ศรีสะเกษ หลักฐานชัดเจ้าอาวาสวัดเอาทรัพย์สินของวัดไปเปิดร้านคาราโอเกะกับหญิงคนสนิท ขณะที่แกนนำชาวบ้านขอให้เจ้าอาวาสชี้แจงเงินวัดร่วม 3 ล้านบาทหายไปไหน
เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดโพธิ์สว่าง บ้านหนองนารี หมู่ 8 ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ นางสุทัตตา ศรีละออน อายุ 45 ปี พร้อมด้วย นางแจง ศรียงยศ อายุ 51 ปี นางอริสรา สมนึก อายุ 50 ปี นายประวิทย์ พรมศิริ อายุ 59 ปี และชาวบ้านหนองนารี ได้นำสื่อมวลชนไปตรวจสอบทรัพย์สินของวัดโพธิ์สว่างประกอบด้วยเก้าอี้พลาสติคของวัดโพธิ์สว่าง จำนวนประมาณ 10 ตัว ที่บริเวณด้านหลังเก้าอี้มีตัวอักษรคำว่า วัดโพธิ์สว่าง และเก้าอี้อีกหลายตัวมีร่องรอยโดนใช้สีดำพ่นทับอักษรวัดโพธิ์สว่าง ฐานเหล็กตั้งพระพุทธรูปในศาลาการเปรียญ จำนวน 4 อัน และเต็นซ์ของวัดอีกจำนวน 3 หลัง ซึ่งเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า ทรัพย์สินทั้งหมดนี้เป็นของวัดโพธิ์สว่างนี้ โดยคณะกรรมการวัดโพธิ์สว่างและชาวบ้านหนองนารี ได้ติดตามไปเอาคืนมาจากร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งที่ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ซึ่งมีชาวบ้านเห็นว่า พระมหาจักรพงษ์ จักกธัมโม หรือพระเก่ง อายุ 38 ปี เจ้าอาวาสวัดโพธิ์สว่าง ได้นำสิ่งของดังกล่าวเอาออกไปจากวัดไปใช้ในร้านคาราโอเกะที่มีข่าวว่า พระเก่งได้ร่วมกับหญิงสาวคนสนิทไปเปิดร้านคาราโอเกะ และขณะนี้พระเก่งได้หายตัวออกไปจากวัดได้ประมาณ 1 เดือนเศษแล้ว โดยพระเก่งได้นำเอาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารและเอกสารสำคัญต่าง ๆของวัดโพธิ์สว่างติดตัวไปด้วย
นางสุทัตตา ศรีละออน อายุ 45 ปี กล่าวว่า พระมหาจักรพงษ์ จักกธัมโม หรือพระเก่ง เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์สว่าง ได้หายออกไปจากวัดนานร่วมเดือนเศษแล้ว ต่อมามีชาวบ้านที่ไปค้าขายอยู่ที่ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ไปพบว่า พระเก่งสวมชุดฆราวาสที่ร้านคาราโอเกะ อ.สำโรงทาบ ไม่ได้ห่มผ้าเหลืองแต่อย่างใด ซึ่งชาวบ้านที่พบเห็นยืนยันชัดเจน และต่อมาชาวบ้าน อ.สำโรงทาบซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่พระเก่ง ได้ไปเช่าที่ดินเพื่อเปิดร้านคาราโอเกะได้ยืนยันว่า พระเก่งกับสาวคนสนิทมาร่วมหุ้นกับลูกสาวของตนเองเพื่อเปิดร้านจึงไม่ได้คิดค่าเช่า พวกตนจึงได้ไปตามเอาทรัพย์สินต่าง ๆ ของวัดที่พระเก่งเอาไปใช้ในร้านคาราโอเกะกลับคืนมา แต่ว่ายังมีทรัพย์สินอีกหลายอย่างที่หายไปยังติดตามคืนมาไม่ได้ เพราะทราบข่าวว่า มีการนำเอาทรัพย์สินของวัดไปใช้ที่ร้านอาหารอีก 2 แห่ง ซึ่งญาติของพระมหาจักรพงษ์ ได้แจ้งให้ชาวบ้านทราบว่า จะนำเอาหลักฐานต่าง ๆ มาแจ้งให้ชาวบ้านทราบในวันนี้ (2 ก.ค.64) เวลา 09.00 น. แต่ว่า พระมหาจักรพงษ์ ก็ไม่ได้มาตามนัดหมายกับชาวบ้านแต่อย่างใด
นางอริสรา สมนึก อายุ 50 ปี กล่าวว่า พวกตนต้องการเรียกร้องให้พระเก่งหรือ พระมหาจักรพงษ์ จักกธัมโม เจ้าอาวาสวัดโพธิ์สว่าง ซึ่งขณะนี้มีข่าวว่า พระเก่งได้ลาสิกขาบทแล้วไปทำสวนยางอยู่ที่ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ขอให้นำเอาสมุดบัญชีธนาคารของวัดและเอกสารสิทธิ์ที่ดินของวัด มาคืนให้กับคณะกรรมการวัดโพธิ์สว่างด้วย และขอให้มาชี้แจงให้ชาวบ้านทราบด้วยว่า เงินผ้าป่า เงินกฐิน และเงินบริจาคต่าง ๆ ที่ได้มาตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบันนี้ รวมจำนวนประมาณ 3 ล้านบาท ได้นำเอาเงินไปเข้าบัญชีธนาคารของวัดหรือไม่อย่างไร มีการใช้จ่ายอะไรไปบ้าง มีหลักฐานการใช้จ่ายหรือไม่อย่างไร และขณะนี้มีเงินของวัดอยู่จำนวนเท่าไร หากว่าไม่มีการชี้แจงให้ชาวบ้านทราบก็คงจะต้องแจ้งให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป การที่พวกตนและชาวบ้านหนองนารีทุกคน มารวมกลุ่มเรียกร้องในครั้งนี้ก็เพื่อต้องการรักษาทรัพย์สินเงินทองของวัดโพธิ์สว่างให้คงอยู่ เพื่อจะได้ใช้ในการทำนุบำรุงวัดโพธิ์สว่างไว้ให้พระและชาวบ้านได้ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาสืบต่อไป
ทางด้าน พระบุญสูง จิตตธัมโม พระผู้ดูแลวัดโพธิ์สว่าง กล่าวว่า ทรัพย์สินที่ชาวบ้านไปตามเอามาคืนได้นั้น เป็นของวัดโพธิ์สว่างชัดเจนเพราะว่า มีอักษรคำว่า วัดโพธิ์สว่าง ติดอยู่ชัดเจน แม้ว่าบางส่วนจะมีการพ่นสีดำทับปกปิดเอาไว้ก็ตาม ส่วน พระมหาจักรพงษ์ จักกธัมโม เจ้าอาวาสวัดโพธิ์สว่าง ท่านหายออกไปจากวัดนานแล้ว ไม่ทราบว่าไปที่ใด อาตมาภาพเป็นผู้ดูแลวัดโพธิ์สว่างแทนชั่วคราว ส่วนทรัพย์สินภายในกุฏิของพระมหาจักรพงษ์ นั้น ยังอยู่ภายในกุฏิ เป็นรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ซึ่งแต่ละองค์มีน้ำหนักมาก อาตมาภาพและพระอีกหลายรูปได้ช่วยกันยกขึ้นไปไว้บนกุฏิให้กับพระมหาจักรพงษ์ จักกธัมโม สำหรับเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมานั้น อาตมาภาพไม่ทราบเป็นเรื่องที่คณะกรรมการวัดและชาวบ้านร่วมกันดำเนินการ////////
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ