อิทธิพลเถื่อนเย้ยกฎหมาย ทำร้าย “นายศุภเดช คำพุฒ” ผู้สื่อข่าวส่วนกลางหลายสำนัก และเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ชาวไทเพชรบูรณ์  อดีตนายกสมาคมสื่อฯ จ.เพชรบูรณ์ หลายสมัย ถูกอิทธิพลเถื่อน เย้ยกฎหมายทำร้ายกลางเมืองเพชรบูรณ์ บาดเจ็บสาหัสแพทย์เร่งยื้อชีวิต ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบลงมือสุดอุกอาจขับรถสะกดรอยจากสำนักงานหนังสือพิมพ์ก่อนสบโอกาสลงมือทำร้ายกลางเมืองเพชรบูรณ์ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง
วันที่ 30 ม.ค. 66  ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมีชายถูกทำร้ายที่บริเวณถนนด้านหน้าโรงแรมโฆษิตฮิลล์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ หลังจากนั้น พล.ต.ต.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ นายศุภเดช คำพุฒ อายุ 69 ปี อยู่ที่ 46 /11 ถนนสามัคคีชัย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ผู้สื่อข่าวส่วนกลางหลายฉบับ และเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ชาวไทเพชรบูรณ์ อดีตนายกสมาคมสื่อฯจังหวัดเพชรบูรณ์หลายสมัย ถูกของแข็งตีเข้าบริเวณศีรษะด้านขวา ขณะนี้นอนใส่เครื่องช่วยหายใจ ที่ตึกอายุรกรรมธรรมวิสุทธิ์โรงพยาบาลเพชรบูรณ์
โดยนายสมชาย คำพุฒ บุตรชายผู้บาดเจ็บ ได้เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 3 วันมีชาวบ้านมาร้องเรียนว่าที่ ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลลักลอบเปิดบ่อนการพนัน เล่นกันโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง จากนั้นนายศุภเดช คำพุฒ ได้นำทีมผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน และโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปสมทบ แต่ไม่พบว่ามีการเล่นพนันกัน
นายสมชาย คำพุฒ บุตรชายผู้บาดเจ็บ ได้กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุบิดา ผู้บาดเจ็บได้โทรศัพท์หาตน เล่าว่ามีชายฉกรรจ์ไม่ทราบจำนวนใช้รถกระบะแค็ปสีดำ ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน ขับรถตามมา พอมาถึงบริเวณหน้าโรงแรมโฆษิตฮิลล์ กลางเมืองเพชรบูรณ์ คนร้ายได้โอกาส ขับรถประกบข้างฝั่งคนขับ และใช้ท่อนเหล็กยาวทุบตีเข้าที่กระจกด้านข้างหลายครั้ง ถูกที่ศีรษะและใบหูเลือดอาบอาการสาหัส คนร้ายจึงขับรถหลบหนีไปอย่างลอยนวล และผู้บาดเจ็บไม่เคยมีเรื่องกับผู้ใดมาก่อน ฉนวนเหตุน่าจะมาจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลเรื่องทำบ่อนการพนัน
ทางด้านพล.ต.ต.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดรอบๆบริเวณบ้านพัก และที่เกิดเหตุ และให้จับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ได้เห็นรถต้องสงสัย ขับมาเฝ้าดูลาดเลาถึงหน้าบ้านกลางวันแสกๆ พอรถยนต์ของนายศุภเดช คำพุฒ วิ่งออกจากหน้าบ้าน จึงได้ขับติดตามไปติดๆและลงมือก่อเหตุดังกล่าว ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป.