รมว.พม. เปิดเวทีสิทธิเด็กครั้งที่ 33 รับฟังเสียงคนรุ่นใหม่ ชูสร้างสังคมไทยให้ปลอดภัยต่อเด็ก   

รมว.พม. เปิดเวทีสิทธิเด็กครั้งที่ 33 รับฟังเสียงคนรุ่นใหม่ ชูสร้างสังคมไทยให้ปลอดภัยต่อเด็ก 

       วันที่ 20 พ.ย. 65 เวลา 10.00 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดงานเวทีสิทธิเด็ก ครั้งที่ 33 “สร้างสังคมไทยให้ปลอดภัยต่อเด็ก” ซึ่งเป็นเวทีแลกเ  ปลี่ยนเรียนรู้เรื่องสิทธิตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ระหว่างผู้แทน 7 เครือข่ายเด็กและเยาวชนจากทั่วประเทศ ได้แก่ เครือข่ายเด็กและเยาวชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ชุมชนแออัด ผู้พิการ ชาติพันธุ์ สภานักเรียน สภาเด็กและเยาวชน และเครือข่ายเด็กและเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศ อีกทั้งรับฟังการนำเสนอการจัดกิจกรรมของเด็กและเยาวชน ผ่านกิจกรรม “Kids City Exhibition 2022” โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน นางคยองซอน คิม ผู้อำนวยการ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย และคณะผู้บริหารกระทรวง พม.  เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุมปรินซ์ 3 โรงแรมปรินซ์พาเลซ กรุงเทพฯ

         นายจุติ กล่าวว่า วันนี้ ตั้งใจมารับฟังเด็ก เยาวชนคนรุ่นใหม่ว่าคิดอย่างไรบ้าง โดยมีองค์การยูนิเซฟ เข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นองค์การที่เป็นผู้นำด้านการทำงานเกี่ยวกับเด็ก ดูแลการพัฒนาของเด็กทั่วโลก และมุ่งให้เด็กมีความปลอดภัย โดยเวทีสิทธิเด็กครั้งนี้ถือเป็นการร่วมสร้างพลังของเด็กและเยาวชนให้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้สิทธิเด็กตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และการป้องกันความรุนแรงเพื่อสร้างสังคมแห่งความปลอดภัย ผ่านการรับฟังเสียงเด็กและเยาวชนในฐานะพลเมืองปัจจุบันและอนาคตของประเทศ  และเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง  ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความพยายามและความมุ่งมั่นในการส่งเสริมสิทธิการมีส่วนร่วมของเด็ก โดยที่เด็กมีสิทธิร่วมตัดสินใจและนำเสนอข้อคิดเห็นที่นำไปสู่การสร้างสังคมที่ปลอดภัยแก่ตนเอง อีกทั้งสอดคล้องกับวันเด็กสากล (Universal Children’s Day) ที่องค์การสหประชาชาติ กำหนดให้ตรงกับวันที่ 20 พฤศจิกายนของทุกปี ในการรณรงค์ให้ทุกประเทศได้ตระหนักถึงการคุ้มครองสิทธิในชีวิต สุขภาพ การศึกษา และการพัฒนาตามวัยของเด็ก โดยปี 2565 ถือเป็นโอกาสสำคัญในการครบ 30 ปี ของประเทศไทยในการเข้าเป็นภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก

         นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สังคมที่เราอยู่ จะเป็นสังคมที่เลวร้ายหรือสังคมที่น่าอยู่ ขึ้นอยู่กับเด็กๆ  ดังนั้น เราจะต้องสร้างเด็กให้ใช้จุดแข็งของตนเองในการพัฒนาสังคมอย่างที่ควรจะเป็น และผู้ใหญ่ไม่ควรเอาความคิดหรือความเชื่อไปใส่ในเด็ก แน่นอนว่าทุกคนเคารพกฎหมายของสังคม แต่ต้องปล่อยให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด ซึ่งเด็กๆ เหล่านี้คือเสาเข็มทางสังคมในอนาคต ดังนั้น ขอให้เด็กทุกคนร่วมกันสร้างสังคมของกันและกัน และทุกคนต้องแบ่งปัน เอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันด้วย


##############