ชัยภูมิ-เปิดภาพวินาทีนักข่าวทิ้งกล้องเร่งยื้อชีวิต หนุ่ม30ปีคิดสั้นผูกคอตาย สุดท้ายรอด  

ชัยภูมิ เมื่อเวลา 17.33 น.ของวันที่ 3 กรกฏาคม 2564 ทางด้านศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ รับแจ้งจากประชาชนว่ามีเหตุบุคคลผูกคอพยายามฆ่าตัวตาย ในชุมชนบ้านเอื้ออาทร 2 หมู่ที่13ตำบลหนองนาแซง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงรีบออกไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุพบร่างของนายพิชยะ จันทร์เบ้า อายุ 30ปี ชาวอำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ สภาพได้ถูกชาวบ้านนำร่างลงมาจากคานบันไดโดยมีสายไฟห้อยผูกแน่น  ซึ่งได้มีพลเมืองดีกำลังชาวปั้มหัวใจช่วยหนุ่มวัย30ที่กำลังคิดสั่นได้ถอดเสื้อผ้าหมดเหลือเพียงกางเกงตัวเดียว อยู่ก่อนแล้ว จนท.จึงได้เร่งเข้าไปช่วยเหลือ นำ อุปกรณ์ท่อช่วยหายใจมาให้หนุ่มคิดสั้นรายนี้  โดยจากการ ช่วยปั๊มหัวใจทำให้หนุ่มคิดสั้นรายนี้มีชีพจร เต้นขึ้นมาจึงเร่งนำส่งโรงพยาบาลชัยภูมิเพื่อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ช่วยเหลืออีกต่อไป

 


ด้านนายอภิชาติ จตุรส อายุ 16ปี เพื่อนบ้านซึ่งได้เข้ามาดูในบ้านเล่าว่าได้ยินเสียงร้องเรียกขอความช่วยเหลือตนจึงรีบออกมาดู ซึ่งมีหญิงเพื่อนบ้านอีกรายได้บอกให้ตนช่วยปีนบ้านเข้าไปดูหน่อยว่าคนในบ้านเป็นอะไร ทำไมเรียกแล้วไม่มีเสียงตอบรับ ตนถึงได้ปีนเข้าไป ก็พบว่าชายคนดังกล่าวผูกคอแล้ว ตนจึงรีบวิ่งออกไปด้วยความตกใจ ขอความช่วยเหลือดังกล่าว กระทั้งมีพี่นักข่าวทั้ง2คนเดินทางมาถึงในที่เกิดเหตุ จึงขอให้เข้าช่วยอีกแรง แต่ก็ไม่คิดว่านักข่าวคนนี้จะมี ความรู้และวิธีการช่วยปฐมพยาบาล จนสามารถยื้อลมหายใจจนกู้ภัยมาและช่วยกัน นำส่งให้ถึงมือแพทย์ที่โรงพยาบาล ชัยภูมิอีกด้วย

จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ถูกบันทึกภาพโดยนักข่าวอีกท่านหนึ่ง จึงเกิดความสงสัยและได้สร้างความประทับใจทั้งยังมีข้อสงสัยให้กับชาวบ้านละแวกนั้นว่าทำไมนักข่าวคนนี้จึงได้ทิ้งกล้องที่กำลังถ่ายบันทึกภาพอยู่มาช่วยเหลือและช่วยปั๊มหัวใจหนุ่มคิดสั้นรายนี้และการช่วยเหลือหรือวิธีช่วยดูแลเหมือนมีความรู้ในการช่วยชีวิตอีกด้วย  ซึ่งต่อมาได้ทราบว่านักข่าวรายนี้ก็คือจนท. กู้ภัยมูลนิธิสว่างคุณธรรมชัยภูมิและได้มีการฝึกอบรมกู้ชีพ-กู้ภัยEMS หลายหลักสูตรทั้งทางบกและทางน้ำทั้งยังเป็น หน่วยครูผู้ช่วยฝึกการประดาน้ำหรือการค้นหา บุคคลสูญหายใต้น้ำของมูลนิธิสว่างคุณธรรมชัยภูมิอีกด้วย



ต่อมาหลังจากที่หน่วยกู้ภัยนำหนุ่มคิดสั้น ลงทุนมือแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิก็ได้ทราบข่าวว่า หนุ่มรายนี้พ้นขีดอันตราย แล้วอีกด้วย ก่อนที่จะแจ้งญาติ ให้ทราบต่อไป////