เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 1 ธ.ค 2565 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.สิทธิ์ ศิริกังวาลกุล รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.กฤษฎากรณ์ กลิ่นเกษร รอง ผบก.ตม.4 และ ว่าที่ พ.ต.อ.ชินกร อัศวภูมิ ผกก.ตม.จ.บึงกาฬ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจตรวจคนเข้าเมืองบึงกาฬ นำโดย พ.ต.ท.ยุทธนา ราชจันทร์ รอง ผกก.พร้อมด้วย ร.ต.อ.ทองจันทร์ กระทุ่มขันธ์ รอง สว.ด.ต.สมศักดิ์ สุขวิญญา และ ด.ต.เอกชัย รอดสวัสดิ์ ผบ.หมู่ ตม.ได้กวดขันการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดของคนต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบ โดยออกตรวจสอบสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายตามนโยบายของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะตามช่องทางธรรมชาติตลอดแนวลำน้ำโขง ซึ่งคนต่างด้าวมักใช้เป็นช่องทางในการลักลอบหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทย  

          กระทั่งสายวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.บึงกาฬ ได้ซุ่มดูบริเวณช่องทางธรรมชาติ หมูที่ 4 บ้านนาโนน ต.บึงกาฬ อ.เมืองเมืองบึงกาฬ ได้มีเรือยนต์ 1 ลำ แล่นจากฝั่ง สปป.ลาว มาจอดที่ริมตลิ่งฝั่งไทย โดยมีกลุ่มชายหญิงรวม 4 คน เดินลงมาจากเรือ จากนั้นคนขับที่เข้ามาจอดส่งคนลงก็ได้รีบขับเรือข้ามแม่น้ำโขงกลับออกไปยัง สปป.ลาว อย่างรวดเร็ว จึงได้เข้าแสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทางหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องของบุคคลทั้ง 4 ราย ปรากฏว่าไม่สามารถนำเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ และให้การยอมรับว่าตนเป็นคนต่างด้าวสัญชาติลาว โดยเป็นราษฎรบ้านปากทวย เมืองท่าพะบาด แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว ซึ่งมี ท้าวสุกัน พูมมีไซ อายุ 43 ปี  นางสุกสาคอน แสงหนูทอง อายุ 30 ปี นางแป๊ะ จะเรินสุก อายุ 50 ปีและ นางล้อม อักคะวงสา อายุ 54 ปี โดยจะแอบลักลอบเข้ามาเพื่อมาซื้อของกินของใช้ เนื่องจากที่ลาวราคาสินค้าที่ไปจากไทยจะแพงมาก โดยเมื่อมาถึงก็จะโทรเรียกรถสามล้อเครื่องมารับไปส่งที่ตลาด เมื่อซื้อของเสร็จแล้วก็จะแอบกลับออกไปทางเดิม โดยไม่เข้าออกตามช่องทางอนุญาตและไม่ผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 81 เจ้าหน้าที่ฯ ได้ทำการคุมตัวและทำการส่งกลับออกนอกราชอาณาจักรตามมาตรา 54 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ต่อไป.

นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี//บึงกาฬ