2 ฮีโร่ช่วยไฟดูดพร้อมและครอบครัวผู้ประสบเหตุแจ้งความดำเนินคดี ความผิดประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส
วันนี้ วันที่ 18 ตุลาคม 2565 ที่ สภ.เมืองอุดรธานี ทนายโนบิตะ หรือนายกฤษฎา โลหิตดี พร้อมด้วยเฮียเปี๊ยก นายภาณุมาศ จิตรวสินกุลเจ้าของเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ได้พา นายอรรคชัย อาจอุดม หรือน้องบาส อายุ 20 ปี นาวสาวสุภารัตน์ ภูเหมือนบุคร ฮีโร่ช่วยเด็กจมน้ำ และ นางสมถวิล เมืองณศรี อายุ 64 ปี ยายของน้องเรดิโอ และครอบครัวของผู้ประสบเหตุทุกคน ได้เดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอุดรธานีดำเนินคดีสอบสวนเกี่ยวกับข้อเท็จจริงกรณีที่ไฟฟ้ารั่วจนทำให้ประชาชนได้รับอันตรายสาหัส
ด้านทนายโนบิตะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า
วันนี้ทนายโนบิ น้องบาส น้องเอ๋และครอบครัวของผู้ประสบเหตุทุกคนประสานขอความช่วยเหลือมายังตนผ่านทางเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย
ว่าอยากให้ช่วยเหลือทางคดีความหลังผ่านมา 1 เดือนยัฝไม่ได้รับการเยียวยาจากหน่วยงานเจ้าของเสาไฟฟ้าแต่อย่างใด และคดีความยังไม่มีความคืบหน้าว่าจะไปในทิศทางไหน
ตนเองในฐานะทนายความจึงได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและกรณีที่เกิดขึ้นว่า
กรณีดังกล่าว ต้องแยกเป็น 2 ส่วนคือส่วนที่ 1 เป็นความผิดทางอาญาและส่วนที่ 2 เป็นการละเมิดทางแพ่ง ส่วนความผิดอาญานั้นเป็นความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส
ดังนั้นเจ้าหน้าที่รัฐหรือหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลโดยตรง จะต้องเป็นผู้รับผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา
แต่ในกรณีที่ยังไม่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีจะต้องมีการร้องทุกข์กล่าวโทษเสียก่อน ตนจึงได้พาครอบครัวของผู้ประสบเหตุ
มาร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีและมีการสอบสวนสืบสวนตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ส่วนน้องบาส ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวของเราว่า ผมไม่อยากให้กรณีที่เกิดขึ้นกับผมต้องไปเกิดขึ้นกับคนอื่นอีกและอยากให้หน่วยงานหรือผู้ที่มีหน้าที่ตรวจสอบดูแลเสาไฟฟ้าและสายไฟได้มีการตรวจสอบบำรุงรักษาให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับพี่น้องชาวจังหวัดอุดรธานีอีก
ถ้าหากไม่เกิดขึ้นกับตัวเองก็คงไม่รู้ว่าเรื่องราวดังกล่าวมันอันตรายแค่ไหน
อยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่หรือผู้ที่มีหน้าที่ดูแลด้านนี้ตรวจสอบอุปกรณ์ทั้งสายไฟเสาไฟที่อยู่ในพื้นที่ให้พร้อมใช้งานและไม่เกิดอันตรายกับประชาชน
ด้านน้องเอ๋ ฮีโร่ อีกคนก็เห็นด้วยกับน้องบาสที่อยากจะให้เคสนี้เป็นกรณีศึกษาให้เจ้าหน้าที่ทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ในตัวเมืองอุดรธานีได้หมั่นดูแลและบำรุงรักษา รักษาระบบไฟฟ้าให้ใช้งานได้ปกติไม่ก่อเกิดอันตรายแก่ประชาชน โดยเฉพาะเวลาที่ฝนตกน้ำท่วมขัง
ด้านนางสมถวิลฯ คุณยายของน้องเรดิโอได้ระบายความรู้สึกกับผู้สื่อข่าวว่ากว่า 1 เดือนที่ผ่านมายังไม่มีการเข้ามาดูแลหรือเข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับการรับผิดชอบกับทางครอบครัวผู้ประสบเหตุอย่างเป็นทางการ
ดังนั้นวันนี้ นางสมถวินฯ ในฐานะผู้ปกครอ นางสาวจิดาภา เปรมปี หรือน้องเรดิโอ
นักเรียนชั้นม 3 โรงเรียนสตรีราชินูทิศ พร้อมกับครอบครัวผู้ประสบเหตุทุกคน จึงเดินทางเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อให้มีการสอบสวนสืบสวนเกี่ยวกับข้อเท็จจริง ทำให้เรื่องนี้เป็น เป็นกรณีศึกษา เพื่อให้มีการระมัดระวังตรวจสอบ บำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าในพื้นที่ตัวเมืองอุดรให้ใช้งานได้ดีไม่ควรมีปัญหาโดยเฉพาะเวลาที่ฝนตกน้ำท่วมลูกหลานที่อาศัยอยู่และไปโรงเรียนจะได้ปลอดภัยไม่เป็นอันตรายเหมือนกรณีหลานของตัวเอง เพราะถ้าหากว่าหลานตัวเองเสียชีวิตไปคงจะทำให้ครอบครัวเสียใจอย่างมาก
ดังนั้นกรณีนี้ควรเป็นกรณีศึกษาและไม่ควรให้เกิดขึ้นอีก ไม่ว่ากับครอบครัวหรือลูกหลานใครๆทั้งสิ้น
ภายหลังน้องบาสน้องเอ๋และครอบครัวของผู้ประสบเหตุทุกคนได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับทางพนักงานสอบสวนแล้วจึงได้เดิน ยังสำนักงานเทศบาลนครอุดรธานีตำบลหมากแข้งอำเภอเมืองจังหวัดอุดรธานี เพื่อติดตามความคืบหน้สเกี่ยวกับผลการสอบสวนของทางเทศบาลและหารือถึงแนวทางการเยียวยาผู้ประสบเหตุและครอบครัว
ซึ่งทางทนายโนบิตะ และครอบครัวของผู้ประสบเหตุได้เข้าไปพบกับทางนายกเทศมนตรีนครอุดรธานีในห้องประชุมก่อนที่จะมีการพูดคุยหารือกันกว่า 1 ชั่วโมง