ศรีสะเกษ แฉพฤติกรรมแสบเจ้าอาวาสวัดโพธิ์สว่างเปิดบัญชีเงินฝากส่วนตัวยักยอกเงินบริจาคของวัด  มอบคนสนิทย่องเงียบนำสมุดบัญชีธนาคาร โฉนดที่ดินของวัดมาส่งคืนให้ผู้ใหญ่บ้าน  

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   จากกรณีที่นางสุทัตตา   ศรีละออน  อายุ  45 ปี และชาวบ้าน หนองนารี  ได้นำสื่อมวลชนไปตรวจสอบทรัพย์สินของวัดโพธิ์สว่างประกอบด้วยเก้าอี้พลาสติคของ วัดโพธิ์สว่าง จำนวนประมาณ 10 ตัว ที่บริเวณด้านหลังเก้าอี้มีตัวอักษรคำว่า วัดโพธิ์สว่าง และเก้าอี้อีกหลายตัวมีร่องรอยโดนใช้สีดำพ่นทับอักษรวัดโพธิ์สว่าง  ฐานเหล็กตั้งพระพุทธรูปในศาลาการเปรียญ จำนวน  4 อัน และเต็นซ์ของวัดอีกจำนวน 3 หลัง  ซึ่งเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า ทรัพย์สินทั้งหมดนี้เป็นของวัดโพธิ์สว่างนี้  โดยคณะกรรมการวัดโพธิ์สว่างและชาวบ้านหนองนารี ได้ติดตามไปเอาคืนมาจากร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งที่ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์  ซึ่งมีชาวบ้านเห็นว่า พระมหาจักรพงษ์ จักกธัมโม หรือพระเก่ง  อายุ 38  ปี เจ้าอาวาสวัดโพธิ์สว่าง ได้นำสิ่งของดังกล่าวเอาออกไปจากวัดไปใช้ในร้านคาราโอเกะที่มีข่าวว่า พระเก่งได้ร่วมกับหญิงสาวคนสนิทไปเปิดร้านคาราโอเกะ  และขณะนี้พระเก่งได้หายตัวออกไปจากวัดได้ประมาณ 1 เดือนเศษแล้ว  โดยพระเก่งได้นำเอาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารและเอกสารสำคัญต่าง ๆของวัดโพธิ์สว่างติดตัวไปด้วย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

 

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้  เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 64   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8  บ้านหนองนารี ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ  นางสุทัตตา   ศรีละออน  อายุ  45 ปี แกนนำชาวบ้านที่เรียกร้องให้มีการตรวจสอบเงินบริจาคของวัดโพธิ์สว่างที่ถูกพระมหาจักรพงษ์ จักกธัมโม หรือพระเก่ง  อายุ 38  ปี เจ้าอาวาสวัดโพธิ์สว่าง ได้นำเงินไปใช้ส่วนตัว ได้นำเอาหลักฐานต่าง  ๆ เกี่ยวกับการบริจาคเงินให้วัดโพธิ์สว่าง มาหารือกับ นายคูณ   คำวงศ์ ผญบ.บ้านหนองนารี โดยมีหลักฐานที่ผู้ใจบุญโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารส่วนตัวของ พระมหาจักรพงษ์ จักกธัมโม  เป็นสลิปการโอนเงินบริจาคจาคต่าง ๆ หลายรายการ เช่น เงินบริจาคการก่อสร้างโบสถ์ เงินบริจาคงานบวงสรวงบูรพาจารย์ เงินผ้าป่าสามัคคี เงินบริจาคค่าหงส์ประดับเสาไฟ เงินบริจาคเจ้าภาพลูกนิมิต โดยหลักฐานการโอนเงินจากผู้ใจบุญทั้งหมด พระมหาจักรพงษ์  ได้นำเอามาโพสต์ลงในเฟสบุ๊คส่วนตัว  ชื่อ  พระมหาจักรพงษ์  จกกธัมโม ทินวงศ์ ซึ่งยอดเงินต่าง ๆ ที่ได้รับรับบริจาคมาทั้งหมดทุกรายการรวมแล้วประมาณ  2 ล้านบาทเศษ  ทั้งนี้ตามระเบียบกฎหมายแล้ว  หากมีผู้ใจบุญบริจาคเงินต่าง ๆ ให้วัด  จะต้องโอนเงินหรือนำเอาเงินที่ได้รับบริจาคเข้าในบัญชีของวัดโพธิ์สว่าง จึงจะถูกต้อง  ซึ่งวัดโพธิ์สว่างมีบัญชีเงินฝากธนาคาร เป็นธนาคาร ธกส.สาขาวังหิน ชื่อบัญชี วัดโพธิ์สว่างบ้านหนองนารี ม.8 บัญชีเลขที่ 020081892084 ซึ่งมียอดเงินในบัญชี  ณ วันที่ 27 มี.ค. 2564 จำนวนเงิน 8,624.53 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบหลักฐานจากเฟซบุ๊คของพระมหาจักรพงษ์  มีการโพสต์ว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2562  วัดโพธิ์สว่างมียอดเงินทอดกฐิน จำนวน 618,175 บาท แต่จากที่ตนได้ทำการตรวจสอบยอดเงินในบัญชีธนาคารของวัดแล้ว ไม่พบว่า ในห้วงระยะเวลาดังกล่าว ไม่ได้มีการนำเอายอดเงินดังกล่าวและเงินบริจาคอีกหลายรายการนำเอาเงินมาเข้าบัญชีของวัดแต่อย่างใด  ซึ่งหลักฐานทั้งหมดนี้  ตนและคณะจะนำเอาไปมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.วังหิน เจ้าของคดี ซึ่งได้รับแจ้งความไว้แล้วเพื่อดำเนินคดีกับพระมหาจักรพงษ์ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์สว่าง ตามกฎหมายต่อไป

 

 

นายคูณ   คำวงศ์ ผญบ.บ้านหนองนารี กล่าวว่า  เมื่อประมาณ 3 วันที่ผ่านมา  พระมหาจักรพงษ์  ซึ่งมีข่าวว่า ได้ลาสิกขาบทแล้ว  ได้มอบสมุดบัญชีธนาคารและโฉนดที่ดินของวัดให้ชายคนหนึ่งที่อ้างว่าเป็นทนายความให้นำมามอบให้กับตนในฐานะผู้ใหญ่บ้าน  ตนจึงได้นำเอาไปแจ้งให้คณะกรรมการวัดและชาวบ้านหนองนารี ได้รับทราบว่าในบัญชีมีเงินเหลือเท่าไร  เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ตนรู้สึกเสียใจมากที่เงินบริจาคของผู้ใจบุญที่บริจาคให้วัดต้องหายไป ซึ่งชาวบ้านทุกคนเห็นว่า การที่พระมหาจักรพงษ์ บอกให้ผู้ใจบุญโอนเงินบริจาคให้วัดไปเข้าบัญชีส่วนตัวนั้น  เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ตนและชาวบ้านหนองนารีทุกคนจึงขอให้พระมหาจักรพงษ์ หรือพระเก่ง ออกมาพบกับตนและชาวบ้าน เพื่อชี้แจงยอดเงินบริจาคทั้งหมดของวัดให้ชาวบ้านได้รับทราบด้วย  และหากได้มีชี้แจงถึงที่มาที่ไปของเงินวัดทั้งหมดให้ชาวบ้านได้รับทราบแล้วว่า เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฏหมาย  ตนและชาวบ้านทุกคนก็พร้อมที่จะให้อภัยและยินดียอมความไม่เอาเรื่องเอาราวกันต่อไป///////////

ภาพ / ข่าว   ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ