พม.ชี้แจง กรณีมูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว  พาครอบครัวน้องโชกุน ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม สำหรับการดำเนินคดีเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบข้อเท็จจริง กรมกิจการเด็กและเยาวชน ยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าที่  

           พม.ชี้แจง กรณีมูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว 
พาครอบครัวน้องโชกุน ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม

         จากที่มูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว พาครอบครัวน้องโชกุน กรณี เด็กชายวัย 1 ขวบ 11 เดือน เสียชีวิต เนอสเซอรี่อ้างผ้าอุดจมูกขาดอากาศหายใจ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เข้าพบรองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (นางสาวสุนีย์  ศรีสง่าตระกูลเลิศ) เพื่อยื่นหนังสือข้อเสนอต่อกรมกิจการเด็กและเยาวชน 4 ข้อ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน ขอชี้แจงดังนี้ 
1.    ขอทราบว่าสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้มีใบอนุญาตถูกต้องครบถ้วน  มีการตรวจสอบความพร้อมของสถานประกอบการแห่งนี้หรือไม่ อย่างไร  ในส่วนของกรมกิจการเด็กและเยาวชนจะมีมาตรการกับสถานประกอบการแห่งนี้อย่างไร
-    ตรวจสอบสถานรับเลี้ยงเด็กดังกล่าว พบว่า สถานรับเลี้ยงเด็กได้รับใบอนุญาตเริ่มดำเนินการตามใบอนุญาตในปี 2560 ออกให้ ณ วันที่       7 สิงหาคม พ.ศ. 2560 และต่อมาในปี 2563 มีการเปลี่ยนแปลงใบอนุญาต ซึ่งออกให้ ณ วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2663 มีเจ้าหน้าที่ลงตรวจเยี่ยมก่อนอนุญาต ปัจจุบันมีหนังสือแจ้งยุติการดำเนินกิจการและปิดสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้แล้ว

2.    ขอเรียกร้องให้กรมฯ มีข้อกำหนดให้สถานรับเลี้ยงเด็กเอกชนติดตั้งกล้องวงจรปิด ตลอด 24 ชั่วโมง โดยความยินยอมจากผู้ปกครองเด็ก  สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้  ซึ่งต้องมีการกำหนดบทลงโทษไว้ด้วยสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืน และเพื่อป้องกันการอ้างง่าย ๆ ว่ากล้องวงจรปิดเสีย  และในกรณีนี้ขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยว่ากล้องวงจรปิดเสียจริงหรือไม่ 
-    ตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาตจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก พ.ศ. 2549 ไม่ได้มีข้อกำหนดว่าสถานรับเลี้ยงเด็กต้องติดกล้องวงจรปิดในสถานรับเลี้ยงเด็ก แต่ต้องมีพี่เลี้ยงดูแลเด็กตลอดเวลา สำหรับการติดกล้องวงจรปิด กรมกิจการเด็กและเยาวชนมีข้อแนะนำให้เป็นทางเลือกของสถานรับเลี้ยงเด็กที่มีความพร้อมเพื่อเป็นการดูแลความปลอดภัยให้กับเด็กในสถานรับเลี้ยง              อีกรูปแบบหนึ่ง และการยินยอมจากผู้ปกครองที่จะมีการบันทึกภาพของเด็กมารับบริการ แต่การติดตั้งกล้องวงจรปิดต้องไม่ล่วงล้ำหรือเป็นการละเมิดสิทธิเด็กตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 
-    
3.    ขอให้กรมฯ ซึ่งดูแลสถานรับเลี้ยงเด็กเอกชนทั่วประเทศ  ถอดบทเรียนจากกรณีนี้รวมถึงเหตุการณ์อื่นที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้  เพื่อนำไปสู่      การปรับปรุงแก้ไข  กลไกต่าง ๆ ให้รัดกุมมากขึ้น  ลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ อาทิการสุ่มตรวจอย่างสม่ำเสมอ การฝึกปฐมพยาบาลเบื้องต้น ฯลฯ  รวมไปถึงการควบคุมสถานประกอบการที่มีเด็กในความดูแลไม่ถึง 6 คน ซึ่งไม่เข้าข่ายต้องขออนุญาตว่าจะดำเนินการกำกับดูแลอย่างไร
-    ในกรณีนี้ กรมกิจการเด็กและเยาวชนอยู่ระหว่างพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาตจัดตั้งสถาน         รับเลี้ยงเด็ก รวมไปถึงสถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ สถานพัฒนาและฟื้นฟู ซึ่งขณะนี้มีการจ้างที่ปรึกษา
ด้านกฎหมาย เพื่อยกร่าง ปรับปรุงกฎกระทรวง ที่อาจจะครอบคลุมไปถึงการพิจารณาจำนวนของเด็กที่เข้ารับบริการในสถานรับเลี้ยงเด็กเอกชน จากเดิมที่สถานที่รับเลี้ยงเด็กไม่เกิน 6 คน ไม่ต้องขอรับใบอนุญาตจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก
-    การควบคุมดูแลสถานที่ดูแลเด็กไม่ถึง 6 คน ซึ่งไม่เข้าข่ายต้องขออนุญาตจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือสถานรับเลี้ยงเด็กที่ได้รับการจดทะเบียนตามกฎหมาย  หากมีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น หรือพบเห็นการกระทำความรุนแรง สามารถแจ้งมาที่ สายด่วน พม. 1300 หรือช่องทางอื่น ๆ ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกรมกิจการเด็กและเยาวชน จะมีพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 เข้าไปตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป 

4.    ขอเรียกร้องไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมในคดีนี้  ให้เร่งทำความจริงให้ปรากฏ เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้นกับครอบครัวผู้สูญเสียโดยเร็ว และฝากไปถึงผู้ปกครองทุกท่าน  ให้ช่วยกันตรวจสอบสถานรับเลี้ยงเด็กเอกชนให้ดีและละเอียดที่สุด  ควรเฝ้าระวังลูกหลานอย่างต่อเนื่อง
-    สำหรับการดำเนินคดีเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบข้อเท็จจริง กรมกิจการเด็กและเยาวชน ยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าที่   ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม โดยมีหนังสือชี้แจ้งไปยังพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว
     #พมช่วย24ชม #ช่วย24ชม #ข่าวพม #เพื่อเด็กและเยาวชน  #เด็กและเยาวชน #DCY #ดย