ศรีสะเกษ อินทผลัมเขาพระวิหารหวานกรอบอร่อยปลูกแห่งแรกของไทย เพียง 1 ไร่เศษสร้างรายได้ปีละ 2.8 แสนบาท อีกทางเลือกหนึ่งของเกษตรกรตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา  

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 64   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนอินทผลัมพ่อศรีสมุทร แม่แดง ตั้งอยู่เลขที่ 70/2 หมู่ 3 บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนไทย  - กัมพูชาใกล้กับปราสาทพระวิหารสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ประเทศกัมพูชา นายบัวกัน   อุ่นอ่อน ผู้ใหญ่บ้านโนนเจริญ ได้นำสื่อมวลชนไปชมสวนแห่งนี้ซึ่งเป็นสวนที่ปลูกอินทผลัมมานานประมาณ  8 ปี  เจ้าของสวนคือ นายศรีสมุทร   เขมรทอง  อายุ  66 ปี และนางแดง  เขมรทอง  อายุ  61 ปี ได้นำคณะเข้าไปชมภายในสวน ปรากฏว่า  ขณะนี้ภายในสวนต้นอินทผลัมกำลังให้ผลผลิตจำนวนมาก  โดยต้นอินทผลัมทุกต้นที่กำลังให้ผลผลิต นายศรีสมุทรและนางแดง ได้นำเอากระสอบปุ๋ยเปล่าและตาข่ายมาห่อหุ้มผลอินทผลัมเอาไว้เพื่อป้องกันแมลงไม่ให้มากัดกินผลอินทผลัม  

 และเมื่อแกะกระสอบปุ๋ยที่ห่อเอาไว้ออกมาก็จะเห็นผลอินทผลัมสีเหลืองอร่ามเป็นพวงขนาดใหญ่ และสามารถหยิบเอาผลอินทผลัมมาชิมได้ทันที  เนื่องจากว่า สวนอินทผลัมแห่งนี้ปลอดสารพิษ  ใช้ปุ๋ยคอกเป็นอาหารให้กับต้นอินทผลัม  เมื่อเดินชมภายในสวนจะพบว่า ต้นอินทผลัมให้ผลผลิตปีนี้จำนวนมาก และต้นอินทผลัมบางต้นผลกำลังเป็นสีเขียวเข้มใกล้จะสุกแล้ว และได้มีการเอากระสอบปุ๋ยห่อเอาไว้เป็นอย่างดีเพื่อป้องกันแมลง  ซึ่งสวนอินทผลัมแห่งนี้นับได้ว่า เป็นสวนอินทผลัมเขาพระวิหารแห่งแรกของประเทศไทย ที่มีพื้นที่ปลูกอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาใกล้เขาพระวิหาร และได้ใช้สายน้ำจากลำห้วยตะขบที่ไหลมาจากสระตราวเขาพระวิหาร เทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งมีแร่ธาตุต่าง ๆ อยู่จำนวนมาก มาหล่อเลี้ยงต้นอินทผลัม ทำให้รสชาติของผลอินทผลัมจะกรอบ หวานกำลังพอดี อร่อยมากกว่าการปลูกบนพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศไทย  


 

 


นายศรีสมุทร   เขมรทอง  อายุ  66 ปี กล่าวว่า  มีคนที่รู้จักกันได้แนะนำให้ไปดูงานที่ อ.ทองผาภูมิ   จ.กาญจนบุรี  ตนจึงได้ไปดูกับงานกับเขาด้วย พอไปเจอการปลูกต้นอินทผลัมเห็นว่าน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีจึงได้ตัดสินใจสั่งซื้อต้นพันธุ์ทันที ซึ่งเมื่อได้นำมาปลูกตอนแรก เพื่อนบ้านก็พากันบอกว่าตนเป็นบ้าปลูกต้นอะไรก็ไม่รู้เรื่อง แต่ตนก็นำเอามาปลูกเนื่องจากเห็นว่า สถานที่ที่ตนไปดูงานนั้น เขาปลูกอินทผลัมขายสร้างรายได้ปีละเป็นเงิน 1,000,000 บาทต่อปี ใครจะว่ายังไงก็ตามตนได้ลองปลูกก่อน จึงได้สั่งต้นพันธุ์มาปลูก  สั่งซื้อมาจะมีราคาต้นละ 480 บาทเป็นแบบเพาะเมล็ดไม่ใช่เพาะเนื้อเยื่อ โดยซื้อมา 65 ต้น นำเอามาปลูกในเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เศษโดยปลูกห่างกันประมาณ 5 × 5 เมตร การบำรุงรักษาจะง่ายมากต้นอินทผลัมจะกินอาหารไม่ยากการใส่ปุ๋ยหากจะเป็นปุ๋ยคอกจะดีมาก ฉีดยาก็ไม่ได้ฉีดอะไรปล่อยตามธรรมชาติ  แต่จะมีด้วงแรดที่เป็นศัตรูตัวร้าย เนื่องจากด้วงจะกินยอดต้นอินทผลัม  บริเวณที่ตนปลูกนี้มีน้ำไม่มากนัก หากว่าที่ใดมีน้ำมากจะให้ผลผลิตมากกว่านี้ แต่ว่าพื้นที่ที่ตนปลูกตรงนี้น้ำไม่มีต้องใช้น้ำบ่อเพื่อรดต้นอินทผลัม รดน้ำเพียงอาทิตย์ละ1ครั้ง เนื่องจากน้ำไม่พอโดยวันหนึ่งจะลดต้นอินทผลัมครึ่งหนึ่ง ส่วนวันถัดไปก็จะลดอีกครึ่งหนึ่งเนื่องจากว่าน้ำไม่พอจะรดหมดครั้งเดียวไม่ได้  ถ้ามีน้ำเยอะคาดว่าอินทผลัมจะให้ผลผลิตมากกว่านี้อีก 

นายศรีสมุทร   เขมรทอง  อายุ  66 ปี กล่าวต่อไปว่า ตนเริ่มปลูกอินทผลัมประมาณเดือนพฤษภาคม 2557 และต้นอินทผลัมให้ผลผลิตปี 2560 แต่ยังไม่ได้ขายเท่าไหร่ขายได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยในปี 2561 - 2562 เริ่มให้ผลผลิตมากขึ้น   พอปี 2563  ผลผลิตจะมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปี 2563 ตนขายผลผลิตอินทผลัมได้เงินทั้งสิ้น  280,000 บาท ส่วนปีนี้เพิ่งเริ่มยังไม่รู้ว่าจะทำเงินรายได้ให้เท่าไหร่ ซึ่งผลผลิตก็เยอะมากพอสมควร ตนปลูกอินทผลัมจำนวน  65 ต้น แต่ได้ผลผลิตไม่หมดทุกต้นเนื่องจากว่าเป็นต้นตัวผู้และตัวเมียต้นตัวผู้มีอยู่ประมาณ 20 ต้นนอกนั้นเป็นต้นตัวเมียหมด  ถ้าพี่น้องเกษตรกรจะปลูกก็สามารถปลูกได้โดยมีหลายพันธุ์  ต้นพันธุ์ก็มีแบบเพาะเมล็ด  เป็นต้นเล็กๆ  ต้นอินทผลัมจะให้ผลผลิตปีละ 1 ครั้งโดยผลผลิตที่ออกมาจะไม่สุกพร้อมกัน ผลผลิตจะยาวไปถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี ถ้ามันสุกพร้อมกันการหาตลาดก็คงยาก ต้นอินทผลัมที่ปลูกมี 2 พันธุ์ ก็คือ พันธุ์บาร์ฮี (Barhi) กับพันธุ์สยาม เอส 1   ตนปลูก 65 ต้นแต่จะให้ผลผลิตจริงๆ ประมาณ 27 ต้นซึ่งสร้างรายได้ให้ถึง 280,000 บาทในปีที่ผ่านมา แต่ว่าปีนี้ให้ผลผลิตไม่เยอะไม่ดกเท่ากับปีที่แล้วที่บางต้นให้ผลผลิตถึง 10 เท่า 

นายศรีสมุทร   เขมรทอง  อายุ  66 ปี กล่าวด้วยว่า  การปลูกอินทผลัมหากมีน้ำมากยิ่งดีใหญ่ ยิ่งอยู่แถวใต้เขื่อนก็ยิ่งจะปลูกได้ดี  และการปลูกอินทผลัมจะดียิ่งกว่าการปลูกทุเรียนเพราะว่าทุเรียนจะเยอะมาก ต่อไปก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ทุเรียนต้องดินภูเขาไฟถ้าทุเรียนดินธรรมดาก็จะให้ผลผลิตไม่ดีเท่าที่ควร ดินภูเขาไฟก็ให้ผลผลิตดี  แต่ว่าการปลูกต้นอินทผลัมจะรักษาไม่ยากปลูกง่ายไม่เหมือนทุเรียน โดยทุเรียนถ้าน้ำไม่มีก็จะไม่ให้ผลผลิตเลย  ถ้าเกษตรกรท่านใดอยากปลูกต้นอินทผลัมสามารถติดต่อตนได้ที่ บ้านเลขที่ 70/ 2 หมู่ 3บ้านซำเม็ง โทร. 089-9129041  สามารถมาติดต่อได้ตลอดเวลา/////////

 ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ