กลุ่มวิสาหกิจวอน ม.แม่โจ้ ชี้แจงเหตุโครงการช่วยเหลือเกษตรกรไม่คืบหน้า ทั้งที่รัฐบาลจัดสรรงบให้แล้ว หากล่าช้าเตรียมบุกทวงถาม กลุ่มวิสาหกิจวอนโอดครวญ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เตะถ่วงโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพฯ ตั้งตาตารอกว่า 2 เดือน ไม่มีความคืบหน้า ทนไม่ไหวเตรียมยกพลบุกทวงถามคำตอบเร็ววันนี้  

 

นายสมชาย ศิริกุลพันธ์ ผู้ประสานงานวิสาหกิจชุมชนภาคเหนือ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นตัวแทนวิสาหกิจในภาคเหนือ ได้มีโอกาสได้เข้าร่วมประชุมในการที่คณะกรรมการสภา ร่วมกับ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้แก่เกษตรกรไทยฝ่าวิกฤติโควิด-19 ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรมสมัยใหม่ (Modern Agriculture - BCG) หลังจากที่ได้รับฟังจากการชี้แจงจากเจ้าของโครงการมหาวิทยาลัยแม่โจ้และผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน มีความรู้สึกว่ามหาวิทยาลัยยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของการผลักดันโครงการอาชีพในการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างแท้จริง 

โดยการประชุมในครั้งนี้ตามที่ได้รับฟัง มองว่ามันเป็นเพียงแค่การพูดอ้างว่ากลัวว่าโครงการจะนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ในฐานะที่เป็นกลุ่มวิสาหกิจมองว่าสิ่งที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้กำลังทำอยู่ในตอนนี้ ถือว่ามหาลัยได้นำสิ่งที่ดีมอบให้กับกลุ่มวิสาหกิจเพื่อประกอบอาชีพในช่วงสถานการณ์โควิคอย่างแท้จริง และสามารถตอบสนองได้ตามที่เจ้าของโครงการหรือมหาลัยได้นำไปเสนอกับครบ แต่สิ่งหนึ่งที่ อยากจะถามกับทางมหาลัยว่า มหาลัยแม่โจ้เป็นสถาบันด้านวิชาการและให้ความรู้กับกลุ่มเกษตรกรอย่างแท้จริง แต่ทำไมการทำงานหรือการจะทำใดๆนั้น ถึงมีข้อจำกัดมากเหลือเกิน ทั้งๆที่เป็นประโยชน์กับเกษตรกรอย่างแท้จริง 

ในเมื่อคณะรัฐมนตรีได้มอบให้มหาลัยแม่โจ้นำโครงการนี้ไปช่วยเหลือพี่น้องกลุ่มวิสาหกิจทั่วประเทศ 5000 กว่ากลุ่ม ซึ่งเป็นประโยชน์โดยตรง และไม่ต้องผ่านหน่วยงานใดที่ซับซ้อนเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ที่ผ่านมายังไม่เคยมีรัฐบาลใดเคยช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรงอย่างการส่งเสริมอาชีพแบบนี้มาก่อน ในเมื่อคณะรัฐบาลให้ความสำคัญโดยผ่านมาทางมหาวิทยาลัยเพื่อให้มาส่งเสริมช่วยเหลือเกษตรกร จึงมองว่าเป็นเรื่องที่ดีและถูกต้องตามวัตถุประสงค์ 

นายสมชาย ศิริกุลพันธ์ ผู้ประสานงานวิสาหกิจชุมชนภาคเหนือ กล่าวต่อว่า ต้องการอยากจะถามทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผ่านท่านอธิการบดีว่า ทำไมโครงการดีๆ แบบนี้ จะเริ่มดำเนินการได้เมื่อไหร่ ซึ่งทางพี่น้องวิสาหกิจต่างก็ตั้งตารอกันอยู่ และเป็นโอกาสดีที่ทางมหาลัยจะได้ส่งเสริมอาชีพ และใช้องค์ความรู้ ความสามารถที่มหาลัยมีอยู่ไปถ่ายทอดให้ชาวบ้านอย่างแท้จริง สมกับเป็นมหาลัยเกษตรแม่โจ้ มหาลัยที่เป็นมหาลัยส่งเสริมวิชาการอย่างแท้จริง อยากให้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งเป็นองค์กรที่รวบรวมบรรดานักวิชาการที่มีความรู้ความสามารถต่างๆ มีอุดมการณ์และมีความตั้งใจอย่างแท้จริง โดยเห็นประโยชน์ของเกษตรกรเป็นที่ตั้ง ถ้าสิ่งที่มหาวิทยาลัยทำให้กับชาวบ้านหรือชุมชนกลุ่มวิสาหกิจต่างๆ เป็นสิ่งที่ถูกต้องโดยชอบธรรมแล้ว ทำไมไม่ใช้โอกาสตรงนี้ นำเอาศักยภาพ และองค์ความรู้ที่มี ไปถ่ายทอดให้กับชาวบ้าน ให้สมกับเป็นสถาบันที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรอย่างแท้จริง 

ผู้ประสานงานวิสาหกิจชุมชนภาคเหนือ กล่าวในตอนท้ายว่า อยากให้มหาลัยแม่โจ้มีคำตอบให้ชัดเจนว่า เมื่อรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณลงให้ท่านแล้ว ท่านจะนำมาใช้เมื่อไหร่ เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ซึ่งตอนนี้กำลังเจอกับปัญหาเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโรคโควิดอย่างนี้  ต้องรีบแก้ไขและใช้ประโยชน์ให้เต็มที่ ในฐานะตัวแทนวิสาหกิจภาคเหนือ จึงขอรับคำตอบจากท่าน และอยากจะถามว่าจะได้รับคำตอบอย่างไร โครงการจะเริ่มได้เมื่อไหร่ เพื่อให้พี่น้องวิสาหกิจได้รับทราบกันทั่วประเทศว่ามหาลัยแม่โจ้จะสามารถดำเนินการโครงการนี้ได้อย่างรวดเร็ว เกิดประโยชน์ และตรงวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง 

นายเตชินท์ชัย ผาริบุตร ผู้ประสานงานวิสาหกิจชุมชนภาคอีสาน กล่าวว่า ทราบข่าวว่ารัฐบาลอนุมัติงบประมาณเพื่อช่วยเหลือพี่น้องวิสาหกิจโดยผ่านมหาลัยแม่โจ้ พี่น้องเกษตรกรต่างพากันดีใจที่จะได้มีการสร้างงาน สร้างรายได้ ตามที่รัฐบาลจัดสรรให้มา คิดว่าหากได้งบประมาณหรือโครงการต่างๆ ตามที่ประชาชนได้รวมกลุ่มจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เพื่อที่จะได้งบประมาณไปสร้างอาชีพสร้างรายได้ตามวัตถุประสงค์ของแต่ละกลุ่มที่จดทะเบียนไว้ ได้รวมตัวกันยื่นเอกสารเพื่อขอรับการสนับสนุนตามโครงการไปยังมหาวิทยาลัยแม่โจ้  ขณะนี้เวลาล่วงเลยผ่านมานานหลายเดือนแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าของโครงการนี้จากทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้แต่อย่างใด กลุ่มวิสาหกิจชุมชนภาคอีสาน จึงใคร่วิงวอนให้ทางมหาลัยแม่โจ้ ได้เร่งดำเนินการตามโครงการเพื่อประโยชน์ของพี่น้องวิสาหกิจ ที่ตั้งตารอความหวัง รอรับการความช่วยเหลือ 

นายเตชินท์ชัย กล่าวต่อว่า พวกเราได้เห็นผู้คนไปประท้วงไปเรียกร้องกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอความเป็นธรรมและของบประมาณ ก็มีความรู้สึกหดหู่น่าสงสาร และเข้าใจ แต่วันนี้รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณมาให้กับทางมหาลัยแม่โจ้แล้ว พี่น้องวิสาหกิจทุกกลุ่มทั่วประเทศไทยก็ได้ทราบข่าวต่างพากันดีใจ ขอฝากไปยังท่านอธิการบดีและผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ช่วยโปรดเมตตารีบดำเนินโครงการเพื่อพี่น้อง ประชาชนทั่วทั้งประเทศจะได้ลืมตาอ้าปาก มีรายได้เพิ่ม ช่วยสร้างรายได้ และช่วยสร้างอาชีพให้กับชาวบ้านวิสาหกิจด้วย

ด้าน นางกชพร โฆษิตคณิน ผู้ประสานงานวิสาหกิจชุมชนภาคกลาง กล่าวว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนภาคกลางต่างพากันดีใจ ที่ทราบข่าวว่ามหาวิทยาลัยแม่โจ้ว่า จะมาถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 ซึ่งเป็นสิ่งที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนคาดหวังไว้มาก ที่จะได้นำความรู้ดังกล่าวไปยกระดับ พัฒนาตนเอง และสร้างอาชีพให้แก่สมาชิกของกลุ่มเกษตรกร เพราะปัจจุบันเราได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ต่างมีความเดือดร้อน ผลผลิตทางการเกษตรราคาก็ตกต่ำมาก ลูกหลานตกงานถูกเลิกจ้าง ต้องกลับบ้านเกิดเมืองนอน มาอาศัยพ่อแม่ ความรู้ด้านการเกษตรที่มีก็ทำตามประสาปู่ย่า ตายาย สอนกันมาทำให้ได้ผลผลิตไม่ดีเท่าที่ควร เงินจะซื้อปุ๋ยซื้อยามาใส่พืชผัก ไม้ผล ก็มีราคาแพง คิดจะนำใช้วัสดุเหลือใช้ในไร่ในสวนมาทำกันเอง ก็ทำไม่เป็นจะไปเรียนก็ไม่มีเงินก็ ลูกหลานเปิดยูทูปดีก็ไม่เข้าใจ เหมือนไปเรียนกับผู้รู้ เงินที่มีต้องเก็บไว้ใช้จ่ายภายในบ้านก็ไม่เพียงพอกับความเป็นอยู่เนื่องจากรายจ่ายมากกว่ารายได้
          
“พอทราบข่าวว่าทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้จะมาถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆให้ ทั้งด้านการเกษตร ด้านพืช ด้านการเลี้ยงสัตว์ และการทำปุ๋ยอินทรีย์ ทุกคนต่างดีใจและมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งว่าทุกคนรอดแล้ว ต่างเฝ้ารอด้วยความหวังด้วยใจจดจ่อ แต่ก็เงียบมาโดยตลอด สองเดือนแล้วที่รอมาด้วยความหวัง”
           
ผู้ประสานงานวิสาหกิจชุมชนภาคกลาง กล่าวต่อว่า ได้โทรไปสอบถามผู้ประสานงานโครงการฯ ก็ได้รับคำตอบว่าให้รอไปก่อน สาเหตุล่าช้าเพราะมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายเงินงบประงาน ก็ไม่เข้าใจว่ารัฐบาลได้มอบเงินให้กับมหาวิทยาลัยเพื่อนำมาอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้ และสร้างเครือข่ายให้กับสมาชิกเกษตรกรได้รับความรู้เพื่อเติมเต็ม สร้างรายได้ เพิ่มมูลค่าผลผลิต อยากจะถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันติดขัดตรงไหนเคยถามความรู้สึก ความต้องการของชาวบ้านไหม ว่าขณะนี้เขาเดือดร้อนกันมากแค่ไหน คนที่มีเงินเดือนไม่เคยรู้หรอกว่า ชาวบ้านขณะนี้แต่ละครอบครัวมีความลำบากขนาดไหน พวกเราอยากได้ความรู้ เพื่อนำมาต่อยอด พัฒนาอาชีพกัน ภาระหนี้สินก็มากล้น ไหนครอบครัวลูกหลานอีก ถ้ามีทุนปลูกผักกิน เลี้ยงสัตว์เองได้ก็คงประหยัดได้มากแต่ก็ทำไปตามยถากรรม

นางกชพร โฆษิตคณิน กล่าวต่อว่า พวกเรารอมานานแล้วจึงต้องออกมาทวงถามว่าจะจัดอบรมให้ชาวบ้านได้เมื่อไหร่ และติดขัดปัญหาอะไร ช่วยชี้แจงให้ชาวบ้านได้รับความกระจ่างหน่อยได้ไหม เงินรัฐบาลก็ให้มาแล้ว ทำไมไม่เบิกออกมาทำงานสักที หรืออยากให้ชาวบ้านรวมตัวกันเข้าไปเยี่ยมท่านผู้บริหารเพื่อไปทวงถามคำตอบก็ได้ หากชาวบ้านรอคำตอบไม่ไหว พวกเราทั้งหมดก็คงขอเข้าไปพบท่านผู้บริหารมหาวิทยาลัย เพื่อไปทวงถามโครงการที่รัฐบาลได้มอบหมายให้ทางมหาวิทยาลัยได้มาดำเนินการถ่ายทอดความรู้ และดูแลช่วยเหลือชาวบ้าน ในเร็ววันนี้