ศรีสะเกษ คืบหน้าแม่โดนกระชากสร้อยขับรถตามคนร้ายประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตญาติฌาปนกิจศพแล้ว ลูกสาววอนเร่งตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่นางสมจิตร ธรรมศิริ อายุ 47 ปี ถูกคนร้ายกระชากสร้อยคอทองคำแล้วคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปนางสมจิตรได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามคนร้ายไปอย่างกระชั้นชิดและได้ประสบอุบัติเหตุรถเสียหลักพุ่งชนกำแพงบ้านของชาวบ้านเสียชีวิต
ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2565 ที่วัดบ้านกลางตำบลขะยูง อำเภออุทุมพรพิสัยจังหวัดศรีสะเกษ นายยุทธนา ธรรมศิริ สามีของนางสมจิตร ได้ร่วมกับบรรดาญาติพี่น้อง พากันประกอบพิธีฌาปนกิจศพของนางสมจิตรซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศกและอาลัยนางสมจิตรที่เสียชีวิตอย่างกระทันหันมีบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านพากันมาร่วมพิธีศพจำนวนมากโดยนางสาวนาตยา ธรรมศิริ ซึ่งเป็นลูกสาวของนางสมจิตรได้ถือรูปของนางสมจิตร ด้วยความอาลัยรักแม่ของตนเองเป็นอย่างมาก ขณะที่แม่ของนางสมจิตรและแม่สามีของนางสมจิตร นั่งนิ่งเงียบไม่ยอมพูดจากับผู้ใดเนื่องจากเศร้าเสียใจอย่างหนักมาก ส่วนลูกสาวคนเล็กของนางสมจิตรยังไร้เดียงสาไม่ทราบว่าแม่ของตนได้จากไปแล้วยังคงวิ่งเล่นพูดคุยกับผู้ที่มาร่วมงานตามประสาเด็กทำให้ผู้ที่มาร่วมงานพากันสงสารเด็กหญิงตัวเล็กๆที่ต้องมากำพร้าแม่ไปอย่างกระทันหันแบบนี้
นางสาวนาตยา ธรรมศิริ อายุ 28 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่าขณะนี้คดีความมีความคืบหน้าไปมากเนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆที่คาดว่าเป็นเส้นทางที่เกิดเหตุและเป็นเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีไปซึ่งตนพยายามประสานงานกับร้อยเวรเจ้าของคดีเพื่อขอให้เร่งรัดคดีนี้ตนต้องการให้จับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยด่วนที่สุดเพราะไม่ต้องการให้คนร้ายไปก่อกรรมทำเข็ญกับประชาชนผู้บริสุทธิ์คนอื่นๆอีกต่อไปตนอยากให้กรณีแม่ของตนเป็นรายสุดท้ายที่ถูกคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์มากระชากสร้อยคอทองคำไป
ทางด้านพันตำรวจเอกณัฐกิตติ์ เจริญเกษสุวรรณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษกล่าวว่าตนได้ติดตามเรื่องคดีนี้ด้วยตนเองโดยได้กำชับเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวนเร่งหาพยานหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจนมากคาดว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ในเร็วๆนี้/////
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ