พม. โดย ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ กรมกิจการผู้สูงอายุ จัดงานบำเพ็ญกุศลครบรอบปีที่ 37   

             พม. โดย ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ กรมกิจการผู้สูงอายุ
จัดงานบำเพ็ญกุศลครบรอบปีที่ 37

         วันที่ 8 พฤษภาคม 2566 เวลา 09.30 น. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหา สังฆปริณายก บำเพ็ญกุศล ครบรอบปีที่ 37 ของศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ กรมกิจการผู้สูงอายุ พร้อมด้วย นายธนสุนทร สว่างสาลี รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้าราชการและประชาชนทั่วไป 
  

         นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กล่าวว่า ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งอยู่ที่ตำบลบ่อโพง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีเนื้อที่ 53 ไร่ ได้ก่อตั้งขึ้นด้วย พระบารมีธรรมของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 18 (วาสนมหาเถระ) ด้วยแรงกตัญญูกตเวทิตาธรรมของคณะศิษยานุศิษย์ที่ร่วมแรงร่วมใจ ในการก่อตั้งสถานสงเคราะห์คนชราวาสนะเวศม์ และมอบให้กับกรมประชาสงเคราะห์ ในสมัยนั้น เมื่อ พ.ศ. 2530 อันเป็นชาติภูมิของพระองค์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลืออุปการะผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน ไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีผู้ดูแล ขาดผู้อุปการะ และมีพิธีเปิดในวันที่ 8 พฤษภาคม 2530 โดยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้เสด็จเป็นองค์ประธาน และเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช (วาสนมหาเถระ) โปรดประทานนามว่า “วาสนะเวศม์” แปลว่า “ที่อยู่ของผู้มีบุญ” ซึ่งในปัจจุบันศูนย์ฯ ยังคงดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งดังสมเจตนารมณ์ของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 18 (วาสนมหาเถระ) ที่ทรงตั้งปณิธานรับศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ฯ ไว้ใน สังฆราชูปถัมภ์ มีภารกิจงาน 4 ด้าน ประกอบด้วย 1. ศูนย์การจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุแบบสถาบัน 2. ศูนย์การจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุชุมชน 3. ศูนย์การเรียนรู้และให้คำปรึกษาด้านผู้สูงอายุ 4. ศูนย์บริการข้อมูลด้านผู้สูงอายุ ปัจจุบันมีผู้สูงอายุอยู่ในความอุปการะทั้งสิ้น 158 คน ผู้สูงอายุมีอายุมากที่สุด 102 ปี 
    นอกจากนี้ นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากงานบำเพ็ญกุศลฯ ครบรอบ 37 ปี แล้ว ในวันนี้ยังมีกิจกรรมไถ่ชีวิตโค-กระบือ เพื่อนำเข้าธนาคารโค กระบือ เพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ และกิจกรรมติดตามผลการดำเนินงานภายในศูนย์ฯ ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมผู้ประสบปัญหาทางสังคม โครงการบูรณาการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน นายเหลือ ทองแทรก อายุ 75 ปี อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) พร้อมมอบเครื่องอุปโภค – บริโภค และชุมชนที่เป็นมิตรสำหรับผู้สูงอายุ                  ณ วัดปราสาทนครหลวง