พม. ศรีสะเกษ ช่วยเหลือแล้ว กรณีหญิง อายุ 51 ปี ถูกจับ เพราะขโมยนมกล่องให้ลูกพิการกิน อ้างไม่มีเงินซื้อ  

 


วันนี้ (19 ก.ค. 65) เวลา 11.00 น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ นางพัชรี อารยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เปิดเผยว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าว กรณีการจับกุมและดำเนินคดี หญิงวัย 51 ปี ขโมยนมกล่อง 3 กล่อง จากร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยอ้างว่าจะนำไปให้ลูกที่ป่วยพิการกิน เพราะไม่มีเงินซื้อ นั้น เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 65 กระทรวง พม. โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า หญิงผู้ก่อเหตุดังกล่าวป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ตั้งแต่ปี 2563 โดยต้องรับยาทุกๆ 3 เดือน และมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขณะนี้ ไม่ได้ประกอบอาชีพผู้ช่วยพ่อครัว ซึ่งมีรายได้วันละ 350 บาท เนื่องจากได้ลาออกหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว อาศัยอยู่กับสามี อายุ 48 ปี เป็นผู้หารายได้หลัก เดือนละ 6,000 บาท และลูกสาว อายุ 15 ปี พิการทางร่างกายและการเคลื่อนไหว มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยยังชีพคนพิการ เดือนละ 1,000 บาท อีกทั้งป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เคยทำร้ายร่างกายตัวเอง ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ขณะนี้ กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งไม่ได้เข้าเรียนมาประมาณ 1 สัปดาห์  โดยอ้างว่าถูกเพื่อนในโรงเรียนล้อเลียน และมีอากาหวาดระแวงโดยอยากย้ายห้องเรียนหรือไปเรียนโรงเรียนอื่น นอกจากนี้ ครอบครัวดังกล่าวอาศัยอยู่ในบ้านสภาพเก่าทรุดโทรมของบิดาเลี้ยงที่เสียชีวิตแล้ว มีร่วมกับเครือญาติอีก 2 ครอบครัว รวม 10 คน 


นางพัชรี กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ กระทรวง พม. ได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือต่างๆ ดังนี้ 1) ด้านสุขภาพ  สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษจะประสานโรงพยาบาลในเรื่องการรักษาอาการโรคซึมเศร้าของหญิงผู้ก่อเหตุพร้อมบุตร และปรึกษาการแก้ปัญหาด้านพฤติกรรมการลักเล็กขโมยน้อยของหญิงผู้ก่อเหตุ 2) ด้านเศรษฐกิจและรายได้  หน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. เคยให้การช่วยเหลือเป็นเงินกู้ยืมจากเงินกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จำนวน 40,000 บาท โดยไม่คิดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจากการเยี่ยมบ้านครั้งนี้จะพิจารณาให้การช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง อีกทั้งภาคเอกชนได้ร่วมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นและเงินจำนวนหนึ่ง  3) ด้านการศึกษา จะดำเนินการร่วมกับสำนักงานเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ประสานและพูดคุยกับผู้บริหารโรงเรียนของเด็ก เพื่อพิจารณาแนวทางในการช่วยเหลือด้านการศึกษาต่อไป  4) ด้านที่อยู่อาศัย จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือในการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ ในปีงบประมาณ 2566 พร้อมทั้งจะประสานภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาหาแนวทางในการช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยต่อไป และ 5) ด้านการดำเนินคดี  จะประสานติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินคดี

##########