ลึกกว่า 20 เมตร ขุดดินนิคมสร้างตนเองถมเขื่อน อดีต นายก อบต.ถือครองรังวัด
จากการที่มีสื่อออนไลน์ลงข่าวว่า นายทุนลักลอบขุดดินที่อดีตนายกอบต.ขาย ซ้ำอ้างเป็นสื่อฯเรียกเงินผู้รับเหมา เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2565 สื่อมวลชนเข้าตรวจสอบพื้นที่นิคมสร้างตนเองโพนพิสัย ภายหลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบขุดดินในพื้นที่ของ อดีต นายก อบต.บ้านต้อน อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ขายให้โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง โดยจุดที่สื่อมวลชนลงตรวจสอบอยู่ในพื้นที่ หมู่ 4 บ้านดงหอ กับหมู่ 8 บ้านเปงจานนคร ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีการปล่อยน้ำเข้าท่วมจุดที่ลักลอบขุดดินแล้ว โดยตรวจสอบความลึกวัดได้กว่า 15 เมตรชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่าก่อนหน้านี้พบมีผู้บุกรุกนำรถแบ็กโฮและรถบรรทุกมาไว้ขุดหน้าดินเพื่อนำไปจำหน่าย ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า มี นายทุนรายใหญ่ที่ว่าจ้างคนงานนำเครื่องจักร รถแบ็กโฮและรถบรรทุกเข้าไปลักลอบขุดดินในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อนำไปขายให้โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง ในพื้นที่ ต.บ้านต้อน อ.รัตนวาปี ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวได้ถูกลักลอบขุดหน้าดินไปแล้วกว่า 6 ไร่ จากการตรวจสอบทางกายภาพของพื้นที่ พบว่า มีการใช้รถแบ็กโฮขุดผิวดินในลักษณะตั้งฉาก มีความลึกจากพื้นดินประมาณ 50 เมตร ซึ่งการขุดดินในลักษณะนี้จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในด้านการเกิดดินถล่มแบบแลนด์สไลด์ ในกรณีที่เกิดฝนตกหนัก จากการตรวจสอบของสื่อมวลชนพบว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่รับผิดชอบของนิคมสร้างตนเองโพนพิสัย ที่จัดสรรที่ดินทำกินให้กับชาวบ้าน ภายหลังมีการจัดสรรที่ดินให้ชาวบ้านเพื่อทำการเกษตรปรากฏว่า ชาวบ้านบางคนได้ร่วมมือกับนายทุนและผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ลักลอบขุดดินไปขาย เพื่อส่งให้กับโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง ในพื้นที่ ต.บ้านต้อน
ผู้สื่อข่าวยังได้รับทราบข้อมูลเชิงลึกอีกว่า มีกลุ่มบุคคลอ้างตัวเป็นสื่อมวลชน ได้เข้ามาตรวจสอบการลักลอบขุดดินดังกล่าว แต่ได้มีการเจรจากับผู้รับเหมาด้วยการจ่ายเงินให้โดยกลุ่มคนดังกล่าวยังอ้างอีกว่ามาจากสมาคมสื่อมวลชนระดับประเทศ (สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย) โดยมักจะทำหนังสือร้องเรียนตามหน่วยงานต่าง ๆ โดยลงชื่อสมาชิกสมาคมฯ ดังกล่าวเป็นประจำซึ่งสร้างความเสื่อมเสียให้สมาคมฯ ดังกล่าวเป็นอย่างมาก
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เข้าตรวจสอบจุดก่อสร้างโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง พื้นที่ ต.บ้านต้อน อ.รัตนวาปี พบว่าจุดที่มีการลักลอบนำดินมาถมในพื้นที่โครงการฯ มีระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร และใช้ดินมาถมจุดดังกล่าวในปริมาณมากโดยพบว่ามีคนงานจำนวนหนึ่งทำงานตามปกติ สอบถามคนงานไม่ทราบว่าดินที่นำมาถมในโครงการฯ ไม่รู้นำมาจากไหน
ทั้งนี้ นายธงชัย บุตรวงษ์ นายอำเภอรัตนวาปี เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่าภายหลังที่ทราบเรื่องได้สั่งการให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างไม่มีการละเว้น เนื่องจากพื้นที่ที่ลักลอบขุดดินเป็นพื้นที่สาธารณะชัดเจน.
จากข่าวดังกล่าวสร้างความเสื่อมเสียให้กับ สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สนพท.) เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายก สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สนพท.) มอบหมายให้ นายกิตติศักดิ์ ศิริคลังเจริญรุ่ง บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ คู่แผ่นดิน และเป็น นายทะเบียน สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สนพท.) ลงพื้นที่แสวงหาความจริง ทราบว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของนิคมสร้างตนเองเปงจาน โดยมี นางถวิล แพงโคตร อดีตนายก อบต.บ้านต้อน เป็นผู้ถือครองรังวัด ได้ขายดิน โดยขุดดินในพื้นที่เขตนิคมฯ เคลื่อนย้ายดินไปที่ บริเวณหมู่ที่ 3 บ้านดอนเหมือด ตำบลบ้านต้อน อำเภอรัตนวาปี จังหวัดหนองคาย จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่แปลงดังกล่าวอยู่ในเขตพระราชกฤษฎีกานิคมสร้างตนเองโพนพิสัยจังหวัดหนองคาย ซึ่งอยู่ในการครอบครองทำประโยชน์ของนางถวิล แพงโคตร อดีตนายก อบต.บ้านต้อน (แต่ยังไม่ได้รับอนุญาต) ซึ่งตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าทำประโยชน์ ยึดถือ ครอบครองปลูกสร้าง ก่นสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดินหรือทำให้เป็นอันตรายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในที่ดินเขตนิคม เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี
กรณีดังกล่าว นางจินตนา แสนดี ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองเปงจาน ได้เข้าแจ้งต่อเจ้าพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรรัตนวาปี แล้ว และจะดำเนินการตรวจสอบความลึกของบ่อดินดังกล่าวว่ามีความลึกจริงกี่เมตรเนื่องจากมีน้ำจำนวนมาก