“เฉลิมชัย”มอบนโยบายเร่งเพิ่มรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืนตั้งเป้า พัฒนาอาชีพปศุสัตว์สู่เกษตรมูลค่าสูงภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับใหม่
“เฉลิมชัย”มอบนโยบายเร่งเพิ่มรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืนตั้งเป้าพัฒนาอาชีพปศุสัตว์สู่เกษตรมูลค่าสูงภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับใหม่
“อลงกรณ์”ขานรับทันทีเดินหน้าเพชรบุรีโมเดลดีเดย์ 11 พ.ย.ระดมพลคนปศุสัตว์ผนึกทุกภาคส่วนร่วมพัฒนาโคขุนโคนมโคพื้นเมืองตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำพร้อมยกระดับวัวลานประเพณีวิถีไทยสู่มาตรฐานใหม่
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ว่า ภายใต้นโยบายของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ให้เร่งเพิ่มรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืนโดยตั้งเป้าหมายพัฒนาอาชีพปศุสัตว์สู่เกษตรมูลค่าสูงตามหมุดหมายใหม่ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่13ในระหว่างปฏิบัติราชการที่จังหวัดเพชรบุรีเมื่อวันที่21ตุลาคมที่ผ่านมาสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรีโดยคำแนะนำของที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.จึงได้จัดการประชุมเรื่อง “การพัฒนาโคขุนโคนม โคพื้นเมืองและวัวลานกีฬาประเพณีวิถีไทย”เป็นครั้งแรกเพื่อพัฒนาการปศุสัตว์อย่างเป็นระบบและยกระดับรายได้ของเกษตรกรให้สูงขึ้นอย่างยั่งยืนในวันศุกร์ที่ 11 พ.ย. เวลา 14.00- 16.00 น. ณ ห้องประชุม สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบุรีโดยประสานงานเขิญทุกภาคส่วนได้แก่จังหวัดเพชรบุรี พาณิชย์จังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด เกษตรจังหวัด สหกรณ์จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด ศูนย์วิจัยอาหารสัตว์ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมเพชรบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี มหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาเขตชะอำ สภาอุตสาหกรรม หอการค้า สมาพันธ์เอาเอ็มอี ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุนโคนมโคพื้นเมือง วัวลาน วิสาหกิจชุมชนโค โคแปลงใหญ่ และตัวแทนจากกรมปศุสัตว์ ฯลฯ.เข้าร่วมประชุม
พร้อมกันนี้ก็จะจะพัฒนาวัวลานซึ่งเป็นกีฬาประเพณีวิถีไทยสู่มาตรฐานใหม่ให้สามารถจัดการแข่งขันได้สม่ำเสมอรวมทั้งการส่งเสริมวัวเทียมเกวียน
“ขณะนี้เรื่องเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนและเกษตรกรสำคัญที่สุด ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนลำดับแรกที่ทุกหน่วยงานในสังกัดต้องเดินหน้าสร้างอาชีพสร้างรายได้และลดรายจ่ายให้กับเกษตรกรของเราซึ่งต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจาก ปุ๋ย ยา อาหารสัตว์ ไฟฟ้า และน้ำมันที่มีราคาสูงขึ้นทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด19และสงครามรัสเซีย-ยูเครน”
นอกจากนี้นายอลงกรณ์ยังเปิดเผยด้วยว่า
จะมีการจัดประขุมการพัฒนาปศุสัตว์กลุ่มอื่นๆเช่น ไก่เนื้อไก่ไข่ไก่สวยงามไก่ชนและสุกร ฯลฯ เช่นเดียวกับทางด้านการพัฒนาอาชีพประมงก็จะจัดประชุมกลุ่มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ กลุ่มประมงพื้นบ้าน กลุ่มประมงพาณิชย์ กลุ่มแปรรูปประมง กลุ่มพืชน้ำ ฯลฯซึ่งต้นเดือนที่ผ่านมาก็มีการประชุมใหญ่เรื่องกุ้งกุลาดำเพชรบุรีโดยชมรมผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีและกรมประมงให้การสนับสนุน.