รมว.พม. ย้ำศูนย์ช่วยเหลือสังคม ต.บ้านกร่าง จ.พิษณุโลก เร่งแก้ปัญหาประชาชน  ร่วมมือกับเครือข่าย  ช่วยกลุ่มเปราะบางลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  

 


วันนี้ (9 ก.ย. 65) เวลา 14.00 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินงานของศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลบ้านกร่าง ณ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พร้อมรับฟังรายงานสถานการณ์ปัญหา และมอบแนวทางการดำเนินงานอย่างบูรณาการ เพื่อช่วยเหลือประชาชนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง อย่างครบวงจร ทั้งนี้ คณะผู้บริหารกระทรวง พม. พร้อมด้วยหน่วยงาน ทีม One Home พม. จังหวัดพิษณุโลก และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เข้าร่วมประชุม 


นายจุติ กล่าวว่า ศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลบ้านกร่าง เป็นศูนย์ที่มีความเข้มแข็งในการให้บริการประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา นับเป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือและให้บริการด้านสวัสดิการสังคมแบบครบวงจรอย่างเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) สำหรับกลุ่มเปราะบางที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคมและได้รับผลกระทบจากโควิด - 19 ตั้งแต่ เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ แม่เลี้ยงเดี่ยว ผู้ป่วยติดเตียง และผู้ด้อยโอกาส โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวง พม. โดยหน่วยงาน
ทีม One Home พม. จังหวัดพิษณุโลก และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน รวมทั้งอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในพื้นที่ 


นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงพื้นที่วันนี้ ตนได้มาติดตามผลงานของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนทั้งประเทศและจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งรัฐบาลมีความเป็นห่วงในเรื่องความเจ็บป่วยจากโควิด - 19  โดยขอให้ประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวัง ไม่ประมาท การ์ดอย่าตก และขอให้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด - 19 ให้ครบอย่างน้อย 3 เข็ม โดยวันนี้ ได้ตกลงกับตำบลบ้านกร่าง จังหวัดพิษณุโลก ไว้ว่า อยากจะให้เกินร้อยละ 80 ของจำนวนประชากร ส่วนการฉีดวีคซีนเข็มที่ 2 อยากจะให้เกินร้อยละ 90 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขระบุไว้ว่า ถ้าได้รับการฉีดวัคซีน 3 เข็ม จะมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น  และถ้าได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 จะดีมาก ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชนที่ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 โดยได้เน้นย้ำให้ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคมทุก อบต. ทำงานร่วมกันกับกระทรวง พม. ผู้ใหญ่บ้าน และ อพม. เพื่อนำคนที่มีคุณสมบัติครบมาลงทะเบียนให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้มีใครหลุดจากระบบสวัสดิการ จะได้สามารถเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ อีกทั้งได้เน้นย้ำในเรื่องของเงินออม ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นในการสร้างพื้นฐานที่ดี เพื่อเตรียมไว้เมื่อสูงวัยจะได้มีเงินบำนาญไว้ใช้ในอนาคต นอกจากนี้ ตนได้รับฟังปัญหาของประชาชนและได้มอบหมายให้หน่วยงานของกระทรวง พม. เข้ามาดูแลประชาชนโดยเร็ว และได้ตั้งมาตรฐานไว้ว่า เรื่องที่ประชาชนเดือดร้อน ขอให้ดำเนินการให้สำเร็จภายใน 72 ชั่วโมง และต้องมีคำตอบว่า สำเร็จแล้วหรือมีปัญหาติดขัดอะไรในการแก้ไขปัญหาให้ได้

################