หนองคายแถลงผลการจับกุม ขบวนการลักลอบนำเข้ายาบ้า 400,000 เม็ด
บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขง ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย : วันที่ 8 ก.ย.65 ที่ สภ.เมืองหนองคาย พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จังหวัดหนองคาย ร่วมกับกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ,หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี , ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย , บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13) กกล.สุรศักดิ์มนตรี กองร้อยสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดที่ 1 ,ฝ่ายปกครอง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการจับกุม ขบวนการลักลอบนำเข้ายาบ้า 400,000 เม็ด
เมื่อวันที่ 6 ก.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปส.ภ.จว.หนองคาย ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด มารับยาเสพติด (ยาบ้า) จากผู้ค้าชาว สปป.ลาว โดยกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดดังกล่าว นัดส่งมอบยาบ้ากันที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านหาดคำน้อย ม.3 ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย จึงได้รายงานให้ พันตำรวจเอก สุรกิจ ด้วนเครือ ผู้กำกับการสืบสวน ทราบ ในเบื้องต้นได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปส.ภ.จว.หนองคาย ออกไปทำการตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง โดยแบ่งกำลังเป็น 4 ชุด ชุ่มอยู่บริเวณโดยรอบจุดที่ได้รับแจ้ง เวลาประมาณ 20.15 น. ได้มีรถยนต์กระบะแค๊ป ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน บฉ 9495 หนองบัวลำภู ขับมาจอดบริเวณริมถนนพนังชลประทานใกล้กับจุดที่เจ้าหน้าที่ชุ่มอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ได้สังเกตเห็นภายในรถมีชาย 3คนโดยสารมาในรถ จากนั้นชายที่เป็นคนขับได้ลงจากรถแล้วเดินลงไปริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยมีชายที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับเดินตามลงไป ส่วนชายที่นั่งอยู่ในแค๊ป ก็เปลี่ยนมาเป็นคนขับแทนและขับออกไปโดยวนกลับไปมาอยู่ใกล้กับจุดที่ชาย
2 คนเดินลงไป ส่วนชาย 2 คนที่เดินลงไปริมฝั่งแม่น้ำโขงนั้น เมื่อใกล้ถึงริมฝั่งแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่ได้ซุ่มดูอยู่สามารถมองเห็นชายทั้ง 2 คน ได้อย่างชัดเจนเนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีแสงสว่างจากหลอดไฟ ตามทางเดินริมแม่น้ำ และสังเกตุเห็นเรือยนต์แล่นมาจากฝั่ง สปป.ลาว ได้มาเทียบท่าใกล้จุดที่เกิดเหตุและได้มีเสียงพูดคุยกันหลายคน สักครู่หนึ่งเรือยนต์ดังกล่าวก็รีบแล่นกลับไปยังฝั่ง สปป.ลาวอย่างรวดเร็ว ส่วนชาย 2 คน ได้ลงไปที่ริมตลิ่งและเดินกลับขึ้นมาโดยแบกกระสอบขึ้นมาด้วยคนละ1 กระสอบ ในขณะเดียวกันรถยนต์คันที่ทั้ง 2 คน โดยสารมาก็ได้มาจอดรออยู่ริมถนนพนังชลประทาน เจ้าหน้าที่ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอทำการตรวจสอบชายทั้ง 2 คนพร้อมกับส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าส่วนที่เหลือเข้าทำการตรวจสอบรถยนต์ที่มารอรับ เมื่อชายทั้ง 2 คน มองเห็นเจ้าหน้าที่ก็มีอาการตก
ใจพร้อมกับวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์ที่มารอรับก็รีบขับรถออกไปเช่นกัน เจ้าหน้าที่ ชุดที่ชุ่มอยู่บริเวณริมถนน จึงได้ขับรถยนต์ติดตามไป และสามารถสกัดรถยนต์คันดังกล่าวพร้อมคนขับไว้ได้สอบถามผู้ต้องหาทั้ง 3 รายทราบชื่อ
1. นายเสกสรรค์หรือเสก อุตมา สัญชาติไทย อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 4 ต.เชียงพิณ อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี
2. นายอดิศรหรือโป้ง หลวงพงษ์พันธ์ สัญชาติไทย อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 15 ต.ถ่อนนาลับ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
3. นายเอกพันธ์หรือก็อต ตันสีนนท์ สัญชาติไทย อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 14 ต.เชียงพิณ อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบภายในกระสอบที่ผู้ต้องหาที่แบกมา
พบว่ากระสอบที่ 1 มียาบ้าจำนวน 27 แพ็ค กับอีก 2 มัด รวมยาบ้ากระสอบที่ 1 ประมาณ 166,000 เม็ด และกระสอบที่ 2 มียาบ้าจำนวน 39 แพ็ค มียาบ้าประมาณ 234,000 เม็ด รวมยาบ้าทั้ง 2 กระสอบ ประมาณ 400.000 เม็ด ซึ่งยาบ้าแต่ละแพ็คนั้นห่อหุ้มด้วยกระดาษไขสีเหลือง มีอักษร Y 1 ประทับอยู่
ใน 1 แพ็ค จะมียาบ้าอยู่ 3 มัด ในแต่ละมัดจะพันด้วยกระดาษสาสีขาวภายในมียาบ้าบรรจุในถุงพลาสติกแบบกดปิด-ดึงเปิด สีน้ำเงินและสีชมพู จำนวน 10 ถุง ( ถุงละประมาณ 200 เม็ด )
จากนั้นเจ้าหน้าที่ จึงทำการตรวจสอบภายในรถยนต์ที่ผู้ต้องที่ 3 ขับอยู่ขณะเจ้าหน้าที่ เข้าจับกุมผลการตรวจสอบพบอุปกรณ์การเสพยาบ้าตกอยู่ภายในรถ และพบอาวุธปืนสั้นชนิดลูกลูกโม่แบบประดิษฐ์ 1 กระบอก วางอยู่ในช่องเก็บของข้างคนขับ ซึ่งภายในลูกโม่มีเครื่องกระสุนขนาด .38 จำนวน 5 นัด และยังตรวจพบเครื่องกระสุนขนาด .45 จำนวน 6 นัด อยู่ในช่องเก็บของดังกล่าวด้วย
จากการสอบถาม ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ร่วมกันสมัครใจให้การกับเจ้าหน้าที่ ฯ ว่า ได้ร่วมกันไปรับยาบ้าขึ้นมาริมฝั่งแม่น้ำโขงจริง โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยนายเสกสรรค์หรือเสกฯ รับว่า ได้รู้จักกับนายก้อง ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ราษฎร สปป.ลาว โดยติดต่อกันผ่านแอปพลิเคชั่นเฟสบุ๊ค ซึ่งนายก้องฯ ได้ว่าจ้างให้ นายเสกสรรค์หรือเสก ฯ นำยาบ้าไปวางให้ลูกค้าตามจุดต่างๆ ในพื้นที่ จ.อุดรธานี และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งนายเสกสรรค์หรือเสกฯ ได้ทำมาแล้วหลายครั้ง โดยจะได้ค่าจ้างครั้งละ 5,000 - 10,000 บาท ซึ่งครั้งนี้หลังจากรับเอายาบ้ามาแล้ว ก็ถูกเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหา ทั้ง 3 ราย โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า "ร่วมกันมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นการกระทำโดยมีอาวุธ ,เสพติดให้โทษประเภท (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า โดยไม่ได้รับนุญาต ,มีอาวุธปืนและกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,พกพาอาวุธปืนไปในตัวเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร" จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่ง พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป