ศรีสะเกษ เขื่อนราษีไศลแขวนประตูระบายน้ำทั้ง 7 บาน ขณะที่ ผวจ.ศรีสะเกษเผยประชาชนไม่ต้องกังวลผลกระทบ หากไม่มีปริมาณน้ำฝนมาสมทบ เตือนให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เขื่อนราษีไศล อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายวัจนปกรณ์ พงษ์พานิช ผช.หน.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ ได้นำคณะออกไปตรวจติดตามสถานการณ์การระบายน้ำของลำน้ำมูลที่เขื่อนราษีไศล ซึ่งพบว่า ขณะนี้เขื่อนราษีไศลมีการเปิดประตูระบายน้ำต่อเนื่อง โดยมี นายภานรินทร์ ภาณุพินทุ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่างและคณะ รายงานข้อมูลสถานการณ์ของน้ำให้ ผวจ.ศรีสะเกษได้รับทราบ
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการตรวจติดตามพบว่าเขื่อนราษีไศล มีระดับน้ำอยู่ที่ +119.01 ม(รทก.) และมีปริมาณน้ำทั้งหมดอยู่ที่ 74.576 (ล้าน ลบ.ม.) คิดเป็น 100.16% เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน +0.10 (ม.) ซึ่งปัจจุบันเขื่อนราษีไศล ได้ยกบานประตูระบายน้ำอย่างต่อเนื่องโดยยกระดับพ้นน้ำ 1 บานและยกระยะ 4.50 เมตร จำนวน 6 บาน โดยในวันนี้ ( 9 กันยายน 2565 เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป) จะยกบานประตูระบายน้ำพ้นน้ำทั้ง 7 บาน เพื่อเป็นการบริหารจัดการน้ำในภาพรวมให้น้ำไหลตามธรรมชาติ ทางชลประทาน และเขื่อนราษีไศล ไม่ได้ดูแลเฉพาะพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ต้องดูแลจังหวัดใกล้เคียงที่เป็นต้นน้ำด้วย ดังนั้น การแขวนบานประตูระบายน้ำจะเป็นการช่วยให้การระบายน้ำเป็นไปได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ใน 1 วัน จะสามารถระบายน้ำได้ปริมาณถึง 83 ล้าน ลบ.ม.
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า ตนขอฝากถึงประชาชนในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษว่า ไม่ต้องกังวลใจ เนื่องจาก ปริมาณน้ำที่ระบายออกมีปริมาณน้ำที่มากกว่าปริมาณน้ำที่เข้ามา ประกอบกับในปัจจุบันนี้ จ.อุบลราชธานี ได้มีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ เพื่อให้น้ำไหลได้อย่างรวดเร็ว และเป็นความโชคดี ที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังต่ำกว่าระดับน้ำในแม่น้ำมูลอยู่ เพราะฉะนั้นการระบายน้ำจึงเป็นไปได้ด้วยความรวดเร็วส่วนจะมีผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่มากน้อยเพียงใด ต้องเฝ้าติดตามปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ด้วย ว่ามีมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตามแต่ ขอให้พี่น้องประชาชนเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำ ซึ่งทางหน่วยงานราชการ ทั้งระดับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะได้ร่วมกันดูแล และบูรณาการทำงานร่วมกัน ในการติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง//////
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ