ศรีสะเกษ ตร.กันทรลักษ์จับสาวแสบหลอกขายทุเรียนภูเขาไฟและสินค้าออนไลน์ทั่วประเทศ  ตามหมายจับ 4 ศาลมีผู้เสียหายจำนวนมาก รับสารภาพหลอกขายสินค้าออนไลน์มาตั้งแต่ปี 2562 มีเงินผ่านบัญชีกว่า 300,000 บาท  

 

เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณห้องเช่าแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ หมู่ 5 ต.น้ำอ้อม อ.กันทรลักษ์                                   จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.นรินทร์  บุพตา  ผกก.สภ.กันทรลักษ์  ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ภัทรพล กมล รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.ภทรธร  ชญาธนานันท์ สว.สส., ร.ต.อ.กฤษฏ์  อนันต์  รอง สว.สส., ร.ต.อ.อนุสรณ์  พันธ์อ่อน  รอง สว.สส., ร.ต.อ.จีรศักดิ์   พิมพ์ไชย รอง สว.สส., ร.ต.ท.วินัย  จำปาเรือง รอง สว.(ป.), ร.ต.ต.ไพฑูรย์  ศรีวงษ์ รอง สว.(ป.) และเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.กันทรลักษ์ ได้นำหมายจับของศาล จำนวน 4 ศาล ประกอบด้วย 1. ศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ จ.405/2564 ลงวันที่ 7 ก.ย. 2564 ความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์ฯ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใด บุคคลหนึ่งฯ”  2. ศาลจังหวัดฝาง ที่ จ.29/2565 ลงวันที่ 14 ก.พ. 65 ความผิดฐาน “โดยทุจริตหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จฯ”  3.  ศาลจังหวัดตะกั่วป่า ที่ จ.87/2564 ลงวันที่ 29 ธ.ค.2564 ความผิดฐาน “ฉ้อโกงหลอกขายสินค้าที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์”   4. ศาลอาญาธนบุรี ที่ 600/2564 ลงวันที่ 24 พ.ย.2564 ความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ” ไปทำการจับกุม น.ส.กิ๊ก (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นสมาชิกเฟสบุ๊คใช้ชื่อ 3 ชื่อคือ  JUTHATHIP , บ้านสวนต้นไม้, NAMFON NAMFON หลอกขายสินค้าต่าง ๆ เช่น หน้ากากอนามัย ทุเรียนภูเขาไฟ และสินค้าต่าง ๆ ให้กับประชาชนทั่วประเทศมานานกว่า 4 ปีแล้ว 

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า  เมื่อเจ้าหน้าที่ ตร.ไปถึงห้องเช่าที่ น.ส.กิ๊ก หลบซ่อนอยู่พบว่า น.ส.กิ๊ก อยู่กับเพื่อนอีก 2 คน  จากการตรวจค้นภายในห้องเช่าพบว่า มียาบ้า จำนวน 7 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องเช่าด้วย  ตร.จึงได้ตั้งข้อหากับ น.ส.กิ๊กว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ชนิดร้ายแรงไว้ในครอบครองอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย  และยังเป็นบุคคลตามหมายจับ รวม 4 หมาย จึงได้ควบคุมตัว                                 น.ส.กิ๊ก ไปทำการสอบสวนที่ สภ.กันทรลักษ์  ซึ่ง นายสุกิจ  เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ และ พ.ต.อ.นรินทร์  บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ได้ร่วมกันสอบสวน น.ส.กิ๊ก ด้วยตนเอง

น.ส.กิ๊ก (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ชาวบ้าน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ให้การรับสารภาพว่า ตนเริ่มเปิดขายสินค้าออนไลน์ทางเฟสบุ๊คมาตั้งแต่ปี 2562  โดยเริ่มจากการขายแมส หรือหน้ากากอนามัยจากประเทศจีน โดยจะขายลังละ 7,000 บาท เมื่อมีคนสั่งซื้อแมสจำนวน 1 ลัง ราคา 7,000 บาท ตนจะได้กำไรลังละ 200 บาท  และจะส่งเงินจำนวน 6,800 บาท ไปให้พ่อค้าที่มีสต๊อคสินค้าไว้ผ่านทางไลน์กลุ่ม เพื่อให้พ่อค้าส่งสินค้าไปให้ผู้ที่สั่งซื้อ  ซึ่งช่วงแรก ๆ ก็มีการส่งสินค้าให้ผู้ที่สั่งซื้อตามปกติ แต่ว่าต่อมาเมื่อมีผู้สั่งซื้อและส่งเงินมาให้ตนทางเป๋าตังค์แล้ว ปรากฏว่า ทางพ่อค้าไม่ได้ส่งสินค้าไปให้ผู้ที่สั่งซื้อ  ทำให้ตนซึ่งเป็นผู้รับเงินซื้อสินค้ามาแล้วโดนลูกค้าทวงถามอย่างต่อเนื่องและจำนวนผู้เสียหายเพิ่มมากขึ้น  ตนจึงได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ แต่เนื่องจากว่า ตนไม่มีที่ปรึกษาจึงทำได้เพียงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับพ่อค้าที่สต๊อคสินค้าแล้วไม่ส่งให้ลูกค้าแต่อย่างใด  

น.ส.กิ๊ก (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี  กล่าวต่อไปว่า ต่อมาตนทราบว่า มีการส่งหมายเรียกมาที่บ้านของตนจำนวนมาก  และพนักงานสอบสวนหลายแห่งได้โทรมาหาตนเพื่อให้รับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น  ตนไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร จึงได้ใช้วิธีโพสต์จำหน่ายสินค้าในเฟสบุ๊คโดยใช้ชื่ออื่นต่อไป  โดยมีชื่อของลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าแล้วยังไม่ได้รับสินค้าอยู่ในกลุ่มสมาชิกด้วย   เมื่อมีผู้สั่งซื้อสินค้าและโอนเงินเข้ามา  ตนจะนำเอาเงินที่ได้รับมาส่งไปให้ลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้ามาก่อนแต่ไม่ได้รับสินค้า เพื่อต้องการให้ลูกค้าที่ไปแจ้งความเอาไว้แล้วให้ไปถอนแจ้งความ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา โดยนำเอาเงินที่ได้รับมาไปหมุนเวียนแบบนี้ ต่อมาปี 2563 – 2564  ตนได้จำหน่ายทุเรียนหมอนทองด้วย  แต่เนื่องจากว่า สมาชิกเฟสบุ๊คเห็นว่าตนอยู่ที่                            อ.กันทรลักษ์ ซึ่งเป็นดินแดนทุเรียนภูเขาไฟ ทำให้คิดว่า ทุเรียนหมอนทองที่ตนเปิดขายเป็นทุเรียนภูเขาไฟทำให้มีคนโอนเงินมาสั่งจองทุเรียนจำนวนมาก ซึ่งตนก็ไม่ได้ส่งทุเรียนไปให้ เพราะว่าต้องนำเอาเงินไปหมุนโอนให้ลูกค้าที่ยังเป็นหนี้อยู่เพื่อเป็นการใช้หนี้  ทำให้มีผู้เสียหายเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม โดยจากการที่ตนได้ตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคารแล้ว ปรากฏว่า มีเงินผ่านบัญชีธนาคารของตนมากกว่า 300,000 บาท ซึ่งตนได้รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

พ.ต.อ.นรินทร์  บุพตา  ผกก.สภ.กันทรลักษ์  กล่าวว่า ในเบื้องต้นจะมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความข้อหา ฉ้อโกงในการจำหน่ายสินค้า ซึ่งมีผู้เสียหายทยอยเข้ามาแจ้งความเรื่อย ๆ และมีต่างพื้นที่ได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามซึ่งพนักงานสอบสวนในท้องที่ที่เกิดเหตุก็จะได้มีการอายัดตัวผู้ต้องหาต่อไป โดยผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพ ซึ่งเบื้องต้นเราจะต้องดูมูลค่าของความเสียหายเสียก่อนโดยแต่ละรายความเสียหายประมาณรายละ 1,000-2,000 บาท

นายสุกิจ  เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์  กล่าวว่า  ขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนทุกท่านว่าการหลอกลวงทางออนไลน์ปัจจุบันก็มีหลายรูปแบบ โดยเฉพาะมีการสื่อสารสร้างความเชื่อถือและไม่มีสินค้าให้ กรณีของผู้ต้องหารายนี้ประเด็นคือเกิดเหตุหลายพื้นที่ทั่วประเทศมีการแจ้งมาว่า  ที่ อ.กันทรลักษ์ทุเรียนกำลังออกมีการใช้ชื่อของผู้ต้องหารายนี้เปิดบัญชีติดต่อซื้อขายและไม่มีการส่งมอบทุเรียนให้ แต่จากการสอบถามข้อมูลจากผู้ต้องหารายนี้ก็ได้รับทราบว่า เคยรับจองทุเรียนเมื่อปีที่แล้วแต่ว่าปัจจุบันก็ยังไม่มีการซื้อขายทุเรียนทางออนไลน์ แต่หลักฐานทางพื้นที่ต่างๆที่ส่งมาที่ อ.กันทรลักษ์เราได้รับทราบ จึงได้นำเรียน ผวจ.ศรีสะเกษเพื่อรับทราบเบื้องต้นและได้ส่งข้อมูลให้กับทาง ผกก.สภ.กันทรลักษ์ได้ตรวจสอบเนื่องจากหลักฐานที่ปรากฏ แจ้งมาว่าผู้ที่ทำการโพสต์เกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าทุเรียนอาศัยอยู่ที่                         อ.กันทรลักษ์  เราจึงได้นำหลักฐานต่างๆมาประมวลผล จนสุดท้ายท่าน  ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ได้สืบสวนจนทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ในที่สุด////////// 

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ