อุดรธานีจัดยิ่งใหญ่ 130 ปี วันก่อตั้งเมือง นายพลากร สุวรรณรัตน์ องคมนตรี นำประกอบพิธีฯ เก่ง เดอะวอยซ์ พร้อม นางรำนับหมื่น ร่วมกิจกรรม  

      จังหวัดอุดรธานี จัดพิธีเฉลิมฉลองการก่อตั้งเมืองอุดรธานี 130 ปี ประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนา ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 130 รูป ถวายราชสักการะถวายราชสดุดีเทิดพระเกียรติ บายศรีสู่ขวัญบ้านสู่ขวัญเมือง และรำบวงสรวงสดุดีพลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม  น้อมรำลึกในพระกรุณาธิคุณ 

         วันที่ 18 มกราคม 2566 ที่บริเวณลานหน้าพระอนุสาวรีย์ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม พระผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานี  “ 5 แยกกรมหลวงประจักษ์”   นายพลากร สุวรรณรัตน์ องคมนตรี เป็นประธานประกอบพิธีวันที่รำลึกเฉลิมฉลองการก่อตั้งเมืองอุดรธานีสู่ปีที่ 130 โดยมีทายาทราชสกุลทองใหญ่นำโดยหม่อมหลวงสุพิชาน์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ หม่อมหลวงสวรรณศิริ ทองใหญ่ หม่อมหลวงทิพย์วรรณ ทองแถม  นายวันชัย  คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี  นางนงรัตน์  คงเกษม ประธานแม่บ้านนายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีทั้ง 4 ท่าน นายบัญชา กันหาสินธุ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดอุดรธานี นายศักดา เกตุแก้ว รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี นางบุญนิสา จันโทภาส รองปลัด อบจ.อุดรธานี ดร.ธนดร พุทธรักษ์ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี  หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ  ชมรม สมาคมต่าง ๆ ประชาชนชาวจังหวัดอุดรธานี ร่วมพิธี

        กิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลา 06.15 น. นายพลากร สุวรรณรัตน์  องคมนตรี นำชาวอุดรธานีประกอบพิธีสงฆ์  ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 130 รูป  ประกอบพิธีถวายราชสักการะด้วยพานพุ่มดอกไม้สด   พิธีบายศรีสู่ขวัญบ้านสู่ขวัญเมือง ถวายเครื่องสังเวยบูชา และอ่านประกาศสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม  ที่เลือกบ้านหมากแข้งเป็นชัยภูมิตั้งบ้านแปลงเมืองจนเจริญเติบโตเป็นเมืองอุดรธานีในปัจจุบัน  และการรำบวงสรวงสดุดีน้อมรำลึกในพระกรุณาธิคุณของพลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม พระผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานี ที่ถือเป็นประเพณีที่จัดขึ้นทุกปี  โดยในปีนี้มีประชาชนมาร่วมรำรอบอนุสาวรีย์ และกระจายออกไปบนถนน 5 สาย จำนวนนับหมื่นคน รวมทั้งศิลปินดัง “ธชย ประทุมวรรณ หรือ เก่ง ธชย หรือชื่อเดิม สิทธิกร ประทุมวรรณ รู้จักกันในชื่อ เก่ง เดอะวอยซ์ เป็นที่รู้จักจากการประกวดรายการ เดอะวอยซ์ไทยแลนด์ เสียงจริง ตัวจริง ปีที่ 1 และได้รับรางวัลรองชนะเลิศจากการประกวด โดยเคยได้รางวัลศิลปินเดี่ยวจากโค้ก มิวสิค อวอร์ค พ.ศ. 2553”
ซึ่งถือเป็นพลังแห่งความศรัทธาที่มากล้นของพี่น้องประชาชนชาวอุดรธานีที่มีต่อพลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ซึ่งเชื่อว่าพระองค์ท่านยังคอยปกปักษ์รักษา คุ้มครองเมือง และชาวอุดรธานี ให้อยู่เย็นเป็นสุขตราบทุกวันนี้  และถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานีที่ทุกภาคส่วนร่วมบูรณาการพลังสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการน้อมรำลึกในพระกรุณาธิคุณ 

            พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 25 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 กับเจ้าจอมมารดาสังวาลย์ ประสูติเมื่อวันที่ 5 เมษายน พุทธศักราช 2399 มีพระนามเดิมว่า “พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าทองกอง ก้อนใหญ่” พระองค์ทรงเป็นต้นราชสกุล “ทองใหญ่” เมื่อรัตนโกสินทร์ศก 112 ซึ่งตรงกับปีพุทธศักราช 2436 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ไทยเกิดกรณีพิพาทเรื่องดินแดนกับประเทศฝรั่งเศส โดยฝรั่งเศสได้ส่งเรือรบเข้ามาปิดปากแม่น้ำเจ้าพระยาและบังคับให้ไทยยกดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง อันได้แก่ บริเวณประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในปัจจุบันให้แก่ฝรั่งเศส โดยไทยจะต้องไม่มีกองกำลังทหารในรัศมี 25 กิโลเมตร บนฝั่งฟากตะวันตกของแม่น้ำโขง ซึ่งในขณะนั้น พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงดำรงตำแหน่งข้าหลวงต่างพระองค์ ผู้สำเร็จราชการมณฑลฝ่ายเหนือ มีกองบัญชาการตั้งอยู่ ณ เมืองหนองคาย จำเป็นต้องย้ายที่ตั้งกองบัญชาการลงมาทางใต้ เมื่อวันที่ 18 มกราคม พุทธศักราช 2436 และทรงเห็นว่า “บ้านหมากแข้ง” มีทำเล และชัยภูมิเหมาะสมที่จะตั้งกองบัญชาการ สามารถใช้เป็นศูนย์กลางบังคับบัญชา ดูแลปกครองหัวเมืองโดยรอบได้จึงทรงตั้งกองบัญชาการแห่งใหม่ขึ้น ณ ที่แห่งนี้การตัดสินพระทัยของพระองค์ แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพ พระปรีชาสามารถ และพระวิริยะอุตสาหะ ทรงอดทนต่อความตรากตรำลำบาก มิได้ท้อถอย ประกอบกับทรงมีสายพระเนตรอันยาวไกล “บ้านหมากแข้ง” จึงได้พัฒนาความเจริญรุ่งเรืองมาเป็น “จังหวัดอุดรธานี” ในปัจจุบัน

         พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ขณะดำรงพระชนม์ชีพ ทรงเป็นนักการทหาร นักปกครอง ที่ปรีชาสามารถยิ่งพระองค์หนึ่ง อีกทั้งทรงเชี่ยวชาญในศิลปวิทยาการหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นด้านการช่าง  ด้านกวีนิพนธ์ ด้านการคลัง และยังทรงรับราชการในตำแหน่งสำคัญ กล่าวคือ ทรงดำรงตำแหน่งผู้บังคับบัญชาการทหารกรมทหารล้อมพระราชวัง แม่ทัพใหญ่ฝ่ายใต้ที่ยกกำลังไปปราบปรามพวกฮ่อ ณ มณฑลลาวพวน ผู้บังคับราชการทหารประจำซอง ในพระบรมมหาราชวัง และองคมนตรี สำหรับตำแหน่งสุดท้ายในชีวิต การรับราชการคือ เสนาบดี กระทรวงกลาโหม พร้อมกับทรงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ พระองค์สิ้นพระชนม์ด้วยโรคอันตะพิการ เมื่อวัน ที่ 25 มกราคม พุทธศักราช 2467 สิริพระชันษา 68 ปี

          สำหรับการรำบวงสรวงในปีนี้ได้รับเกียรติจาก หม่อมหลวงสวรรณศิริ ทองใหญ่  ทายาทราชสกุลทองใหญ่ พร้อมบุรุษ สตรีชาวอุดรธานี จำนวนมากที่แต่งกายชุดเสื้อสีแสด ผ้าถุงพื้นเมือง และสไบย้อมคราม ทัดดอกทองกวาว ดอกไม้ประจำจังหวัดอุดรธานี รำบนถนน 5 สาย ประกอบด้วยถนนทหาร 2 ด้าน ถนนศรีสุข ถนนโภคานุสรณ์ และถนนสุรการ ล้อมรอบอนุสาวรีย์ โดยปลายแถวทหารยาวถึงปากซอยมหามิตร และห้าแยกน้ำพุ ถนนศรีสุขถึงแยกโรงเรียนบ้านหมากแข้ง ถนนโภคาณุสรณ์ถึงแยกโรงแรมเจริญโฮเต็ล และถนนสุรการถึงแยกท๊อปเวิล#จังหวัดอุดรธานี #องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี #อบจอุดรธานี #มหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี2569#130ปีเมืองอุดร
--------------------------------------