พม. จับมือเครือข่าย  ช่วยเด็กนักเรียน นักศึกษาด้อยโอกาส  ร่วมจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี โดยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาขีดความสามารถทางการศึกษาให้กับเด็กนักเรียน  

พม. จับมือเครือข่าย  ช่วยเด็กนักเรียน นักศึกษาด้อยโอกาส  ร่วมจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี


วันนี้ (9 ธ.ค. 65) เวลา 12.00 น. นางสาวแรมรุ้ง  วรวัธ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รองปลัด พม.) พร้อมด้วย ดร.สำรวย มหาพราหมณ์ ผู้รับใบอนุญาตวิทยาลัยเทคโนโลยีไทย - เอเซีย และพระครูปิยวรรณพิพัฒน์ ประธานมูลนิธิปิยวรรณพิพัฒน์ เพื่อสังคม ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อความร่วมมือการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)  วิทยาลัยเทคโนโลยีไทย - เอเซีย และมูลนิธิปิยวรรณพิพัฒน์ เพื่อสังคม ณ โถงชั้น 1 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พม. สะพานขาว กรุงเทพฯ นางสาวแรมรุ้ง  กล่าวว่า บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวง พม.  วิทยาลัยเทคโนโลยีไทย - เอเซีย และมูลนิธิปิยวรรณพิพัฒน์ เพื่อสังคม โดยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาขีดความสามารถทางการศึกษาให้กับเด็กนักเรียน นักศึกษาที่ด้อยโอกาส เพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยเฉพาะการจัดการเรียนการสอนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และประกาศนียบัตริวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) เพื่อเตรียมความพร้อมในการผลิตและพัฒนากำลังคนด้านอาชีวศึกษาให้มีคุณภาพ ตามมาตรฐานอาเซียนและสากล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาประเทศ และประเด็นยุทธศาสตร์ของกระทรวง พม. ในการสร้างศักยภาพคนและสร้างความเข็มของสถาบันครอบครัวอย่างยั่งยืน และการพัฒนาทุนทางสังคม 

     นางสาวแรมรุ้ง  กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ กระทรวง พม. จะร่วมมือกันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และทุนทางสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. เพื่อให้มีการจัดการเรียนการสอนในระดับ ปวช. สาขาการบัญชี การตลาดคอมพิวเตอร์ธุรกิจ และการโรงแรม และในระดับ ปวส. สาขาการตลาด และเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล โดยจัดการเรียนการสอนแบบทวิภาคี สอนเสริมออนไลน์ ตลอดจนการฝึกอบรม สัมมนา และศึกษาดูงาน การพัฒนาหลักสูตรต่างๆ  และกระทรวง พม. จะสนับสนุนกิจกรรมการดำเนินงานด้านต่างๆ ให้สอดคล้องตามวัตถุประสงค์และแนวทางความร่วมมือ รวมทั้งกระทรวง พม. จะเอื้ออำนวยบุคลากร ทรัพยากร สนับสนุนทางการเรียนการสอน เครื่องมือ และอุปกรณ์ปฏิบัติการระหว่างกัน ทั้งนี้ ภายใต้บังคับของกฎหมาย กฎ ระเบียบ
ของราชการที่เกี่ยวข้อง

################