ศรีสะเกษ นายก อบจ.เปิดโครงการค่ายดนตรี กวี ศิลป์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะความรู้ด้านดนตรี ด้านกวี และด้านศิลปะ ให้กับเด็กและเยาวชน ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้ความสนใจในเรื่องนี้ให้มาก ก็จะเป็นการลดปัญหาเด็กและเยาวชนได้เป็นอย่างดี   

 

เมื่อวันที่ 13 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ร.ร.บ้านพราน (ประชานุเคราะห์) ต.พราน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ นายวิชิต  ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการค่ายดนตรี กวี ศิลป์ ประจำปี 2565 ซึ่ง อบต.พราน ร่วมกับ ร.ร.บ้านพราน และมูลนิธิ พศช.ได้ร่วมกันจัดทำโครงการนี้ขึ้นมา โดยจัดกิจกรรมขึ้นในระหว่างวันที่ 13 – 14 ส.ค. 65  โดยมี นายปริน วิลา นายก อบต.พราน ประธานจัดโครงการค่ายดนตรี กวี ศิลป์ ประจำปี 2565 เป็นผู้กล่าวรายงาน และมี นายเกียรติคุณ สืบหล้า ผอ.ร.ร.บ้านพราน (ประชาสงเคราะห์) พร้อมด้วย นายเกษมศานต์  ศรีโพนทอง  ผอ.มูลนิธิ พศช.และรองประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ศรีสะเกษ นายจักรกฤษ สายป้อง ผอ.กองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อบต.พราน นางราตรี บัญชา นักวิชาการศึกษา อบต.พราน  คณะกรรมการจัดงาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภา อบต.พราน ให้การต้อนรับ

นายปริน  วิลา  นายก อบต.พราน  กล่าวว่า  ดนตรี กวี ศิลปะ มีบทบาทสำคัญในการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการแสดง การฟัง การพูด การเขียน ล้วนเป็นสื่อกลางที่สำคัญมากในยุคปัจจุบัน รวมถึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของเด็กแต่ละช่วงวัย ช่วยส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ฝึกฝนทักษะทางด้านภาษา อบต.พราน จึงได้จัดโครงการค่ายดนตรี กวี ศิลป์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะความรู้ด้านดนตรี ด้านกวี และด้านศิลปะ ให้กับเด็กและเยาวชน เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้รับการเพิ่มพูนศักยภาพในการสร้างสรรค์งานศิลป์ตามความถนัดของตนเอง เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์ สร้างแหล่งเรียนรู้นำไปสู่การสร้างเสริมทักษะชีวิตในการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสงบสุข มีระเบียบวินัย พึ่งพาอาศัยระหว่างกันและกัน การจัดงานครั้งนี้ จัดเป็นค่ายกิจกรรม ๔ ค่าย ประกอบด้วย ค่ายดนตรี ค่ายกวี ค่ายศิลปะ และค่ายนักเขียน โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กและเยาวชน อายุ 11 – 12 ปี จำนวน 120 คน คณะครู ร.ร.ในเขต ต.พราน จำนวน 10 แห่ง 

นายวิชิต  ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า  โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก เพราะว่าเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเด็กก้าวร้าวที่อาจจะเกิดจากความเครียด จากปัญหาภายในครอบครัวซึ่งอาจจะนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งกันได้ ซึ่งตนได้ให้ลูกทุกคนให้เรียนดนตรี ให้สนใจในดนตรีใครชอบอะไรเช่นใครชอบกีตาร์ก็ให้ไปเรียนกีตาร์ ใครชอบเปียโนก็ให้ไปเรียนเปียโน เมื่อเขารับสิ่งนี้มาแม้ว่าจะไม่ใช่มืออาชีพ แต่สามารถเล่นดนตรีไปกับพรรคพวก สำคัญคือทำให้เด็กสนุกเข้ากับพรรคพวกได้  ในช่วงเวลาที่เค้าว่างมาจับกลุ่มกันเล่นดนตรีร้องเพลงบ้าง ซึ่งมองดูแล้วทุกคนที่สนใจดนตรีก็จะไม่มีปัญหาในเรื่องของการทะเลาะเบาะแว้ง ในเรื่องการชกต่อยกัน ปัญหาวัยรุ่นในสังคมไทยก็จะหมดไป ต้องขอบคุณทางวิทยากรและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ได้คิดทำโครงการนี้ขึ้นมา การส่งเสริมอาจจะน้อยหน่อยก็อยากเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้ความสนใจในเรื่องนี้ให้มาก ก็จะเป็นการลดปัญหาเด็กและเยาวชนได้เป็นอย่างดียิ่ง/////

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ