**************

วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม 2565 เวลา 10.00 น. พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี รองประธานกรรมการบริหารโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ เพิ่มเกษร รองเลขาธิการ กปร. และคณะเจ้าหน้าที่สำนักงาน กปร. เดินทางไปยังศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ชมศูนย์ศึกษา พัฒนาความรู้ ดูนิทรรศการ” ครั้งที่ 23 ประจำปี 2565 ภายใต้ชื่องาน “4 ทศวรรษ แห่งการพัฒนา ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สำนักงาน กปร. ร่วมกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ และจังหวัดนราธิวาส จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-22 สิงหาคม 2565 โดยศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ได้ดำเนินงานมากว่า 4 ทศวรรษ มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านการดำเนินงานสนองพระราชดำริ ตลอดจนการศึกษา ค้นคว้า วิจัย และการขยายผลการพัฒนาสู่พื้นที่ของเกษตรกร

โอกาสนี้ องคมนตรีได้มอบรางวัลและเกียรติบัตรแก่ผู้ชนะการประกวดเกษตรกรต้นแบบจากพื้นที่ขยายผลของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ และเยี่ยมชมนิทรรศการ “4 ทศวรรษ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ” ซึ่งเป็นการจัดแสดงรูปแบบการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ และการพัฒนาตามแนวพระราชดำริในแต่ละทศวรรษที่ผ่านมา ได้แก่ ทศวรรษ 1 ศึกษาค้นคว้า วิจัย เพื่อหาต้นแบบในการพัฒนาพื้นที่พรุ ทศวรรษ 2 เผยแพร่องค์ความรู้สู่การพัฒนา ทศวรรษ 3 ขยายผลสู่การพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืนในพื้นที่เป้าหมาย และทศวรรษ 4 ต่อยอดองค์ความรู้สู่การพัฒนา ปวงประชาเป็นสุข จากนั้นเยี่ยมชมนิทรรศการ “พระราชกรณียกิจ 4 ทศวรรษ สายธารแห่งกาลเวลา ปวงประชาเป็นสุข” ได้จัดแสดงนิทรรศการภาพถ่าย และวิดีทัศน์พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบรมวงศานุวงศ์ที่ได้เสด็จมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ในช่วง 4 ทศวรรษ ต่อมาเยี่ยมชมนิทรรศการ “4 ทศวรรษ แห่งการพัฒนา ปวงประชาเป็นสุข” ซึ่งจัดแสดงในรูปแบบนิทรรศการที่มีชีวิต โดยศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ได้มีการดำเนินงานขยายผลการพัฒนาตามแนวพระราชดำริมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 4 ทศวรรษ และนำผลสำเร็จจากงานขยายผลไปพัฒนาในพื้นที่ของเกษตรกร ได้แก่ พื้นที่หมู่บ้านรอบศูนย์ศึกษาฯ พื้นที่ศูนย์สาขา และพื้นที่ที่มีพระราชดำริให้ดำเนินการ ทำให้เกษตรกรสามารถดำรงชีวิตได้อย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของความพอเพียง

ในช่วงบ่าย องคมนตรีได้ร่วมปลูกต้นไม้ ณ สวน 50 ปี ครองราชย์ เพื่อสร้างร่มเงาและความชุ่มชื้นให้แก่พื้นที่ จากนั้นเยี่ยมชมการดำเนินงานของงานป่าไม้ อาทิ ป่าพรุจำลอง การเลี้ยงผึ้งชันโรง เป็นต้น

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้ดำเนินงานตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการดูแล รักษา “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต” ซึ่งเปรียบเสมือนตัวอย่างแห่งความสำเร็จของการศึกษาและการพัฒนา ที่จะสามารถเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่ราษฎร พร้อมทั้งได้เผยแพร่ผลสำเร็จจากการดำเนินงานถ่ายทอดไปสู่พี่น้องประชาชนเพื่อนำไปเป็นต้นแบบปฏิบัติในพื้นที่ของตนเองและชุมชนให้ได้รับประโยชน์สุขโดยทั่วกัน ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้มีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ทั้งการจัดแสดงนิทรรศการ การเสวนา “ทิศทางการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ” การสัมมนา “4 ทศวรรษ การบริหารจัดการป่าพรุโต๊ะแดงอย่างยั่งยืนตามแนวพระราชดำริ” นอกจากนี้ ยังจัดให้มีการฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพ ทั้งในรูปแบบเชิงปฏิบัติการ และรูปแบบออนไลน์ รวม 10 หลักสูตร คือ อบรมเชิงปฏิบัติการ จำนวน 6 หลักสูตร ได้แก่ การแปรรูปปลาร้าสร้างรายได้ เทคนิคการขยายพันธุ์พืชอย่างง่าย การจัดทำข้าวมันไก่เบตง เคล็ด (ไม่) ลับ การทำน้ำยาล้างจาน เยลลี่มัลเบอร์รี่ ทำง่าย ทานอร่อย และจักรสานเครื่องใช้เส้นใยธรรมชาติ อีกทั้ง ยังมีอบรมออนไลน์ จำนวน 4 หลักสูตร ได้แก่ การปรับปรุงดินเปรี้ยวจัดเพื่อปลูกพืชผัก การปลูกไม้ดอกไม้ประดับอย่างง่าย ชันโรง ผึ้งจิ๋ว รายได้แจ๋ว และเห็ดฟาง เพาะง่าย รายได้งาม นอกจากนี้ ยังมีการจัดประกวดเกษตรกรต้นแบบในพื้นที่ขยายผลศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ การประกวดผลผลิตทางการเกษตร และจัดให้มีการบริการเกษตรกรทางแอพพลิเคชั่น ในด้านองค์ความรู้เกี่ยวกับดิน พืช ปศุสัตว์ และการสาธารณสุข รวมถึงมีตลาดจำหน่ายผลิตผลทางการเกษตรของเกษตรกรในพื้นที่ขยายผล ผลิตผลและสินค้าแปรรูปอื่น ๆ ของโครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมทั้งการให้บริการนั่งรถลากพ่วงเยี่ยมชมงานในทุกวันตลอดการจัดงานอีกด้วย

การดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริแห่งนี้ คือตัวอย่างแห่งความสำเร็จในการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ ที่สามารถให้ประชาชนในพื้นที่ได้เข้ามาเรียนรู้ และนำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตของตนเอง รวมทั้งสามารถนำไปสู่การพึ่งตนเองได้ยั่งยืนต่อไป

กองประชาสัมพันธ์
สำนักงาน กปร.