำรวจนอกเครื่องแบบ ที่เข้าไปอยู่ในโรงเรียน ทำให้เด็กสัมผัสใกล้ชิด เป็นกันเองทำให้เด็กๆสนิทใกล้ชิดพูดคุยสบายๆมากขึ้น แก้ไขปัญหาได้ง่ายขึ้น จนถึงวันนี้ทำให้เด็กเข้าใจกฎหมายจราจรมากขึ้น ได้รับการยอมรับจากผู้บริหารโรงเรียน และครูอาจารย์ เป็นการช่วยกันกำกับดูและสังคม ได้เป็นอย่างดี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันกระจายข่าวออกสู่หอกระจายข่าว เข้าถึงชาวบ้านได้รับรู้กันทุกหลังคาเรือน
นอกจากนี้ ยังมีเยาวชนนักเรียนร่วมพูดคุยในรายการ คือน้องสมาร์ท นายนภัสรพี เหมจันทึก ชั้น ม.4/2 จากโรงเรียนบ้านสร้างฝัน โรงเรียนกนกศิลป์พิทยาคม อำเภอเมืองบุรีรัมย์ เดินทางมาร่วมรายการเป็นนักเรียนกลุ่มที่มีความฝันอยากเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ซึ่งทราบว่า พ.ต.อ.กัมพล วงษ์สงวน ผกก.สภ.นางรอง (ผู้กำกับ เอ) มาร่วมรายการจึงเป็นตัวแทนของเพื่อนๆมาร่วมรับฟัง รับความรู้ แนวทางการศึกษาต่อ จากผู้กำกับไอดอล น้อง สมาร์ท และได้กล่าวว่า ความรู้สึกที่ได้พบท่านผู้กำกับ รู้สึกดีใจที่ได้พบคนเสมือนไอดอล ของเราและรู้สึกตื่นเต้น และรู้สึกดีใจที่ได้พูดคุยและถามคำถามที่เราสงสัย และได้รับคำแนะนำดีๆจากท่าน ติดตามรับฟังรายการคุยเฟื่องเรื่องการศึกษาทาง facebook fanpage สวท.บุรีรัมย์ กรมประชาสัมพันธ์https://www.facebook.com/radioburiram101.75MHz
/////
คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ
ชาติ มหาชน ศูนย์ข่าวทีวีประชาชนออนไลน์/รายงาน