พม. เร่งช่วยเหลือเด็กหญิงสองพี่น้องถูกชายล่วงละเมิดทางเพศ ที่เขตดอนเมือง กทม.   

 

 

วันนี้ (3 ก.ย. 65) นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะโฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า กรณี การขอความช่วยเหลือเด็กหญิงสองพี่น้องถูกชายซึ่งอาศัยอยู่ในซอยเดียวกันล่วงละเมิดทางเพศ โดยต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเด็กและครอบครัว ที่เขตดอนเมือง กทม. นั้น วานนี้ ( 2 ก.ย. 65) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร. 1300 ร่วมกับบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่เพื่อเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงที่สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง พบมารดาของเด็กอายุ 43 ปี ประกอบอาชีพค้าขาย ซึ่งอาศัยอยู่กับสามี อายุ 32 ปี  ปู่ อายุ 56 ปี และบุตรสาว 2 คน โดยคนโต อายุ 12 ปี เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และคนเล็ก อายุ 11 ปี เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งครอบครัวดังกล่าวอาศัยอยู่ที่บ้านของตนเองลักษณะเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว ในพื้นที่เขตดอนเมือง กทม. 

นางสาวแรมรุ้ง กล่าวต่อไปว่า เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 ครอบครัวทราบว่าบุตรสาวคนโตถูกชาย อายุ 56 ปี กระทำอนาจาร ซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่ในซอยเดียวกัน และบุตรสาวคนเล็กถูกชายคนเดียวกันล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งบุตรสาวคนเล็กได้แจ้งกับครูเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วครูจึงแจ้งให้ครอบครัวทราบ โดยเหตุเกิดตั้งแต่ช่วงที่เด็กเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน ส่วนมารดาและบิดาออกไปประกอบอาชีพนอกบ้าน ซึ่งชายดังกล่าวมีความสนิทสนมคุ้นเคยกับครอบครัวของเด็กทั้งสองคน ได้เข้ามาที่บ้านและกระทำการดังกล่าว ทั้งนี้ ครอบครัวของเด็กได้แจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง และเด็กทั้งสองคนได้เข้ารับการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลในพื้นที่ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 อีกทั้งเด็กได้รับการสอบปากคำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเรียบร้อยแล้ว แต่ปัจจุบัน คดียังไม่มีความคืบหน้า ชายผู้กระทำล่วงละเมิดยังไม่ถูกจับกุมเพื่อดำเนินคดี และเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2565 พนักงานสอบสวนได้รับผลการตรวจทางนิติเวชของเด็กทั้งสองคนจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว และพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำมารดาเพิ่มเติม และจะต้องขอออกหมายจับจากศาลเพื่อดำเนินคดีกับชายผู้กระทำล่วงละเมิดต่อไป

นางสาวแรมรุ้ง กล่าวต่อไปอีกว่า ขณะนี้ครอบครัวดังกล่าวได้ดูแลบุตรทั้งสองคนอย่างเข้มงวดมากขึ้น มารดาและบิดารับผิดชอบการรับ - ส่งบุตรที่โรงเรียน  โดยไม่ปล่อยให้อยู่ที่บ้านเพียงลำพัง และในวันหยุดเรียนมารดาและบิดาจะพาบุตรไปอยู่ที่ร้านขายของด้วย บางครั้งบิดาจะไปขายของคนเดียว ส่วนมารดาดูแลบุตรอยู่ที่บ้าน ส่วนปู่จะออกไปประกอบอาชีพช่วงเวลากลางคืน ทำให้สามารถอยู่ที่บ้านดูแลบุตรได้ในช่วงเวลากลางวัน อีกทั้งครูประจำชั้นให้การดูแลเด็กที่โรงเรียนและประสานกับครอบครัวเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กที่โรงเรียน ทั้งนี้ จากการประเมินเบื้องต้นเด็กทั้งสองคนมีสภาพจิตใจปกติ ไม่พบอาการหวาดกลัว สามารถไปโรงเรียนได้ตามปกติ และครอบครัวสามารถให้การดูแลบุตรทั้งสองคนได้


นางสาวแรมรุ้ง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการช่วยเหลือครอบครัวและเด็กทั้งสองคน กระทรวง พม. จะติดตามการดูแลเด็กของครอบครัว  ประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลในพื้นที่เพื่อการตรวจติดตามร่างกายและประเมินสภาพจิตใจของเด็ก ซึ่งมีการนัดแพทย์เพื่อติดตามเด็กเป็นระยะ และพิจารณาการช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ครอบครัว อีกทั้งช่วยเหลือในการติดตามการดำเนินคดีกับชายผู้กระทำล่วงละเมิด และประสานกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อช่วยเหลือเรื่องผู้เสียหายในคดีอาญาต่อไป ทั้งนี้ ขอให้พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ดูแลเอาใจใส่ ให้ความอบอุ่นแก่บุตรหลานอย่างใกล้ชิด คอยสังเกตพฤติกรรมและพูดคุยสอบถามทุกข์สุขอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นการสร้างเกราะคุ้มภัยที่สำคัญในการป้องกันไม่ให้บุตรหลานของท่านตกเป็นผู้เสียหาย โดยเฉพาะจากผู้ใกล้ชิดที่แสวงหาผลประโยชน์จากเด็ก ซึ่งสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ได้ที่ สายด่วน พม. โทร. 1300  สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดและบ้านพักเด็กและครอบครัวทั่วประเทศ และ Application คุ้มครองเด็ก รวมทั้งอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในพื้นที่

##############