ศรีสะเกษ ตระกูลรุ้งแก้วปลูกต้นมะเกลือสมุนไพรโบราณเฉลิมพระเกียรติวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ครบ 70 พรรษา วันที่ 28 ก.ค. 2565
เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนไผ่พันกอ บ้านโนนดั่ง ต.หนองแก้ว อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายทิวา รุ้งแก้ว ประธานชมรมคนรักในหลวง จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายวิวัฒน์ รุ้งแก้ว อดีตกรรมการสภาการศึกษา นางสุวคนธ์ รุ้งแก้ว อดีตข้าราชการครู ร.ร.สตรีสิริเกศ นายเกษมศานต์ ศรีโพนทอง ผู้อำนวยการมูลนิธิ พศช.และรองประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ศรีสะเกษ และบุตรหลานตระกูลรุ้งแก้ว ได้รับความเมตตาจาก พระครูผาสุกิจโกศล เจ้าอาวาสวัดบ้านโนนดั่งและที่ปรึกษาเจ้าคณะ จ.ศรีสะเกษ นำผู้ใหญ่บ้าน 4 หมู่บ้านประกอบด้วย นายสุริยัน เขตสกุล ผญบ.บ้านโนนดั่ง นายสุพล โลภากรณ์ ผญบ.บ้านโพนวัว นายเพียร รุ้งแก้ว ผญบ.บ้านโนนสว่าง นายบริบูรณ์ จันเทวา ผญบ.บ้านโนนอีปัง ได้นำชาวบ้าน 4 หมู่บ้านมาร่วมกันปลูกต้นมะเกลือเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 70 พรรษา วันที่ 28 ก.ค. 2565 และเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลแด่คุณพ่อเลิศ รุ้งแก้ว และคุณแม่พิลา รุ้งแก้ว โดยทำการปลูกต้นมะเกลือจำนวน 100 ต้น ลงในบริเวณสวนไผ่พันกอแห่งนี้ ซึ่งมีการปรับพื้นที่เพื่อทำการปลูกต้นมะเกลืออย่างเหมาะสมกับการปลูกต้นมะเกลือสมุนไพรโบราณเป็นอย่างมาก
นายวิวัฒน์ รุ้งแก้ว อดีตกรรมการสภาการศึกษา กล่าวว่า สวนป่าต้นมะเกลือที่ตนและคณะได้ปลูกขึ้นมานี้ ในอนาคตจะเป็นประโยชน์มาก เพราะว่าต้นมะเกลือ ผลดิบเป็นยาฆ่าพยาธิ ผลดิบใช้ทำสีดำย้อมผ้าไหม ผลสุกเป็นอาหารของคนและสัตว์ ต้นมะเกลือเป็นไม้เนื้อแข็งมีแก่นเป็นสีดำใช้ทำเฟอร์นิเจอร์และสร้างบ้านได้ สำหรับต้นกล้าต้นมะเกลือที่นำมาปลูกตนได้เพาะเลี้ยงไว้ 2 ปี จึงได้นำมาปลูก โดยคาดหวังว่าทุกต้นที่ปลูกจะเจริญเติบโตเป็นสวนป่าให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ประโยชน์ในการทำสีย้อมไหมเพื่อสืบทอดภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ปีนี้ได้ตั้งเป้าจะปลูกให้ได้จำนวน 1,110 ต้น
นายทิวา รุ้งแก้ว ประธานชมรมคนรักในหลวง จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ตระกูลรุ้งแก้วตั้งใจจะจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ 70 พรรษามหาวชิราลงกรณ์นั่นคือวัตถุประสงค์หลัก วัตถุประสงค์ที่ 2 ก็คือวันนี้เรามาปลูกต้นมะเกลือนั้น ได้รับความสมัครสมานสามัคคีจากพี่น้องทั้ง 4 หมู่บ้านคือบ้านโนนดั่ง บ้านโนนอีปัง บ้านโนนสว่างและบ้านโพนวัว และวัตถุประสงค์ที่ 3 คือเป็นเรื่องการอนุรักษ์พันธุ์พืชโดยเฉพาะต้นมะเกลือซึ่งเป็นพืชสมุนไพรในสมัยก่อนโน้นสมัยปู่ย่าตายาย เราใช้ผลมะเกลือกินเพื่อถ่ายพยาธิโดยไม่รู้สึกตัว คนรุ่นปู่รุ่นย่าก็จะรอดจากการเป็นโรคพยาธิเพราะได้ผลมะเกลือ ประการที่ 4 ต่อมาก็คือเรื่องสมุนไพรจะใช้ในเรื่องของการรักษาโรคคันภาษาอีสานเรียกว่า โรคฮังก้า โดยจะใช้ผลมะเกลือไปทาก็จะทำให้หายคัน ต้องขอบคุณผู้มีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ซึ่งโครงการนี้จะปลูกต้นมะเกลือจำนวน 1,110 ต้นซึ่งการลงท้ายด้วย 10 ก็คือพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ซึ่งเราทุกคนเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์
นายทิวา รุ้งแก้ว ประธานชมรมคนรักในหลวง จ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า ตนและครอบครัวต้องขอขอบคุณ ผอ.ร.ร.หลายแห่งทั้งระดับประถมและมัธยมที่ร่วมโครงการนี้ โดยในบริเวณนี้ได้รับความเมตตาจากพระครูผาสุกิจโกศล ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ มาช่วยในการดูแลปลูกต้นไม้ และอีกคณะหนึ่งที่ต้องขอบคุณคือมูลนิธิพัฒนาการศึกษาเพื่อชุมชนหรือมูลนิธิ พศช.ซึ่งทุกครั้งที่เราทำงานก็ได้ให้การสนับสนุนเกื้อกูลซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะในช่วงนี้มูลนิธิ พศช.ก็ได้ให้ขนมจีนมา โดยให้ชุมชนทำน้ำยาขนมจีน ขอบคุณพี่น้องทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งโครงการนี้เป็นความคิดของคุณครูวิวัฒน์ รุ้งแก้ว ต้องการให้เป็นความตั้งใจของตระกูลรุ้งแก้ว ที่ต้องการจะทำกิจกรรมนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 70 พรรษา วันที่ 28 ก.ค. 2565 และเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลแด่คุณพ่อเลิศ รุ้งแก้ว และคุณแม่พิลา รุ้งแก้ว ///////
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ