ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม ศาลเจ้าเก่าแก่แห่งเมืองปากน้ำโพ ตั้งอยู่ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา มีความเป็นมาอย่างยาวนาน ชาวบ้านห่วงใยในเรื่องการบริหารการเงิน  

     ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม ศาลเจ้าเก่าแก่แห่งเมืองปากน้ำโพ ตั้งอยู่ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา มีความเป็นมาอย่างยาวนาน ชาวบ้านห่วงใยในเรื่องการบริหารการเงิน

         ศูนย์รวมศรัทธาไทย-จีนที่เหนียวแน่นซึ่งประชาชนทั่วไปมักเรียกศาลนี้ว่า ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์- เจ้าแม่ทับทิม หรือศาลเจ้าพ่อแควใหญ่ โดยตัวศาลเจ้านั้นตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามตลาดปากน้ำโพ ย้อนรอยเรื่องราว ไม่มีประวัติความเป็นมาแน่ชัดถึงการสร้างศาลเจ้าแห่งนี้ รวมทั้งไม่ปรากฏชื่อว่าผู้ใดเป็นผู้สร้าง แต่จากหลักฐานระฆังโบราณ ได้พบจารึกเป็นภาษาจีนว่า นายหงเปียว แซ่พู่ แห่งหมู่บ้านเคอเจี้ยซัน อำเภอวุ้นอี้ (ปัจจุบัน คือ วุ้นซ้ง) มลฑลไหหน่าน  ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ข้ามน้ำข้ามทะเลมามามอบระฆังใบนี้ ในปี ค.ศ.1870 ซึ่งตรงกับปี พ.ศ. 2413 อันเป็นต้นรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 นั่นก็เท่ากับว่าศาลเจ้าแห่งนี้มีอายุมากกว่า 150 ปีแล้ว ทั้งนี้ จากคำบอกเล่าและภาพถ่ายที่พอรวบรวมได้นั้น เชื่อว่า แต่เดิมเป็นศาลไม้ใต้ถุนสูง ตั้งอยู่ริมตลิ่งบริเวณต้นน้ำเจ้าพระยา ซึ่งในอดีตเป็นแหลมยื่นออกไป จากนั้นตลิ่งได้ถูกกัดเซาะพังทลายทีละน้อย อีกทั้งสภาพศาลเจ้ายังทรุดโทรม ชาวบ้านและผู้มีจิตศรัทธาจึงได้ร่วมกันสร้างขึ้นใหม่ ซึ่งจากป้ายภาษาจีนกลางศาลเขียนไว้ว่า โควกงเมี้ยว ซึ่งบอกว่า ได้มีการสร้างศาลใหม่ โดยระบุปี ค.ศ. 1909 ตรงกับปี พ.ศ. 2452 และการสร้างศาลขึ้นใหม่ครั้งนั้นได้รวมเอาศาลเจ้าพ่อกวนอู ที่ตั้งอยู่ตอนใต้บริเวณใกล้เคียงมารวมไว้ด้วย ต่อมาคณะกรรมการของศาลเจ้าแห่งนี้ได้บูรณะเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ภายในศาลเจ้าแห่งนี้นั้นยังคงโครงสร้างเป็นปูน ตอนกลางเป็นอาคารไม้ดั้งเดิม ภายในนอกจากแท่นบูชาเทพยาฟ้าดินแล้ว ยังมีที่ประดิษฐานองค์เทพเจ้าบุ๊นเถ่ากง ด้านขวาเป็นเทพเจ้ากวนอู ด้านซ้ายประดิษฐานเจ้าแม่ทับทิม ที่มีผู้คนเดินทางมากราบไหว้ขอพรบารมีจากเจ้าแม่ให้คุ้มครอง และขอให้มีโชคลาภตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในเทศกาลตรุษจีน จะมีการอัญเชิญองค์เทพเจ้าแห่รอบตลาดปากน้ำโพ เพื่อให้ประชาชนสักการะบูชาซึ่งมีการจัดขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่ทุก ๆ ปี 

         จากความศรัทธา ความเชื่อถือที่ชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีต่อเจ้าพ่อเทพารักษ์ เจ้าแม่ทับทิม เจ้าพ่อกวนอู ทุกวันจะมีผู้คนมาคารวะ กราบไหว้บูชาที่ศาล ทั้งภายในศาลมีตู้รับบริจาค ซึ่งรายได้จะถูกนำมาใช้ในการบริหารจัดการภายในศาล แต่ยังมีข้อกังขาที่น่าห่วงใย ว่ามีการบริหารจัดการอย่างไร ทราบว่ามีการแต่งตั้งคณะกรรมการเข้ามาจัดการ ซึ่งยังมีข้อที่อยากให้มีการจัดทำให้เป็นรูปธรรมชัดเจนทางด้านการเงิน ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะมีข่าวว่าเงินที่ได้รับมานั้น ไม่ได้มีการชี้แจงให้โปร่งใส ทางอดีตประธานบริหารศาลเจ้า นายเฉลิมพล โรจน์เจริญกุล ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ และ นายอำเภอเมืองนครสวรรค์ เพื่อขอให้มีการตรวจสอบพร้อมทั้งชี้แจงรายละเอียด แต่ไม่ได้รับการชี้แจง จึงนำเรื่องร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน เพื่อขอให้มีการดำเนินการอย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ มีรายงานเพิ่มเติมที่ไม่ยืนยันแหล่งข่าวอีกว่า มีการนำเงินบริจาคไปฝากเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัวของกรรมการ 3-4 คน หรือหลายคน  ซึ่งไม่ใช่บัญชีของศาลเจ้า เกรงว่าจะมีปัญหาในภายหลังได้
////
ชาติชาย/นครสวรรค์