หนีไม่รอด ออกหมายจับไอ้โหดทำร้ายผู้สื่อข่าวกลางเมืองเพชรบูรณ์ ถูกตำรวจกดดันหนัก ย่องเข้ามอบตัว ญาติคัดค้านการประกันตัว
เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องวันที่ 30 ม.ค.2566 เวลาประมาณ 10.41 น.ได้รับแจ้งมีชายถูกทำร้ายที่บริเวณถนนใกล้ๆกับตลาดดาวเฮง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือนายศุภเดช คำพุฒ อายุ 69 ปี ผู้สื่อข่าวส่วนกลางหลายฉบับ และเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ชาวไทเพชรบูรณ์ และอดีตนายกสมาคมสื่อมวลชนฯ หลายสมัย ถูกคนร้ายใช้ของแข็งตีเข้าบริเวณศีรษะด้านขวา นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์
ต่อมา พล.ต.ต.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ กล้องวงจรปิดรอบๆบริเวณบ้านพัก เห็นรถต้องสงสัย ขับมาเฝ้าดูลาดเลาถึงหน้าบ้านกลางวันแสกๆ โดยนายสมชาย คำพุฒ บุตรชาย ผู้บาดเจ็บ ได้เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 3 วันมีชาวบ้านมาร้องเรียนว่าที่ ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลลักลอบเปิดบ่อนการพนัน เล่นกันโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง
จากนั้นนายศุภเดช คำพุฒ ได้นำทีมผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน และโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปสมทบ แต่ไม่พบว่ามีการเล่นพนันกัน หลังเกิดเหตุบิดาได้โทรศัพท์หาตน เล่าว่ามีชายฉกรรจ์ใช้รถกระบะแค็ปสีดำ ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน ขับรถตามมา พอมาถึงบริเวณสะพานใกล้ๆกับตลาดดาวเฮง กลางเมืองเพชรบูรณ์ คนร้ายได้โอกาส ขับรถประกบข้างฝั่งคนขับ และใช้ท่อนเหล็กยาวตีเข้าที่กระจกด้านข้างหลายครั้ง ถูกที่ศีรษะและใบหูเลือดอาบอาการสาหัส โดยบิดาของตนเองเห็นหน้าคนร้ายอย่างชัดเจน และบิดาของตนก็ขับรถมาที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์เอง ส่วนคนร้ายขับรถหลบหนี เลี้ยวซ้ายตรงหน้าโรงจำนำ หนีไปอย่างลอยนวล และบิดาของตนเอง ผู้บาดเจ็บไม่เคยมีเรื่องกับผู้ใดมาก่อน ฉนวนเหตุน่าจะมาจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลเรื่องทำบ่อนการพนัน และปล่อยเงินกู้นอกระบบ
และในวันนี้ พ.ต.อ.ชัชวาล พวงคิด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบูรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า หลังเกิดเหตุได้ระดมทีมสืบสวนฝีมือดี รวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด พยานแวดล้อมและพยานนิติวิทยาศาสตร์ จนทราบว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้คือใคร จนสามารถขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ได้ ชื่อนายตาล ( นามสมุติ ) อายุ 37 ปี อยู่ที่ ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ในฐานความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส และทำให้เสียทรัพย์ และต่อมานายตาล (ผู้ต้องสงสัย ) ได้เดินทางพร้อมทนายความเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ให้การปฏิเสธขอให้การในชั้นศาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนำผัดฟ้องฝากขังแล้ว
ส่วนรถคันที่ก่อเหตุผู้ต้องสงสัยรับปากว่า จะนำมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบ แต่ตอนนี้ยังไม่นำเข้ามา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งรัดให้นำเข้ามาต่อไป ในส่วนของคดีขอให้มั่นไจได้ว่า พยานหลักฐานแน่นหนา จนสามารถขอหมายจับได้ เพราะคดีนี้ผู้ถูกทำร้ายเป็นสื่อมวลชน และคนร้ายลงมือก่อเหตุกลางวันแสกๆโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย บ้านเมืองมีขื่อมีแป ส่วนเรื่องผู้ลักลอบเล่นการพนันได้สั่งการให้มีการตรวจสอบแล้ว และจากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้ เคยติดคุกในคดียาเสพติดมาแล้ว ส่วนในเรื่องรักษาความปลอดภัยตนเองได้ ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจแวะเวียนไปตรวจที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ตลอดทั้งวัน ตามคำร้องขอของญาติ ส่วนที่บุตรชาย ได้ยื่นหนังสือขอให้พิจารณาเรื่องการเพิ่มข้อกล่าวหา เป็นพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตนเองได้รับหนังสือแล้ว จะได้เข้าที่ประชุมดูพฤติกรรมแก่เหตุ ว่าจะเข้าข้อหาใดบ้าง และรับปากจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
และในวันเดียวกัน นายสมชาย คำพุฒ อายุ 43 ปี ตำแหน่งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบ และติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) สภ.เมืองเพชรบูรณ์ และเป็นบุตรของนายศุภเดช คำพุฒ อายุ 69 ปี ผู้ถูกทำร้าย ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอความเป็นธรรม กับ พ.ต.อ.ชัชวาล พวงคิด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบูรณ์ ว่าเนื่องจากผู้ต้องหามีการวางแผนล่วงหน้า ก่อนจะทำร้ายผู้บาดเจ็บดังกล่าว คดีนี้อาจมีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง และให้ตรวจสอบโทรศัพท์ลึกลับที่โทรเข้ามา ให้บิดาของตนเองออกจากบ้านไปจนถูกทำร้ายว่าจะเกี่ยวข้องกันไหม และยังเป็นคดีอุกอาจที่กล้าก่อเหตุในเวลากลางวันแสกๆ จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ข้าพเจ้าและทางครอบครัว ขอให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ พิจารณาคดีนี้ให้อย่างครบถ้วนว่าเป็นข้อหาพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และทำให้เสียทรัพย์ และขอคัดค้านการประกันตัว อีกทั้งผู้ต้องสงสัย เคยเป็นผู้ต้องหาในคดียาเสพติดมาก่อน ขณะที่ นายศุภเดช คำพุฒ มีอายุมากไม่สามารถที่จะไปต่อสู้ได้ และถ้าหลบหนีไม่ทันก็อาจถูกทำร้ายถึงแก่ชีวิตได้ ขอแสดงความนับถือ นายสมชาย คำพุฒ คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ(กต.ตร.) สภ.เมืองเพชรบูรณ์
โดยนายสมชาย คำพุฒ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า โดยรวมอาการของบิดา นายศุภเดช คำพุฒ อาการดีขึ้นมาก คุณหมอได้ถอดเครื่องช่วยหายใจออก และสามารถหายใจเองได้แล้ว หัวใจปกติ สมองปกติ น้ำท่วมปอดแห้งแล้ว มีแต่บาดแผลที่บริเวณหูด้านซ้าย เย็บ 10 เข็ม อาการดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งตนเองได้ปรึกษาทนายความ และทำหนังสือไปยื่นคัดค้านการประกันตัวของ ผู้ต้องสงสัย ที่ศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ต่อไป.